บทที่ 4
ภายในท้องพระโรงอันใหญ่โตกว้างขวาง ตอนนี้มีบรรยากาศไม่ต่างจากสถานบันเทิงในยามค่ำคืน ทั่วทั้งห้องดูมืดสลัวราวกับตอนกลางคืนไม่มีผิด ทั้งๆ ที่ตอนนี้พระอาทิตย์ยังไม่ตกดินด้วยซ้ำไป แสงไฟนวลจากหลอดนีออนถูกเปิดให้ความสว่างแค่ไม่กี่ดวงเท่านั้น กระนั้นนีนธาราก็ยังมองเห็นบรรยากาศได้ทั่ว และรู้ด้วยว่าตอนนี้ภายในท้องพระโรงมีแค่เพียงบรรดาองครักษ์หน้าตาโหดเหี้ยมยืนอยู่นับสิบๆ คน ซึ่งนอกจากพวกเธอสาวงามทั้ง 31 คนแล้ว ไม่มีอิสตรีอื่นอยู่เลยแม้แต่คนเดียว
และระหว่างรอการเสด็จมาถึงของท่านชีค นีนธาราก็หันไปมองสาวๆ ทุกคน ซึ่งไม่มีใครมีท่าทีหวาดกลัวแม้แต่คนเดียว ทุกคนกลับยิ้มระรื่น ราวกับตื่นเต้นที่จะได้พบกับประมุขหนุ่มในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
“คุณคะ”
นีนธาราหันไปสะกิดหญิงสาวคนที่ยืนอยู่ติดกับเธอ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นพวกลูกครึ่งอเมริกัน ก่อนจะกระซิบถามเบาๆ
“พวกคุณต้องเต้นระบำหน้าท้องให้ท่านชีคดูใช่ไหมคะ”
“ไม่ใช่แค่พวกฉัน เธอเองก็ต้องเต้นเหมือนกัน”
หญิงสาวลูกครึ่งอเมริกันหันมาตอบ จากนั้นก็หยิบยาเม็ดเล็กๆ ที่ได้รับแจกคนละเม็ดส่งเข้าปากทันที
นีนธารามองยาเม็ดสีขาวในมือของเธอบ้าง แต่ไม่ได้ส่งเข้าปากเหมือนหญิงสาวคนนี้ ก่อนจะกระซิบถามต่อ
“คุณกินยาอะไร แล้วกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่พวกเราดมนั้นคืออะไรกัน”
“ยาปลุกเซ็กส์!”
คำตอบสั้นๆ ของสาวลูกครึ่ง ทำเอานีนธาราผงะตกใจก้าวถอยหลังไปหลายก้าว ยาในมือถูกปล่อยให้หล่นไปตกอยู่บนพื้นพรมงดงาม ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันที่ราชนิกุลหนุ่มผู้สูงส่ง ได้เสด็จเข้ามาในท้องพระโรงพอดี
ชีคคาร์รานส์ อัลฟาส นัสราน บุรุษชายชาติกษัตริย์ผู้หล่อเหลา เจ้าแห่งแผ่นดินทะเลทรายประเทศอัสดานส์ ทรงก้าวเดินเข้ามาในท้องพระโรงด้วยท่วงท่าองอาจดุจราชสีห์ผู้ห้าวหาญ พอเดินเข้ามาภายในท้องพระโรง และทรงทอดพระเนตรเห็นนางระบำหน้าท้องในชุดสีแดงสดผงะถอยหลัง มียาปลุกเซ็กส์หล่นจากมือตกมาอยู่บนพื้นพรมเปอร์เซียราคาแพง ก็ทรงก้มลงเก็บมาถือไว้ในพระหัตถ์ ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ พร้อมกับตำหนิคนของพระองค์ไปในตัว
“นังนาฮาน นี่บอกไม่จำ ว่าอย่าให้นางบำเรอพวกนี้กินยาปลุกเซ็กส์”
“นาฮานมันคงหวังดีนะพ่ะย่ะค่ะ กลัวว่านางบำเรอพวกนี้จะมอบความสำราญให้กับฝ่าบาทได้อย่างไม่เต็มที่”
