บทที่3 ยกเลิกสัญญา
@บ้านสิริราญานุกุล
หลังจากแยกตัวกับเพื่อนๆชายหนุ่มก็ขับรถตรงกลับบ้านทันที และเมื่อย่างกายเข้ามาภายในบ้านผู้เป็นแม่ก็เรียกเขาเข้าไปหาทันที “กวินท์มานี่ก่อนสิลูกแม่มีเรื่องคุยด้วย”
“....” ร่างสูงโปร่งที่กำลังก้าวเท้าขึ้นบันใดหยุดชะงักทันทีเมื่อได้ยินเสียงผู้เป็นแม่ ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งลงบนโซหาข้างผู้เป็นพ่อในห้องโถงเงียบๆ
“พรุ่งนี้ลูกว่างไหมแม่มีนัดสังสรรค์กับครอบเจ้าสัวกัญชัยอยากให้ลูกไปด้วยกัน”
“ไม่ว่างครับ” ชายหนุ่มลอบถอนหายใจออกมาเบาๆระคนเบื่อหน่าย ก่อนปฏิเสธไปสาเหตุที่ผู้เป็นแม่ชวนเขาไปด้วยคงไม่พ้นเรื่องหาลูกสะใภ้คงคิดจะจับคู่ให้เขากับลูกสาวเจ้าสัวเหมือนเช่นที่ผ่านมา
“ลูกอายุไม่ใช่น้อยๆแล้วนะกวินท์พ่อกับแม่ก็แก่ตัวลงทุกวันแต่งงานมีหลานให้แม่สักคนไม่ได้เหรอ” คุณหญิงอมรรัตน์เริ่มหน้านิ่วคิ้วขมวดเมื่อบุตรชายปฏิเสธการนัดดูตัวครั้งนี้เธออุตส่าห์นัดหมายกับเจ้าสัวกัญชัยเป็นมั่นเป็นเหมาะ
“อย่าไปบังคับลูกเลยคุณหญิง” ประมุขของบ้านที่นั่งเงียบมานานพูดปามคุณหญิงอมรรัตน์ผู้เป็นภรรยาเพราะรู้ว่าบุตรชายไม่ค่อยพอใจนักที่ผู้เป็นแม่เอาแต่คอยจับคู่ให้เขากับคนโน่นทีคนนี้ทีถึงแม้ใบหน้าของบุตรชายจะเรียบนิ่งไม่แสดงอาการใดๆออกมาแต่คนเป็นพ่ออย่างเขาก็พอเดาได้
“คุณก็เป็นสะแบบนี้ตามใจลูกแล้วเมื่อไรฉันจะได้อุ้มหลานกันละคะ”
“คุณรอมาได้ตั้งนานรออีกสักหน่อยจะเป็นไรไป”
“คุณนี่ชอบขัดคอฉันจริงๆเลย” คุณหญิงอมรรัตน์มองค้อนสามีสลับกับบุตรชายด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะลุกเดินออกไปจากห้องโถง
“ไม่ต้องสนใจคำพูดของแม่เขานักหรอก” เสกสรรค์เอ่ยพร้อมกับตบไหล่บุตรชายเมื่อภรรยาหายหลังไปแล้ว
“...” ชายหนุ่มเพียงพยักหน้ารับเบาๆก่อนจะลุกเดินขึ้นห้องนอนตัวเอง เขาเดินมาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาก่อนจะล้วงไปหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาต่อสายหาเจนภพผู้ช่วยคนสนิท
(เจนภพโทรเรียกเด็กที่ชื่อแก้วตาให้ฉันหน่อย)
(เออ..ดูเหมือนทางเด็กคนนั้นจะมีปัญหานะครับคุณกวินท์)
(ปัญหาอะไร) คิ้วเข้มขมวดเป็นปมเมื่อได้ยินคำพูดคนปลายสาย
(เมื่อวานเธอโทรมาบอกว่าอยากคุยเรื่องสัญญาใหม่)
(แล้วยังไง)
(ผมนัดคุยกับเธอคืนนี้สองทุ่มที่เดอะปริ้นเซสคลับครับ)
นิ้วเรียวกดวางสายทันทีที่เจนภพพูดจบ ใบหน้าเรียบนิ่งเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมด้วยความไม่พอใจทุกเรื่องในชีวิตของเขาต้องเป็นระเบียบเรียบร้อย และต้องไม่มีปัญหาตามมาในภายหลัง ทว่าดูท่าตอนนี้เด็กสาวที่ชื่อแก้วตาจะเริ่มทำลายบรรทัดฐานของเขาแล้ว
ร่างสูงโปร่งหยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะส่าวเท้าเดินออกไปขึ้นรถแอสตัน มาร์ติน บีดีเอส ซุปเปอร์เลจเจราราคาหลายสิบล้านมุ่งตรงสู่เดอะปริ้นเซสคลับด้วยความเร็ว
