บทที่ 5 ขอโทษที่ผมชอบอ่อย...แต่ไม่บ่อยที่ใครจะรู้ (1)
นฤมลถูกเด็กอวดดีช้อนขึ้นอุ้มตรงดิ่งไปยังห้องน้ำ โดยที่เธออ้าปากค้างร้องห้ามไม่ทัน มือหนาทำงานคล่องแคล่วถอดบราเซียร์สีดำเนื้อผ้าบางเบาออกจากอกอิ่ม ปล่อยให้สองเต้าอวบอั๋นเด้งดึ๋งอวดสายตา ภาคินสูดปากหายใจแรง ดวงตาคมกริบจ้องมองก้อนเนื้อนุ่มหยุ่นไม่วางตา เขาเอื้อมมือไปบีบเคล้นอย่างอดใจไม่ไหว ขยับร่างเข้าแนบชิดเบียดความร้อนระอุเหยียดขยาดกับกายสาว น้ำหวานฉ่ำเยิ้มไหลซึมตามกลีบร่องเนื้อ ชโลมแก่นกายหนาจนมันวาว
“ขยับออกไป...” น้ำเสียงเย็นชาติดจะสั่นเครือเล็กน้อย ดวงไฟปรารถนาลุกโหมในดวงตาจนอยากที่จะปิดบังความกระหายอยาก คลั่งไคล้ในรสเพศที่ยังไม่เคยลิ้มลอง
“ขยับออกทำไมครับ ถ้าขยับเข้าสิ ผมถึงจะยอม” เขายิ้มระรื่นจนดวงตาโค้งเป็นรูปพระจันทร์ ร่างแกร่งกำยำภายใต้ชุดนักศึกษากดทับร่างเล็กติดกับกระจก หยัดสะโพกสอบไล่บี้กดถูไถกับซอกเนื้อนุ่มด้านนอก จนหญิงสาวสะดุ้งเฮือก เรียวขาแย้มออกกว้างโดยไม่รู้ตัว
“นายมันทุเรศ”
“ผมแค่ทำตามใจปรารถนา” เขายิ้ม ไม่ได้ถือสากับคำพูดน่าจูบนั่น ยิ่งมองดูใบหน้าแดงเรื่อเขินจัด ก็ยิ่งรู้สึกถูกชะตา เอื้อเอ็นดูคุณหมอสาวจนอยากจะแนบชิดตัวติดไม่ว่างเว้น
มันคงจะดีไม่น้อยถ้าเขาได้เข้าไปแดดิ้นทุรนทุรายภายใต้การบีบรัดจับกุมของเธอ
“รู้สึกดีจังครับ ผมอยากเข้าไปทักทายน้องสาวของคุณหมอเร็วๆ” เขาอ้อนและหวังว่าเธอจะใจอ่อนโดยเร็ว ไม่อย่างนั้นอาจมีการขืนใจ ฉุดกระชากคุณหมอสาวให้ตกลงสู่ขุมนรกอันแสนหวาน ทว่าเร่าร้อนทุกอณู
แค่จินตนาการถึงเรือนร่างบอบบางพลิ้วกายบิดส่ายอยู่ใต้ร่างเขา ส่งสายตาหยาดเยิ้มหลงใหลมาให้ น้องชายวายร้ายก็ผงาดขึ้นสู้เตรียมกรำศึกรบรากับอีกฝ่าย เขากัดฟันร้องปรามมันอย่างใจเย็น แต่ดูเหมือนปฏิกิริยาตอบสนองจะรุนแรงเสียจนหญิงสาวตรงหน้าดวงตาเบิกโพลง เรียวปากแดงช้ำขบเม้มแน่นกลั้นเสียงครางรัญจวนใจไว้จนเขานึกอยากแกล้ง รีบเร่งเคล้าคลึงสะโพกเสียดสีท่อนเนื้อร้อนกับร่องเนื้อสั่นระริก
นฤมลจิกไหล่กว้างเต็มแสง ดวงตาหรี่ปรือแทบเห็นดวงดาวพร่าพรายอยู่บนท้องฟ้า แม้ว่านี่จะเป็นเวลากลางวันก็ตาม เธอถูกดันร่างจนแผ่นหลังติดกับกระจก หัวเข่าถูกชันขึ้นเปิดอ้ารับร่างแข็งกระด้างเข้าแทรกกลางอย่างกำเริบเสิบสาน เจตนาทรมานเธอด้วยพิศวาส พร่าผลาญให้สติเธอมอดไหม้ สะโพกกลมมนกระดกขึ้นหา สอดรับจังหวะรุกเร้าของเขาอย่างจำนน แม้จะรู้ว่าเขาคิดจะทำอะไร แต่เพื่อขจัดความทรมานที่ถูกเขาก่อขึ้น เธอจำต้องยอมให้เขาบงการ
“เข้ามา...” เสียงหวานเปล่งออกมาอย่างลำบาก เมื่อความเสียวกระสันเดินทางมาถึงขีดสุดอีกครั้ง เธอก็หลุดปากร้องขออย่างห้ามไม่ไหว สองมือยื่นไปกอบกุมแท่งเนื้อเต้นระริก มันแข็งขึงร้อนรุ่มในมือเธอ เธอพยายามจะแหย่มันเข้ามาตรงปากทางรัก แต่กลับพบว่าเจ้าของพามันเบี่ยงหลบ
