บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 เกลือผัก【2】

“โอ้โหท่านย่า ใช้ได้และเจ๋งไปเลยขอรับ” อี้หมิงยกนิ้วโป้งทั้งสองข้างส่งไปให้หญิงชรา เขาลืมไปแล้วว่าสมัยนี้มีครกอยู่

นางหูยิ้มตอบหลานชายตัวน้อยด้วยความเอ็นดู แม้จะงงกับคำว่า เจ๋ง แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร มันคงจะเป็นคำพูดของพวกเด็ก ๆ กระมัง

“ท่านย่า การทำเกลือผักง่ายมากเลยขอรับ เพียงนำหญ้าสายรุ้งมาล้างให้สะอาด นำไปตากแดดให้แห้งประมาณสามถึงสี่ครั้ง ต้องตากให้แห้งสนิทนะขอรับ เพราะว่าหญ้าสายรุ้งเป็นพืชอวบน้ำ ถ้าไม่แห้งสนิทมันจะใช้ได้ไม่นานและขึ้นรา เอ่อ...ข้าหมายถึง มันจะเน่าเสีย จากนั้นนำมาตำให้ละเอียด เก็บไว้ในไหที่ปิดสนิท แค่นี้เราก็สามารถนำมาปรุงอาหารได้แล้วขอรับ”

“หมิงเอ๋อร์ แล้วมันเหมือนต้นหญ้าหวานหรือไม่”

“มันแตกต่างจากหญ้าหวานขอรับ ถ้าเราต้องการเก็บหญ้าหวานไว้นาน ๆ ต้องตากให้แห้งสนิท ครั้งต่อไปเราจึงไม่ต้องไปเก็บต้นหญ้าหวานบนภูเขาบ่อย ๆ เราทำน้ำตาลผักจากใบหญ้าหวานที่ตากแห้งได้เลย แต่ถ้าเราจะต้มทันที แห้งนิดหน่อยก็นำมาใช้ได้ขอรับ”

“ย่าว่ากลิ่นมันคล้าย ๆ ต้นหญ้าหวานเหมือนกันนะ”

“หญ้าสายรุ้งมันจะมีกลิ่นฉุนนิดหน่อย คล้ายกลิ่นทะเล และเป็นเพราะเราเอามาตากแห้ง มันจึงมีกลิ่นเหมือนของแห้งทั่วไป ถ้าเราเอาไปปรุงใส่ในน้ำแกง กลิ่นพวกนี้ก็หายไปขอรับ มันอาจจะไม่ดีมากเหมือนเกลือจริง ๆ แต่มันพอใช้แทนกันได้ขอรับ”

“หมิงเอ๋อร์ ย่าเข้าใจแล้ว เอาล่ะ เราลงมือทำกันเลย”

นางหูนั่งลงบนแคร่ไม้และเริ่มจัดการตำหญ้าสายรุ้งแห้ง ผ่านไปไม่นานจึงได้ผงหญ้าสายรุ้งมาพอประมาณ ถึงแม้ว่ามันจะตำได้ไม่ละเอียดเท่าเกลือในยุคปัจจุบันแต่ก็ละเอียดกว่าเกลือเม็ดในยุคสมัยนี้ จางอี้หมิงพยักหน้าด้วยความพอใจ ถ้ามองเผิน ๆ มันก็คล้ายกับผงสมุนไพรดี ๆ นี่เอง

“นี่แหละขอรับ เกลือผัก” เด็กน้อยว่าและเสนอให้ลองนำมาทำอาหารดู

หูไป๋หงเห็นว่าได้เวลามื้อกลางวันแล้วจึงผัดผักบุ้งเครื่องเทศไว้รอบุตรชายกับสะใภ้ ครั้งนี้นางใส่เกลือผักลงไปด้วย ปรากฏว่ารสชาติอาหารไม่ได้แย่มาก ถึงแม้มันจะไม่อร่อยเหมือนเกลือจริง ๆ แต่ก็มีรสเค็ม ทำให้อาหารมีรสชาติมากขึ้น ที่สำคัญคือไม่มีกลิ่นฉุนของเกลือผักหลงเหลือในอาหารเลย

หลังจากทำกับข้าวเสร็จไม่นาน สองสามีภรรยาบ้านสกุลจางก็กลับมาจากการเก็บหญ้าหวานบนภูเขา นางหูจึงเรียกให้ทั้งคู่มากินข้าวก่อนที่จะนำหญ้าหวานไปล้างและตากแดดต่อไป

“อาเทา วันนี้หมิงเอ๋อร์ของเรามีของกินของชาวสวรรค์ตัวใหม่มาให้แม่ประหลาดใจอีกแล้ว” นางหูบอกบุตรชายขณะที่นั่งกินมื้อกลางวันด้วยกัน

“ของกินของชาวสวรรค์ตัวใหม่ มันคืออันใดขอรับ”

“เกลือผักน่ะ ผัดผักบุ้งเครื่องเทศวันนี้ก็ใส่เกลือผักลงไปด้วย เป็นเช่นไร อร่อยหรือไม่”