@The Princess Club
หญิงสาวในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์สีซีดเดินนวยนาดเข้าไปในคลับโดยมีเพื่อนสาวเดินตามหลังมาติดๆ ก่อนที่มิราจะเอื้อมมือไปกระตุกเสื้อคนด้านหน้าเบาๆ ทำให้เธอหยุดชะงักหันกลับมาถามด้วยความสงสัย “มีอะไรมิรา”
“แกดูการแต่งตัวของแกกับผู้หญิงคนอื่นในคลับสิแตกต่างกันขนาดไหนฉันให้แกเปลี่ยนชุดทำไมแกไม่ยอมเปลี่ยน” มิรามองการแต่งตัวของเพื่อนสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะจับหน้าเพื่อนสาวให้หันมองกลุ่มสาวสวยในชุดเดรสหลากสีที่ยืนโยกย้ายตามจังหวะดนตรี ทว่าแก้มหวานหาได้สนใจไม่ว่าตัวเองจะดูดีในสายตาคนอื่นหรือไม่เธอแค่ต้องการมาคุยธุระให้จบๆไป “ฉันแค่มาธุระไม่ได้มาเที่ยวสักหน่อยแกเลิกบ่นได้แล้ว”
มิราถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อได้ยินคำตอบของเพื่อนสาว ก่อนจะถามเรื่องอื่นแทน “เขาได้บอกไหมว่าให้ไปเจอส่วนไหนของคลับ”
“ห้องวีไอพีสาม”
“ฉันรู้จักเดี่ยวพาไป” สิ้นสุดคำพูดมิราก็เดินนำเพื่อนสาวขึ้นมายังห้องวีไอพีสามที่ตั้งอยู่ชั้นสองของคลับ “ห้องนี้แหละแก้มเข้าไปเถอะฉันขอนั่งดื่มรอด้านนอก”
แก้มหวานเพียงพยักหน้ารับก่อนจะยกมือขึ้นเคาะประตู 2-3ครั้งแล้วค่อยๆเปิดประตูเข้าไป ขาเรียวเล็กก้าวมาหยุดตรงหน้าหนุ่มวัย28ปี มือเล็กยกขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม "สวัสดีค่ะคุณเจนภพฉันแก้มหวานพี่สาวแก้วตาค่ะ"
"เชิญนั่งครับ" เจนภพพยักหน้ารับ ก่อนเชื้อเชิญให้หญิงสาวนั่งแล้วถามไถ่ถึงจุดประสงค์ที่เธอนัดเจอเขาคืนนี้ “คุณแก้มหวานมีอะไรจะคุยกับผมครับ”
คนโดนถามผ่อนลมหายใจเข้าออกเบาๆเรียกความมั่นใจให้ตัวเอง ก่อนบอกธุระของตัวเองไป "ฉันจะขอยกเลิกสัญญาของน้องสาวค่ะ"
"ผมขอตัวสักครู่” เจนภพนิ่งเงียบสักพักก่อนจะลุกเดินออกไปหาเจ้านายที่นั่งดูการสนทนาของเขากับหญิงสาวผ่านกล้องอยู่ห้องข้างๆ
“ไปไหนของเขา” แก้มหวานได้แต่มองตามหลังด้วยความงุนงง ทว่าเธอหารู้ไม่ว่าทุกคำพูดทุกท่วงท่าของเธอโดนใครบางคนจับจ้องผ่านกล้องที่ถูกติดตั้งไว้ในห้อง
‘แกร็ก’
ผ่านไปกว่าสิบนาทีประตูห้องก็ถูกเปิดออกเจนภพเดินเข้ามาหย่อนสะโพกนั่งลงที่เดิมแล้วพูดขึ้น “เจ้านายผมบอกว่าหากยกเลิกสัญญาต้องคืนเงินค่าเลี้ยงดูจำนวนสองล้านที่น้องสาวของคุณขอเบิกล่วงมาก่อน”
“อะ..อะไรนะคะ” ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อได้ยินที่ชายหนุ่มพูด เงินสองล้านไม่ใช่จำนวนน้อยๆ ทว่าทำไมน้องสาวกลับไม่พูดถึงเรื่องนี้สักคำเธอทั้งตกใจและสงสัยในเวลาเดียวกัน
สีหน้าและสายตาของหญิงสาวบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเธอกำลังสับสนทำให้เจนภพต้องเอาหลักฐานการโอนเงินให้เธอดูเพื่อยืนยัน “นี่ครับหลักฐาน”
“...” ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มเข้าหากันแน่นจนเป็นเส้นตรงชื่อและนามสกุลที่โชว์ร่าอยู่บนสลิปการโอนเงินคือชื่อแก้วตาจริงๆ เธอถอนหายใจออกมาอย่างหนักอกก่อนจะขอปลีกตัวโทรหาน้องสาว “ขอเข้าห้องน้ำหน่อยนะคะ”
“ครับ”
ร่างบางหยัดกายลุกเดินไปเข้าห้องน้ำทันทีที่ได้รับอนุญาตมือเล็กหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายข้างขึ้นมาต่อสายหาน้องสาวด้วยความร้อนรนใจ
(แก้วเงินสองล้านที่แก้วขอเบิกจากผู้ว่าจ้างยังอยู่ครบไหม) เสียงหวานกรอกลงตามสายทันทีเมื่อปลายสายกดรับ
(เงินอะไรพี่แก้มแก้วงงไปหมดแล้ว) ปลายสายตอบกลับด้วยน้ำเสียงงุนงง
(ก็คนที่พี่มาเจรจาด้วยบอกว่าแก้วขอเบิกเงินล่วงหน้าจากเขาไปสองล้านหลักฐานก็มีชัดเจน)
(ไม่พี่แก้มหลังจากเซ็นสัญญาเสร็จแก้วก็ไม่เคยติดต่อเขาเลย แก้วสาบานได้)
(โอเคๆพี่วางสายก่อนไว้ค่อยคุยกันที่บ้าน)
หญิงสาวรู้สึกสับสนงุนงงเป็นอย่างมากเมื่อน้องสาวยืนยันว่าไม่รู้เรื่องเงินสองล้านจริงๆ ไม่รู้ว่าตัวเองควรเชื่อคำพูดของน้องสาวหรือหลักฐานที่เห็นดี เธอถอนหายใจออกมาระคนหนักใจ ก่อนวางสายจากน้องสาวแล้วเดินออกไปนั่งลงที่เดิม ดวงตากลมโตจับจ้องชายหนุ่มที่นั่งตรงหน้าอย่างจับพิรุธ ก่อนพูดขึ้น “น้องสาวฉันบอกว่าเขาไม่เคยโทรมาของเบิกเงินล่วงหน้าจากคุณค่ะ”
“ทำไมจะไม่เคยก็ผมเป็นคนรับสายเองแล้วก็โอนเงินให้เงินกับมือคุณก็เห็นหลักฐานแล้วนิครับ คุณลองกลับไปคุยกับน้องสาวให้รู้เรื่องก่อนค่อยมาคุยกับผมใหม่แต่อย่าให้นานนักเจ้านายผมไม่ได้ใจดี”
“แล้วทำไมเจ้านายคุณไม่มาคุยเองละคะ” หญิงสาวอดที่จะย้อนถามไม่ได้เมื่อชายหนุ่มเอ่ยถึงเจ้านายของเขา ทว่าเธอกลับโดนเขามองด้วยแววตาดุดัน
“ผมไม่จำเป็นต้องบอกคุณ” เจนภพพูดทิ้งท้ายก่อนจะลุกเดินออกไปจากห้องทิ้งให้ร่างบางนั่งเกาหัวด้วยความงุนงงแค่เธอถามถึงเจ้านายของเขาทำไมต้องโกรธ
“เป็นผีหรือไงทำตัวลึกลับแปลกทั้งเจ้านายลูกน้อง” เสียงหวานบ่นอุบอิบกับตัวเองเบาๆก่อนจะลุกเดินออกไปหาเพื่อนสาวที่นั่งดื่มอยู่ชั้นล่างของคลับ เธอถึงกับถอนหายใจออกมาระคนหนักอกเมื่อเห็นแก้วค็อกเทลที่วางเรียงรายบนโต๊ะ “หยุดดื่มได้แล้วมิรา”
“ขอดื่มแก้วนี้ให้หมดก่อน” มิราเอ่ยเสียงยานพร้อมกับยกแก้วค็อกเทลขึ้นหวังจะดื่มให้หมดแต่ก็โดนแก้มหวานแย่งไปดื่มแทนจนหมดซึ่งทุกการเคลื่อนไหวของหญิงสาวมีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องอยู่จากชั้นสองของคลับ
กวินท์จับจ้องร่างบางที่กำลังประคองเพื่อนสาวเดินออกจากคลับด้วยแววตาเรียบนิ่งจนลับสายตาเขาจึงเดินกลับเข้ามานั่งในห้องเหมือนเดิม มือหนายกแก้วไวน์ขึ้นมาแกว่งเล่นอย่างใจเย็นสมองก็ครุ่นคิดเรื่องของผู้หญิงที่เพิ่งเดินจากไปเขาอยากรู้เหมือนกันว่าเงินสองล้านของเขาหายไปไหนหรือที่จริงแล้วเธอกับน้องสาวเล่นตุกติกกันแน่