เสียงทุ้มหัวเราะชอบใจกับดวงตาคมดุที่ตวัดมองอย่างไม่พอใจ เขาจุ๊ปากด้วยรอยยิ้ม โน้มตัวลงประกบริมฝีปากดุดกลืนเสียงเกรี้ยวกราดที่เตรียมบริภาษเขาอย่างขัดใจ
“ใจเย็นครับหมอ จะเอาน้องชายผมไปปู้ยี่ปู้ยำ ถามผมสักคำหรือยังว่าอนุญาตหรือเปล่า อีกอย่างวันนี้ผมก็มาเพื่อรับการบำบัด ไม่ใช่มาบำเรอรักให้คุณหมอ ถ้าคิดจะกินผมคงต้องอดทนรอหน่อย ทางที่ดีคุณหมอมาบำบัดเซ็กส์ให้ผมจริงๆ จังๆ ดีกว่า ก่อนที่ผมจะปลุกปล้ำคุณหมอเพราะห้ามใจไม่อยู่”
เด็กคนนี้สมควรตาย! เธอเพิ่งรู้ก็วินาทีนี้ว่าถูกเขาหลอกต้มซะเปื่อย! เขาคิดจะล่อลวงเธอให้ติดกับ เอาเซ็กส์มาเป็นเหยื่อล่อให้เธอยอมแอ่นอกถวายตัวให้กับเขา!
“ออกไป!” เธอเค้นเสียงไล่ตะเพิดอีกฝ่ายพร้อมหอบหายใจถี่กระชั้นด้วยความโกรธ
“ไม่ครับ ผมอยากเลียตรงนี้ ตรงนี้ ตรงนี้ อยากใช้ลิ้นสัมผัสคุณหมอให้ทั่ว โดยเฉพาะตรงนี้ของคุณหมอ มันคงจะฉ่ำหวานมาก แค่ได้กลิ่นก็อยากมุดหน้าลงไปดมแล้ว
“โรคจิต”
“ฮ่าๆ ผมรู้ตัวดีครับ ไม่อย่างนั้นจะมาขอให้หมอช่วยเหรอ ผมมาให้ท่าขนาดนี้ คุณหมอก็ควรรับมุขนะครับ ตอบกลับมาว่าได้ค่ะ ฉันจะช่วยรักษาให้คุณ แล้วหลังจากนั้นก็ใช้ปากร้อนๆ ปราบพยศมัน แต่ผมรู้ว่าหมอยังกลัวกับขนาดของมัน เพราะฉะนั้นผมจะรออย่างใจเย็น ส่วนตอนนี้สัมผัสมันอีกสิครับ ดูสิว่ามันชอบซุกคุณหมอแค่ไหน”
“สกปรก จิตนายมันไม่ปกติขั้นร้ายแรง” เธอกัดฟันว่า แม้น้ำเสียงตอนท้ายจะสั่นเล็กน้อยแต่ก็ฟังดูขึงขังหลายส่วน ภาคินหัวเราะหึ ดึงมือเล็กเรียวบางมาจับกุมปืนใหญ่ที่พร้อมสู้รบเต็มที่ อยากจะสาดกระสุนใส่ร่างเธอจนพรุน แต่นั่นคงต้องหลังจากที่เขาหว่านแหสำเร็จจนเธอติดกับแล้วล่ะนะ
นฤมลที่โมโหจนปากคอสั่นยกมือตบเข้าที่หน้าทะเล้นอย่างแรง ภาคินที่ไม่ทันตั้งตัวถึงกับหน้าหัน แต่พอหันกลับมาก็ถูกฝ่ามือเรียวเล็กตบเข้าให้อีก เสียงเพี๊ยะดังขึ้นสองครั้งติด คราวนี้คิ้วของเขากระตุกถี่ยิบ ไม่รอช้าก็กระชากร่างบางเข้ากอดรัด ก้มลงบดขยี้เรียวปากอิ่มเต็มแรง อีกฝ่ายดิ้นขัดขืน แต่เขากลับยิ้มเย็น
ชายหนุ่มพลิกร่างเพรียวให้หันยกร่างเธอขึ้นนั่งคุกเข่าบนโต๊ะกระจกตรงอ่างน้ำ นิ้วแกร่งแหวกกลีบเนื้อสั่นระริก ก้มลงกระซิบเสียงพร่าให้หญิงสาวจ้องมองเงาสะท้อนแสนเย้ายวนน่าหลงใหลในกระจก
“สวยดีนะครับ” เขาเอ่ยชมพร้อมกับรอยยิ้มร้ายกาจ นิ้วหัวแม่มือกดคลึงปุ่มเล็กกะจิดริดที่เป็นแหล่งรวมความกระสัน จุดประกายไฟในกายเธอให้ลุกโชน
ดวงตาคู่สวยเหลือบมองยังเบื้องล่างดูเงาสะท้อนของความอ่อนนุ่ม สีแดงเรื่อคาคลอด้วยน้ำหวานมันวาว เธอครางเสียงอับอายแทบอยากซุกหน้าหนีกับกระจก ถ้าหายตัวไปตอนนี้ได้เธอคงทำไปแล้ว
“เซ็กซี่มากเลยครับ ไม่เอาดีกว่า วันนี้ผมมาอ่อยหมอแค่นี้พอ พรุ่งนี้จะมาใหม่นะครับ”
“นาย!”