“ข้าก็เอะใจตั้งแต่ชิมในตอนแรกแล้วเจ้าค่ะ มันอร่อยกล่อมกล่อมมากขึ้น เค็ม ๆ มัน ๆ รสชาติไม่เหมือนเกลือเสียทีเดียว อร่อยเช่นใดข้าก็บอกไม่ถูกเจ้าค่ะ” หลี่อ้ายออกความเห็น

นางพอจะรับรู้รสชาติเค็ม ๆ ที่เพิ่มเข้ามาในอาหารแล้ว แต่ก็ไม่ได้กล่าวอันใดออกไปเพราะคิดว่าตนคงคิดไปเอง

“ข้าเห็นด้วย” อี้เทาพยักหน้า เขาคิดเห็นเช่นเดียวกับภรรยา

“ท่านพ่อ วันนี้ข้ามัวแต่ตื่นเต้นที่ได้รับใบสั่งซื้อจากเถ้าแก่หวังรอบใหม่ จึงลืมไปเลยว่าพวกเราจะขอติดรถม้าเข้าเมืองไปขายสูตรหมูพะโล้แห้งกัน และข้าว่าจะเอาเกลือผักไปถามถึงวิธีการที่จะทำออกมาขายให้เถ้าแก่หวังด้วยขอรับ แต่ท่านย่าบอกว่าเกลือเป็นสินค้าควบคุม เราต้องวางแผนให้ดี” อี้หมิงเอ่ยกับบิดาขึ้นมาบ้าง

“ใช่แล้วหมิงเอ๋อร์ เกลือเป็นสินค้ามีราคาแพงและถูกควบคุมโดยราชสำนัก พ่อว่าเราลองเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาเถ้าแก่หวังดีไหม พรุ่งนี้หมิงเอ๋อร์เข้าไปในเมืองกับพ่อเพื่อลองไปขายสูตรพะโล้แห้งกัน ให้แม่เจ้ากับท่านย่าเฝ้าหญ้าหวานตากแดด วันถัดไปเราค่อยทำน้ำตาลผักกันดีหรือไม่”

“เป็นความคิดที่ดีนะอาเทา แม่เห็นด้วย”

“ข้าก็เห็นด้วยเจ้าค่ะ” หลี่อ้ายส่งยิ้มหวานให้สามี

“แล้วเกลือผักมันมีหน้าตาเป็นอย่างไร ทำยากหรือไม่” อี้เทาถามบุตรชายตัวน้อย

“มันทำไม่ยากขอรับ เรื่องมันก็เป็นแบบนี้ขอรับ...” จางอี้หมิงเอ่ยเล่าทุกอย่างตั้งแต่ตอนที่ตนเองไปเจอทุ่งหญ้าสีรุ้งขณะไปจับปูที่ทะเล จนพลัดตกน้ำและล้มป่วย จนถึงซูลี่เอาหญ้าสีรุ้งมาให้ พอมันแห้ง ท่านย่ากับตนเองจึงได้ช่วยกันตำเป็นผงเกลือผัก

“ท่านพ่อ หลังกินมื้อกลางวันแล้ว ข้าจะเอาผงเกลือผักมาให้ท่านพ่อดู แล้วข้าจะพาท่านพ่อไปดูทุ่งหญ้าสีรุ้งด้วย ท่านแม่ไปด้วยกันไหมขอรับ มันสวยมากจริง ๆ นะขอรับ” อี้หมิงพูดกับบิดาจนจบจึงหันไปถามมารดา

“ไปด้วยกันไหมน้องหญิง ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ เจ้ายังไม่เคยได้ออกไปไหนไกล ๆ เลย ช่วงบ่ายนี้พวกเราก็ไปทะเลกันเถอะและจะได้ไปดูทุ่งหญ้าสีรุ้งด้วย”

“เช่นนั้น ข้าไปกับท่านพี่และหมิงเอ๋อร์ก็ได้เจ้าค่ะ ท่านแม่ล่ะเจ้าคะ ไปด้วยกันไหม”

“ไม่ล่ะ แม่แก่แล้ว พวกเจ้าสามคนพ่อแม่ลูกไปเที่ยวด้วยกันเถอะ แม่จะนอนพักผ่อนสักหน่อย” นางหูเอ่ยปฏิเสธออกไป

หลังจากที่กินมื้อเที่ยงเสร็จแล้ว ครอบครัวสกุลจางจึงได้ทำตามที่ตกลงคุยกันไว้ จางอี้หมิงมีความสุขมาก ตอนนี้เขากำลังเดินอยู่ตรงกลาง ด้านขวามือเป็นท่านพ่อและด้านซ้ายมือเป็นท่านแม่ พวกท่านกำลังเดินจูงมือเขาเดินไปด้วยกัน มันเป็นภาพในฝันที่ชีวิตของอานนท์เฝ้ารอคอยมาตลอด เขาอยากตะโกนก้องให้โลกรู้จังว่า มันฟินสุด ๆ ความฝันของเขาเป็นจริงแล้ว

ท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านย่า ข้าสัญญาว่าจะรักษาความสุขแบบนี้ให้คงอยู่ตลอดไป

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel