บทย่อ
หล่อนไม่เสียใจที่ตกเป็นของผู้ชายที่เกลียดหล่อนเข้าไส้ แม้จะเป็นได้แค่เพียงดอกไม้ประดับเตียง แต่หล่อนก็ยอมพลีกายให้เขา หากมันจะลบล้างความผิดที่ตนทำไว้... .... “นี่แม่คุณ กอดฉันซะแน่นเดี๋ยวได้จมกันทั้งคู่” “ก็ฉันกลัวนี่” อริศราตอบตามตรง “พาขึ้นเรือได้แล้ว เดี๋ยวจม” “พาขึ้นแน่ แต่เธอต้องให้รางวัลที่ฉันลงมาช่วยเธอก่อน” เมืองแมนมีข้อต่อรอง “ถ้าไม่ให้รางวัลฉัน ฉันจะปล่อยให้เธอจมน้ำ” “คุณอยากได้อะไรล่ะ” ถามไปโดยไม่คิด ตอนนี้อริศราไม่คิดอะไรทั้งนั้น ขอเพียงได้ขึ้นไปจากน้ำเร็วๆ “จูบฉันสิ” เขาตอบ หญิงสาวตกใจกับรางวัลที่เขาต้องการ “ถ้าไม่จูบ ฉันปล่อยนะ” เพียงแค่เขาทำท่าจะคลายลำแขนออก อริศรากอดร่างแกร่งไว้แน่น ยื่นหน้าไปประกบปากหนาอย่างรวดเร็ว “จูบแล้ว” หล่อนบอก “จูบตอนไหน ฉันไม่เห็นรู้สึก” “ก็เมื่อกี้ไง” “เมื่อกี้เรียกจูบเหรอ ฉันรู้สึกแค่เธอเอาปากมาชนปากฉัน อย่างนี้ปล่อยให้จมน้ำดีไหมเนี่ย” “อย่านะ” หญิงสาวรีบบอก เมื่อเห็นเขาจะคลายแขนออกจริงๆ “ฉัน...ฉันจูบไม่เป็น” “งั้นฉันจะสอนให้ สอนแล้วต้องจำนะ เพราะถ้าเธอจูบไม่เป็นสับปะรด ฉันจะจับตัวพี่สาวเธอมาจูบแทน” ขู่ได้ขู่ดี ขู่เก่งยิ่งกว่าหมาเสียอีก... เหอะ...ขู่แบบนี้ ไม่ทำตามก็คงไม่ได้อีกตามเคย โรมานซ์แก้แค้น
1
ถนนสายกาญจนาภิเษกมุ่งตรงไปยังบางแคในเวลาสองนาฬิกาห้านาที เป็นเวลาที่มีรถสัญจรน้อย และรถแต่ละคันก็ทำความเร็วได้ค่อนข้างมาก หนึ่งในรถหลายสิบคันที่กำลังวิ่งอยู่บนถนน ใช้ความเร็วราวกับว่าอยู่ในสนามแข่งรถ ไม่ผ่อนความเร็ว ไม่เหยียบเบรค มีแต่จะเพิ่มความเร็ว ล้อยางรถเสียดสีกับพื้นถนนจนได้กลิ่นไหม้คละคลุ้ง เกิดควันจางๆ อยู่ตรงล้อรถด้วย ทว่าเจ้าของรถไม่คิดจะหยุดรถเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง กลับเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วมากขึ้น ตามความเสียใจของเจ้าตัว
ก่อนหน้าที่รถปอร์เช่จะสำแดงเดชบนท้องถนน เจ้าของรถนามว่า อริศราหรือวุ้น ลูกสาวคนสุดท้องของเจ้าของตลาดรุ่งอุดม ตลาดสดค้าส่งและค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในย่านรังสิต และยังเป็นเจ้าของรีสอร์ตเดอะมูน รีสอร์ตที่ขึ้นชื่อว่าอยู่ท่ามกลางธรรมชาติและความสวยงามของดอกไม้นานาพันธ์ในจังหวัดเชียงราย ได้พบเจอกับเรื่องเจ็บปวดใจมากที่สุดในชีวิต เมื่อเห็นกับตาตัวเองว่า ภาสกร ทายาทห้างทองชื่อดังกำลังมีสัมพันธ์สวาทกับโคโยตี้หุ่นเร้าใจ หล่อนไม่รอฟังเหตุผล อริศราวิ่งออกจากห้องชุดของคนรักด้วยน้ำตานองหน้า พอขึ้นมานั่งบนรถได้ก็ทำความเร็ว ทะยานออกจากคอนโดสุดหรูไปบนถนนสายนี้ ขับเร็วราวกับว่ากำลังหนีความเจ็บปวดที่ได้รับ ทั้งที่รู้ว่าหนีเท่าไหร่ก็หนีไม่พ้น
