ตอนที่ 2【2】
“หืม มีพวกอวดเก่งอีกคนแล้วเช่นนั้นหรือ” หัวหน้าโจรหันมาทางจางอี้เทาที่เอ่ยขอร้องแทนชาวบ้านด้วยความสนใจ
“ข้ามิได้อวดเก่ง ข้าเพียงแต่ขอร้องท่านว่าอย่าได้ทำร้ายพวกเราเลย เห็นแก่ที่พวกเราต่างเป็นมนุษย์เหมือนกันและเป็นเพียงชาวบ้านเท่านั้น ชาวบ้านเช่นพวกเราไหนเลยจะมีอาหารหรือสิ่งของมีค่าอันใดให้พวกท่านสนใจ ข้าพูดถูกหรือไม่” จางอี้เทายังคงมีสติเพียงพอที่จะเกลี่ยกล่อมหัวหน้าโจรให้เลิกทำร้ายชาวบ้านเสียที
“ได้สิ ในเมื่อเจ้าขอร้อง ข้าก็จะไม่ทำร้ายพวกเจ้าเพียงแต่ตอนนี้ถึงเวลาที่พวกเจ้าต้องไปเอาอาหารและสิ่งของมีค่ามาให้พวกข้าเดี๋ยวนี้ และอย่าได้คิดตุกติก ไม่เช่นนั้นจะหาว่าดาบในมือข้ามันกระหายเลือดไม่ได้” หัวหน้าโจรเอ่ยขู่เสียงดัง
“ไป๊!”
ชาวบ้านชายรีบลนลานกลับไปยังบ้านของตนเอง ตอนนี้ไม่มีใครกล้าคิดขัดขืนพวกโจรถ่อยอีกเลย ถึงแม้จะขาดอาหารแต่อย่างน้อยก็ยังมีชีวิตรอด ในอนาคตข้างหน้าค่อยว่ากันอีกที
จางอี้เทากลับบ้านไปพร้อมกับลูกน้องโจรคนหนึ่งที่เดินตามมา เขาเกือบควบคุมตนเองไว้ไม่ได้ เพราะกำลังคิดถึงห้องลับที่มารดากับบุตรชายหลบอยู่ อีกสิ่งหนึ่งที่อี้เทาสงสัยคือเหตุใดจึงมีโจรเพียงคนเดียวที่เดินตามเขามา
“รีบเดินเร็วเข้า หากชักช้ากว่านี้อย่าหาว่าข้าโหดร้าย” โจรคนนั้นเอ่ยเสียงดัง
“พี่ชาย ข้ารีบถึงที่สุดแล้ว”
“ตรงลานบ้าน ข้าเห็นเจ้ากับเมียเพียงเท่านั้น เหตุใดถึงไม่เห็นลูกชายของเจ้า” โจรแปลกหน้าเอ่ยถามพลางชี้มือไปยังเตียงนอนที่มีร่องรอยของการใช้งานและผ้าห่มที่ยังเปิดอ้าไว้ เหมือนรีบลุกจากไป
ถึงแม้ว่าหิมะจะหยุดตกไปแล้วแต่อากาศยังหนาวเย็นอยู่มาก ทว่าตอนนี้จางอี้เทาถึงกับเหงื่อตกไหลออกมาตามใบหน้าเมื่อได้ยินคำถามนั้น
“พะ พี่ชาย นั่นเป็นห้องนอนของมารดาและบุตรชายของข้า พะ พวกเขาเข้าไปในเมืองขอรับ” จางอี้เทากลั้นใจตอบออกไป
“ยืนนิ่งอยู่ทำไม เหตุใดไม่ไปเก็บเสบียงอาหาร หรือเจ้าอยากจะเจ็บตัวเช่นนั้นหรือ” โจรร้ายได้ฟังแล้วไม่พูดอันใด ก่อนจะสั่งให้จางอี้เทารีบเก็บเสบียง
“ขะ ข้าทำเดี๋ยวนี้” จางอี้เทารีบตรงไปยังห้องเก็บเสบียงซึ่งในนั้นมีเสบียงอยู่ไม่น้อย เขาพยายามเดินออกห่างห้องลับมากที่สุด
“เจ้าเอาเสบียงกลับไปได้” โจรคนนั้นเอ่ยบอกจางอี้เทาเมื่อเห็นว่าเขาเก็บเสบียงทั้งหมดใส่ลงไปในถุงแล้ว
“แล้วพี่ชายไม่กลับไปที่ลานบ้านกับข้าหรือขอรับ” จางอี้เทาเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ ทำไมเจ้าโจรคนนี้ถึงให้เขากลับไปคนเดียว
“เจ้ากล้าตั้งคำถามกับข้าเช่นนั้นหรือ” โจรหันมาตวาดใส่จาง
