บทที่2.คนข้างห้อง... 2/4
เงินก้อนแรกที่เป็นเงินเดือน เธอส่งให้พ่อแม่ทั้งหมด เพื่อเยื้อสมบัติชิ้นนั้นไว้สุดความสามารถ จอมขวัญบวก ลบ คูณหาร เธอทำงานทุกวันเก็บทุกบาททุกสตางค์ส่งให้พ่อแม่ คงประมาณ2 ปีเธอก็จะสามารถไถ่ถอนที่ดินผืนนั้นออกมาจากเจ้าหนี้ได้ และเก็บออมอีกสักปี เป็นทุนรอน ก่อนจะเหินฟ้ากลับบ้านเกิด เมื่อมีเงินเก็บพอประมาณ
“พ่อจ๋า แม่จ๋า ไอ้แก้ว คิดถึงทุกคนจัง...” เธอรำพึงเบาๆ เดินคอห้อยกลับเข้าห้องพักที่เช่าไว้นอน
“กลับแล้วรึขวัญ...ไปนอนที่ไหนมาล่ะ”
หญิงสาวเงยหน้าขึ้น เธอส่งยิ้มเหยเกให้กับป้าเจ้าของห้องพัก ก่อนจะเดินตุปัดตุเป๋ขึ้นไปยังชั้นที่ตัวเองพักอาศัย โดยวิลเลี่ยมเดินตามมาติดๆ เขาขมวดคิ้ว มองหล่อน สลับกับห้องเช่า สรุปหล่อนกับเขาพักที่เดียวกัน แล้วทำไมเขาไม่เคยเห็นหล่อนเลยล่ะ...
กึก...
เสียงประตูห้องข้างๆ เปิดออก จอมขวัญเหลียวขวับกลับไปมอง เธอเบิกตาโตๆ อ้าปากค้าง เมื่อไอ้หนุ่มจอมพลังที่ควบขับผู้หญิงทั้งวันทั้งคืนจนเจ้าหล่อนแหกปากครางลั่น คือคนๆ เดียวกันที่เธอเจอในสวนสาธารณะ…โลกมันกลมเกินไปแล้ว...
ชิ!! หญิงสาวแยกเขี้ยวใสผู้ชายหน้าตาดีคนนั้น ความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อเขาหายวับ... เธอไขกุญแจเปิดประตูมือไม้สั่น และกระแทกบานประตูปิดกลับดังๆ เพื่อระบายอารมณ์โกรธที่ผุดขึ้นมา ‘ไอ้คนบ้ากาม’
หญิงสาวทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาเก่ากึก เธอตบมือลงบนพื้นเบาะระบายอารมณ์โกรธกรุ่น และบ่นพึมพำด้วยความหงุดหงิด “อี๋...หน้าตาก็ดี ทำไม๊ทำไม...ถึงเป็นคนแบบนี้ได้...แหวะ...”
จอมขวัญผุดลุกขึ้นนั่งตัวตรงๆ เธอกลอกตาไปมา แล้วจึงแสยะยิ้มกว้างๆ เมื่อคิดวิธีเอาคืนเขาได้...หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง ไอ้หมอนั่นทำเสียงน่าเกียจจนเธอนอนไม่ได้ เธอก็จะทำบ้าง...แต่ไม่ได้ทำเสียงแบบเค้านะ...ขอแค่แหกปากร้องเพลง เสียงเหมือนเป็ดป่วย...กล่อมเค้านอนบ้างแค่นั้นเอง…
เธอปลดกระเป๋าสะพายออกจากหัวไหล่ คว้าผ้าเช็ดตัวเนื้อนุ่มพาดบ่า และเริ่มต้นแหกปากครวญเพลง ทำนองลูกทุ่ง สำเนียงที่หากใครได้ยิน ยังต้องหาอะไรมาอุดหู เมื่อจอมขวัญไม่มีพรสวรรค์เรื่องร้องเพลงเลยสักนิด เธอร้องเหมือนแผ่นเสียงตกร่อง แหลมปรี๊ดและเสียดรูหู
‘ตั้งแต๊...เป็นสาวเต็มกายยยยย หาผู้ชายยยย ถูกใจไม่มี๊...เมื่อคืนฝันดีน่าตบ...ฝันๆ ว่าพบผู้ชายยยยย ยอดดี... พาไปเที่ยวดูหนัง... พาไปนั่งจู๋จี๋ แล้วพาไปเที่ยวชมสวนนนนนนนน.... เด็ดดอกลำดวนส่งให้ด้วยซี๊!! เสียบหูให้ตั้งหลายหนนนนน เสียบหล่น...เสียบหล่นตั้งห้าหกที๊ ต๊กใจตื่นตอนตีสี่ แหม...เสียดายจัง... เฮ้อ...เสียดายจังงงงง…
* ตีห้าไม่ถึงก็จวน.... คิดทบทวนเรื่องฝันชั้นดี๊ ผู้ชายยยยยยอะไรน่าหยิก กระซี้กระซิกน่ารักน่าตี...เพียรมาออดออเซาะ คำเสนาะมากมี๊...ฝันว่าคิดอยู่หวำหวาม ถ้าถูกลวนลามจะทำไงดี...ความคิดพอหยุดลงปั๊บ หมุบหมับหนุบหนับบบบบ เขาจับเขาจี๋...ต๊กใจตื่นมาเสียนี่ แหม...เสียดายจังงงง เฮ้อ...เสียดายจัง”
วิลเลี่ยมหัวเราะก๊าก มลภาวะทางเสียงของแม่สาวนัยน์ตาโต ช่างเป็นอะไรที่สุดทน... เสียงหล่อนแหลมปรี๊ดเหมือนแผ่นเสียงชำรุด แถมเนื้อเพลงก็ไม่คุ้นหู ภาษาที่ได้ยินก็ไม่คุ้นเคย เธอแหกปากร้องลั่น!! เหมือนกับว่าเธอกำลังแกล้งกลับเขาอย่างไงอย่างงั้นเลย...เอ...เขาไปทำให้เจ้าหล่อนไม่พอใจตอนไหนกัน...อ๋อ...ชายหนุ่มกดมุมปากโค้งลง เขายิ้มเมื่อนึกถึงวีรกรรมของตัวเองใน1 อาทิตย์ที่ผ่านมา การพาสาวทรงโตมาเล่นจ้ำจี้กันเกือบอาทิตย์ และเสียงครางของพวกหล่อน คงดังจนเจ้าหล่อนคงนอนไม่หลับ ถึงได้ดูโทรมขนาดนั้น
ก๊อก..ก็อก...
ชายหนุ่มเคาะพนังห้อง “ขอโทษที่รบกวน ต่อไปผมจะพยายามออมเสียง ไม่ให้พวกเธอส่งเสียงรบกวนเธออีก”
“ยี๋!! อีตาบ้า” จอมขวัญปิดปากกลั้นเสียงกรี๊ด!! ขนาดขอโทษ...เขายังไม่วายกวนโทสะเธอเสียอีก หญิงสาวไหวไหล่ เธอเองก็แหกปากจนเจ็บคอ