“ฮือ...ฮือ” อริศราร้องไห้ด้วยความเสียใจ อีกเพียงหนึ่งเดือน หล่อนกับภาสกรก็จะเข้าประตูวิวาห์ ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน แต่มาเกิดเหตุนี้เสียก่อน นั่นหมายความว่าจะไม่มีงานแต่งงานเกิดขึ้น เรื่องภาสกรนอกใจ อริศราได้ยินมาระยะหนึ่งแล้ว ความเชื่อใจและไว้ใจคนรัก ทำให้หล่อนเลือกเชื่อใจคู่หมั้น
จนเมื่อหนึ่งชั่วโมงครึ่งที่ผ่านมา รัตนามณีเพื่อนสนิทได้ส่งคลิปวีดิโอมาให้ตน ในคลิปมีภาพของภาสกรโอบกอดผู้หญิงหน้าตาดีออกจากผับ พากันขึ้นรถแล้วขับออกจากลานจอดรถของผับ ดูเหมือนว่า รถยนต์ของภาสกรจะถูกแอบติดตั้งกล้องภายในรถยนต์ เนื่องจากมีคลิปภาพเหตุการณ์ในรถด้วย รวมทั้งคำพูดที่ภาสกรพูดถึงตนในทางไม่ดีให้หญิงสาวคู่ขา คำพูดหนึ่งที่ทำให้หล่อนเสียใจมากที่สุดคือ ภาสกรไม่ได้รักตน การแต่งงานคือการพยุงฐานะของเขาเท่านั้น
อริศราไม่คิดว่าคลิปที่เพื่อนรักส่งมาให้คือภาพตัดต่อ หล่นอยากเห็นด้วยตาตัวเอง จึงมาคอนโดของภาสกร และได้เห็นทุกอย่างเต็มสองตา
“ฮือ...ฮือ” เสียงร้องไห้ยังคงดังก้องรถ ความเร็วรถก็ยังคงเท่าเดิม กลิ่นไหม้ล้อรถเริ่มรุนแรงมากขึ้น และเข้าในห้องโดยสาร ทว่าอริศราหาได้สนใจ หรืออาจพูดได้ว่า หล่อนอยู่ในภาวะอารมณ์ที่ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง นอกจากอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง แต่คนที่อยู่นอกรถกลับเห็นและบีบแตรให้อริศรารู้ตัว
ณ ขณะนั้นมีรถยนต์สองคันแล่นมาด้วยความเร็วพอๆ กัน รถยนต์คันแรกเป็นรถเอนกประสงค์เจ็ดที่นั่ง ที่ขับรถราวกับว่ากำลังจะหนีรถสปอร์ตคาร์ราคาหลักสิบล้านที่ขับตามอย่างไม่ลดละ รถอเนกประสงค์เหยียบจนแทบจะมิดเท้า แซงรถปอร์เช่ของอริศราที่เกิดอาการสั่น ไม่ทรงตัวเริ่มปัดไปซ้ายทีขวาที เจ้าของรถหรูเกิดความตกใจ ตั้งใจจะผ่อนความเร็ว ทว่าเกิดเรื่องไม่คาดคิดเสียก่อน
“ว้าย! กรี๊ด!” ก้อนอิฐที่ตกอยู่กลางถนนคือสาเหตุทำให้รถยนต์ของอริศราเสียหลัก แฉลบไปอีกเลนหนึ่ง เป็นเลนที่รถสปอร์ตคาร์ขับมาด้วยความเร็วสูงพอดี ซึ่งรถอีกคันหนึ่งนั้น เบรกไม่ทัน...เบรกไม่ทำงานต่างหาก
โครม!