“ผมอยากให้คุณหมอกระสับกระส่าย หลับตาก็คิดถึง ลืมตาก็คิดถึง รู้สึกไหมครับว่าตรงนี้มันร้อน แต่มันจะร้อนกวานี้อีก ถ้าผมได้เข้าไปอยู่ในนี้” ภาคินพูดพลางสอดนิ้วเข้าสู่กลีบเนื้อเต้น เขากดแช่ไว้ รับรู้ถึงเรือนกายสั่นระริกเกร็งแน่นของอีกฝ่าย มุมปากกระตุกยิ้มพอใจ เขากอดเอวคอดกิ่วก้มลงจูบบั้นเอวขาวเนียน
“นายทำแบบนี้ไปทำไม” นฤมลไม่เข้าใจ ไม่อาจทำความเข้าใจกับการปั่นหัวครั้งนี้ได้ เด็กคนนี้มาด้วยจุดประสงค์อะไร หรือว่าพี่ชัชรู้ว่าผลลัพธ์จะกลายเป็นแบบนี้ ถึงได้ผลักไสเธอเข้าสู่อ้อมอกของน้องชายตัวเอง
ถ้าไม่ต้องการเธอก็พูดออกมาสิ มาทำแบบนี้จะให้เธอมีหน้ากลับไปมองพี่ชัชได้อย่างไร
เห็นคุณหมอคนสวยเงียบไป ภาคินก็นึกสงสัยเงยหน้าขึ้นมองดวงตาเอ่อคลอน้ำตาแวววาวผ่านกระจก สายตาเจ็บปวดแบบนั้น เขาดูออกว่าไม่ได้เกิดจากเขาเป็นต้นเหตุ แต่เป็นใครอีกคนที่เธอคิดถึงอยู่ ไม่รู้ว่าความโกรธมาจากไหน มันทำให้เขาสติหลุดเผลอกัดเข้ากับเอวคอดเต็มแรง
เสียงหวานหลุดร้องด้วยความเจ็บ สติคืนกลับมาครบถ้วนในทันที น้ำตาที่แต่เดิมคลออยู่แล้วไหลพราก เธอหันไปจะเอาเรื่องกับอีกฝ่าย ดวงตาแดงก่ำฉายแววกรุ่นโกรธ โทสะอัดแน่นเต็มอก เธอเตรียมจะตบเขาอีกครั้ง แต่กลับพบว่าข้อมือถูกจับคว้าไว้ เขารวบไปจับไว้ด้านหลัง ผลักร่างของเธอให้นอนลง จากนั้นก็ลงทัณฑ์ด้วยปลายลิ้นช่ำชองแตะไล้สัมผัส บดขยี้กลีบปากบางจนได้กลิ่นคาวเลือด
ดวงตาของเธอเบิกโพลง ก่อนที่จะร้องอู้อี้ในลำคอ หยาดน้ำตาร่วงรินรับรู้ถึงนิ้วร้ายที่ล่วงล้ำเข้ามาภายใน เขากระทุ้งนิ้วยาวเข้าออกกลีบเนื้อสาว กระแทกใส่ร่องร้อนฉ่าอย่างไร้ปรานี เธอเจ็บจนดิ้นพล่าน ทั้งงุนงงและไม่เข้าใจกับอากัปกิริยาที่เปลี่ยนไปเป็นคนละคน
“พอ...หยุดได้แล้ว พอที ฉันเจ็บ!” เธอตะโกนร้องเสียงดังหวังให้เขาตื่นจากโทสะที่ไร้ที่มา ภาคินที่ซุกไซ้ซอกคอเนียนพ่นลมหายใจหนักหน่วง เขาหมุนวนนิ้วมือช่วยให้เธอผ่อนคลายกับความเจ็บจนตลอดร่างเกร็งด้วยความหวาดหวั่นระคนวาบหวามจนทำหน้าไม่ถูก
“อยู่กับผม หมอก็ควรคิดถึงแต่ผมสิครับ วันนี้ผมมาทำความรู้จักกับหมอเท่านั้น ขอโทษที่ทำให้หมอตกใจ แต่ถ้าไม่อยากให้ผมคลั่งอีก...”
“...”
“อย่าคิดถึงใครเมื่ออยู่กับผม...” ไม่ใช่แค่คำพูดเท่านั้นที่ออกแนวข่มขู่ แม้แต่น้ำเสียงและแววตาก็ยังขู่ขวัญจนเธอแทบกระเจิง!