อี้เทา เขาจึงจำใจต้องเดินออกจากบ้านมาเพื่อไม่ให้เกิดข้อสงสัยว่ายังมีใครอยู่ในบ้านอีก
จางอี้เทาเดินกลับมายังลานหมู่บ้านพร้อมกับวางถุงเสบียงของบ้านตนเองรวมไว้กับของบ้านอื่น เมื่อเสร็จแล้วจึงเดินกลับไปนั่งรวมกับหลี่อ้าย
หลี่อ้ายเห็นว่าสามีกลับมาคนเดียว โจรที่เดินตามไปด้วยไม่ได้กลับมา จึงกำลังจะเอ่ยปากถาม แต่ก็ต้องรีบปิดปากลงเมื่อเห็นสามีส่ายหน้าส่งสัญญาณว่าห้ามพูด
จะให้ทำเช่นไรได้ ใจนางร้อนอย่างกับไฟแล้วที่ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับบุตรชายหรือไม่ การที่แอบซ่อนบุตรชายไว้ที่ห้องลับมิรู้ว่าจะเป็นสิ่งที่ดีหรือร้ายกันแน่
หัวหน้าโจรเห็นว่าเสบียงที่กองอยู่ตรงหน้ามีมากพอและทุกคนนำมาให้หมดแล้วจึงผิวปากส่งสัญญาณให้ลูกน้องกลับมารวมตัวกันเพื่อขนเสบียงทั้งหมดขึ้นเกวียนและรถม้าเพื่อเตรียมตัวจากไป
“มีสิ่งหนึ่งที่ข้าเกลียดที่สุดคือการขัดคำสั่ง ข้าบอกให้สมาชิกทุกคนของบ้านหลัวถงมารวมตัวกันที่นี่แต่ก็มีบางคนขัดคำสั่ง เช่นนั้นหากข้าไม่สั่งสอนพวกเจ้าคงไม่หลาบจำ ไปจัดการ” หัวหน้าโจรพูดขึ้นเมื่อรถม้าได้บรรทุกเสบียงทั้งหมดเตรียมตัวออกเดินทางจากไป
ชาวบ้านได้แต่สงสัยว่าหัวหน้าโจรพูดอันใดจนมีชาวบ้านคนหนึ่งตะโกนขึ้นพร้อมชี้มือไปยังทิศท้ายหมู่บ้าน เปลวเพลิงร้อนแรงที่ลุกโหมขึ้นส่งผลให้เห็นได้อย่างชัดเจนในยามเดือนมืดเช่นนี้
“นั่นมิใช่บ้านอาเทาที่อยู่ท้ายหมู่บ้านเช่นนั้นหรือ”
จางอี้เทาและหลี่อ้ายได้ยินเช่นนั้นจึงหันหน้าไปทันที บ้านของพวกเขากำลังถูกไฟเผาจนควันดำลอยขึ้นเต็มฟ้า แสงจากเปลวไฟขนาดใหญ่สาดส่องให้ทั้งหมู่บ้านสว่างไสว ในตอนนี้เองที่หัวใจของหลี่อ้ายหล่นไปถึงตาตุ่ม
“ไม่ ท่านพี่ หมิงเอ๋อร์ หมิงเอ๋อร์” หลี่อ้ายอุทานขึ้นมาและจะวิ่งกลับไปยังบ้านของตน โดยหลงลืมไปว่ากำลังปิดบังเรื่องแม่สามีกับบุตรชายไว้
“น้องหญิงเงียบ” จางอี้เทารีบเอ่ยเตือนภรรยา
“นี่คือบทลงโทษจากการขัดคำสั่งของข้า”
หัวหน้าโจรเมื่อเห็นว่าไฟลุกไหม้ใหญ่โตเกินกว่าจะสามารถดับได้แล้ว จึงสั่งให้ทุกคนขึ้นม้าจากไป คงเหลือไว้เพียงบ้านจางที่เปลวไฟลุกไหม้โชติช่วง
คล้อยหลังกลุ่มโจร หลี่อ้าย จางอี้เทา และชาวบ้านพากันวิ่งตรงไปยังบ้านจาง แต่ก็จนใจด้วยไฟที่ลุกโหมเกินกว่าจะสามารถช่วยกันดับลงไปได้ หลี่อ้ายร้องไห้โฮ นางเป็นลมล้มพับไปทันที
จางอี้เทาหัวใจสั่นรัว เขารีบคว้าภาชนะใกล้ตัวเดินไปตักน้ำและสาดเข้ากองไฟ ในหัวเอาแต่คิดหาทางเข้าไปช่วยมารดาและบุตรชายของตนเองออกมา
หมิงเอ๋อร์ ท่านแม่ ได้โปรดรอข้าเข้าไปช่วยอย่างปลอดภัยด้วยเถิด
ได้โปรดมีชีวิตอยู่รอข้าอีกนิด...