องครักษ์เอกรุสฮาน ซากีส นัจรีน กระซิบตอบเป็นการแก้ตัวให้กับนาฮาน หญิงวัยค่อนคนที่มีหน้าที่จัดหาสาวๆ ให้กับประมุขหนุ่ม
ชีคคาร์รานส์ทรงก้มมองยาปลุกเซ็กส์ในพระหัตถ์อยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เอื้อมไปจับมือเล็กนุ่มนิ่มของนางระบำหน้าท้องในชุดสีแดงสด ที่ยืนอยู่เบื้องพระพักตร์ของพระองค์ให้รับไปถือไว้
“เก็บยาของเจ้าไว้ซะ เผื่อว่าคืนนี้เจ้าจะได้อยู่รับใช้เรา รวมกับนางบำเรออีกเก้าคน”
นีนธารารีบดึงมือกลับ รู้สึกราวกับถูกไฟช็อต ตอนพระหัตถ์ใหญ่ของชีคคาร์รานส์ เอื้อมมาจับมือของเธอแล้วกุมไว้แน่น จากนั้นก็เอ่ยบอกให้ราชนิกุลหนุ่มรู้ว่าเธอไม่ใช่นางบำเรอตามที่พระองค์ทรงเข้าใจผิด
“ฉันไม่ใช่นางระบำ ไม่ใช่นางบำเรอ ฉันแค่ต้องการมาตามหาน้องสาวเท่านั้น ท่านชีคกำลังเข้าใจผิดแล้วค่ะ”
ชีคคาร์รานส์ชะงักฝีเท้าที่กำลังก้าวเดิน จากนั้นก็หันขวับมาทอดพระเนตรจ้องมองเขม็ง และก่อนที่นีนธาราจะทันตั้งตัว ร่างบางระหงของเธอก็ปลิวไปตามแรงกระชากของพระหัตถ์ใหญ่ร้อนผะผ่าว ที่ดึงกายเธอไปปะทะกับพระวรกายใหญ่โตล่ำสัน
“ถ้างั้นก็ต้องพิสูจน์ว่าเจ้าจะเจนจัดเหมือนพวกนางบำเรอหรือเปล่า”
ว่าแล้วก็ทรงลดโอษฐ์ร้อนผะผ่าวลงมากระแทกจุมพิตดุดันเร่าร้อนทั่วเรียวปากอิ่ม พระหัตถ์ใหญ่ข้างหนึ่งสอดเข้าไปกอบกุมทั่วปทุมอิ่มอะร้าอร่าม บีบเคล้นคลึงหนักหน่วงตรงยอดปลายถันสีชมพูหวานจนแข็งเป็นไต ส่วนพระหัตถ์อีกข้างสอดเข้าไปในบิกินี่ซีทรูเบื้องล่าง ประกบพระหัตถ์ร้อนๆ กับดินแดนแห่งความหรรษาที่นุ่มเนียนเสียยิ่งกว่าแพรไหม พระองค์ทรงบดขยี้จุมพิตดุดัน ในขณะที่ฝ่าพระหัตถ์ทั้งสองก็ทำงานไม่ลดละ ทั้งเคล้นคลึง ทั้งฟอนเฟ้นจนคนที่อ่อนหัดในเพลิงรักอย่างนีนธารา ต้องหลุดเสียงร้องครางออกมาด้วยความรัญจวนใจ
“อืม...ครางเสียงกระเส่าไม่ต่างจากโสเภณีชั้นต่ำ แอ่นอกเข้าหา เบียดกายเบื้องล่างเสียดสีไม่ต่างจากโสเภณีเบอร์หนึ่ง แบบนี้เจ้าจะปฎิเสธว่าไม่ใช่นางบำเรออีกรึ!”
เผียะ!!!
“ฉันไม่ใช่โสเภณี!”
เสียงที่ดังกึกก้อง ทั้งที่เกิดจากการประกาศกร้าว และเกิดจากฝ่ามือเล็ก ที่สะบัดตบพระพักตร์คมเข้มของเจ้าแห่งทะเลทรายผู้ยิ่งใหญ่ สร้างความตกตะลึงให้กับทุกคนในท้องพระโรง โดยเฉพาะตัวชีคคาร์รานส์เอง ที่ทรงตกใจไม่แพ้กัน พระพักตร์หล่อเหลาที่หันไปตามแรงตบปรากฏรอยแดงๆ ให้เห็นทั้งห้านิ้ว
แต่อาการตกตะลึงของทุกคนยังไม่จางหาย ก็มีอันตกตะลึงรอบสอง เมื่อชีคคาร์รานส์ได้ยกพระหัตถ์ตบไปบนใบหน้าของนีนธาราเต็มแรงเช่นเดียว
“และนี่! สำหรับเจ้าที่บังอาจตบหน้าเรา”
เผียะ!!!
“กรี๊ดดด!!!”
นอกจากคนที่ถูกตบจะหวีดร้องด้วยความตกใจแล้ว บรรดาสาวงามทั้งหลายก็หวีดร้องด้วยความหวาดกลัวกับอารมณ์ร้ายอันป่าเถื่อนของราชกุลหนุ่ม
“ออกไป! ออกไปให้หมดเดี๋ยวนี้”
ชีคคาร์รานส์ตวาดลั่น พระพักตร์ถมึงทึง ดวงเนตรวาวโรจน์ด้วยดวงไฟลูกใหญ่ ราวกับจะฆ่าคนได้
และไม่ต้องให้ถูกไล่เป็นรอบที่สอง บรรดาสาวงามทั้งหลายต่างก็วิ่งกรูออกจากท้องพระโรง โดยมีองครักษ์เอกรุสฮาน และองครักษ์นายอื่นๆ ช่วยกันต้อนออกจากห้องอีกแรง
ส่วนคนก่อเรื่อง พอเห็นคนอื่นวิ่งกรูออกไป ก็หมุนตัวจะวิ่งตาม แต่ร่างบางระหงก้าววิ่งได้แค่เพียงก้าวเดียว ก็ถูกพระหัตถ์ใหญ่จับต้นแขนบีบแน่น ก่อนจะกระชากให้ปะทะกับอกแข็งแกร่งดุจหินผาอีกครั้ง
“จะหนีไปไหนโสเภณีชั้นต่ำ เจ้าบังอาจนักที่ตบหน้าเราต่อหน้าผู้คนนับร้อย เจ้าจะต้องได้รับบทเรียนที่สาสมกับการกระทำของเจ้า”
“ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ ฉันไม่ใช่โสเภณี และไม่ใช่นางบำเรอด้วย” นีนธาราตวาดกลับ พยายามดิ้นรนให้หลุดพ้นจากพันธนาการแข็งแกร่ง
“จะใช่หรือไม่ใช่ เจ้าก็ต้องถูกลงโทษที่บังอาจตบหน้าเรา”
ชีคคาร์รานส์ตะคอกกลับ จากนั้นก็กดกระแทกจุมพิตเร่าร้อนดุดัน เป็นการลงโทษในเบื้องต้น พระโอษฐ์ที่บดขยี้ลงมาอย่างต้องการลงทัณฑ์ ทำเอานีนธาราเจ็บปวดไปทั่วเรียวปากจนต้องร้องครางออกมา
“ปล่อย! ไอ้คนกักขฬะ”
นีนธารายกมือผลักพระวรกายกำยำให้ถอยห่าง และจังหวะที่พยายามดันกายออก พระหัตถ์ใหญ่ของชีคจอมซาดิสต์ ก็เลื่อนมาจับตรงบิกินี่ตัวเล็ก แล้วกระชากออกเต็มแรงปลดปล่อยให้ปทุมอิ่มอะร้าอร่ามปรากฏต่อดวงเนตรคมกล้า
“กรี๊ดด!!! ไอ้คนเลว”
นีนธาราหวีดร้องเบิกตาโพลง ก่อนจะรีบยกมือปกปิดเรือนกายของตนเองไว้ ส่วนชีคคาร์รานส์ก็เกิดอาการตะลึงงัน เมื่อดวงเนตรปะทะกับความงดงามของปทุมอิ่ม ซึ่งพระองค์สาบานได้ว่าไม่เคยเห็นปทุมของหญิงใด กลมกลึงเหมาะมือน่ากลืนกินเช่นของหญิงสาวผู้นี้
“พระเจ้า! เจ้ากำลังทำให้เราต้องการเจ้าจนตัวสั่นไปหมด”
“ออกไป อย่าเข้ามานะ”
นีนธาราตวาดไล่ ทั้งอับอายทั้งหวาดกลัวเพลิงสวาทที่ลุกโชนอยู่ทั่วดวงเนตรคมกล้า หญิงสาวก้าวถอยหนีพระวรกายสูงใหญ่ ที่กำลังรุกเข้าหาทีละก้าว ราวกับราชสีห์กำลังจะตะครุบเหยื่อที่อยู่ตรงหน้า และพอหันไปทางประตูทางเข้าท้องพระโรง เห็นประตูเปิดกว้างอยู่ ก็รีบหมุนตัววิ่งตรงไปทั้งๆ ที่ยังเปลือยท่อนบนอยู่
“จะหนีไปไหน แม่โสเภณีคนสวย”
ชีคคาร์รานส์ คว้าร่างบางระหงให้ลอยจากพื้น จากนั้นก็ยกขึ้นพาดบ่า พาเดินออกจากท้องพระโรงตรงไปยังห้องบรรทมของพระองค์ โดยไม่สนใจเสียงหวีดร้องตะโกนด่าของอีกฝ่าย
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ท่านชีคกำลังเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ใช่อีตัวนะ”
“เจ้าจะประกาศว่าตัวเองเป็นอีตัวหรือไม่ เราไม่สนใจทั้งนั้น เพราะตอนนี้เราต้องการฝั่งกายอันร้อนรุ่มของเรา ให้จมดิ่งเข้าไปอยู่ในตัวของเจ้าในทันที”