เกิดเสียงดังโครมใหญ่ รถสองคันชนกันอย่างแรง หมุนเคว้งหลายรอบก่อนที่รถสปอร์ตคาร์จะไปชนกับรถบรรทุกที่จอดเสียอยู่ริมข้างทาง ส่งผลให้กระโปรงหน้ารถหรูยุบตัวมาถึงตรงส่วนคนขับที่ฟุบหน้าอยู่กับพวงมาลัยรถ ส่วนรถยนต์ปอร์เช่ของอริศราหยุดลงกลางถนน มีรถเก๋งที่เหยียบเบรคไม่ทันชนท้าย ความที่อริศราไม่ได้สวมเข็มขัดนิรภัย และกระจกหน้ารถเกิดความเสียหายจากการปะทะ ส่งผลให้ร่างหล่อนลอยออกมาจากรถ มานอนนิ่งอยู่บนพื้นถนน
อีกห้านาทีต่อมา รถอาสาร่วมมูลนิธิสองคันและมอเตอร์ไซร์อีกสองคันมาถึงที่เกิดเหตุ ต่างช่วยกันดูอาการคนเจ็บที่มีสองรายคือ อริศราและคนที่ติดอยู่ในรถสุดหรูอีกคัน อริศราถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนอีกรายหนึ่งทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิเพิ่งมารู้ว่า กำลังตั้งครรภ์ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลในอีกยี่สิบนาทีต่อมา ข่าวร้ายคือ สาวตั้งครรภ์เสียชีวิต ข่าวดีคือ แพทย์สามารถช่วยชีวิตทารกน้อยในครรภ์ได้ราวกับปาฏิหาริย์
อุบัติเหตุในครั้งนี้ ไม่เพียงแค่อริศราจะนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลร่วมหนึ่งเดือน ความไม่ตั้งใจของหล่อนกำลังย้อนกลับมาทำร้ายครอบครัวของหล่อน ชนิดที่ว่าต้องจำไปจนวันตาย
หกปีต่อมา
“พอแล้วครับนายหัว เดี๋ยวมันตาย”
หนุ่มรีบร้องห้ามนายหัวเมืองแมน ที่ใช้บาทากระแทกไปบนท้องของจุ้ย อดีตลูกน้องที่เข้ามาลักขโมยรังนกไปขาย ไม่เพียงแค่นั้นยังทำระยำข่มขืนสำเภา น้องสาวของอนันต์หรือพัน ลูกน้องบนเกาะ ทั้งที่สำเภาสติไม่สมประกอบ พอเมืองแมนจับตัวได้จึงถูกนำมาที่เกาะเพื่อสำเร็จโทษในแบบฉบับของเขา
ฉบับโหดสุดทมิฬ
“เออ ให้มันตายคาตีนกูนี่แหละ เสือกทำระยำดีนัก” เมืองแมนเสียงเดือด ยกฝ่าเท้าขึ้นสูงแล้วกระแทกซ้ำไปบนท้องของจุ้ย “มันจะได้จำขึ้นใจว่า อย่าลองดีกับกู”
หนุ่มได้แต่ยืนมอง อยากยื่นมือเข้าช่วยแต่ก็ไม่กล้า และรู้ดีว่า เมืองแมนคงไม่หยุดการกระทำของตัวเอง อีกทั้งความผิดของจุ้ยก็มากเสียด้วย ลำพังแค่ขโมยรังนกไปขายยังพอทนไหว แต่นี่จุ้ยข่มขืนสำเภาที่ไร้ทางสู้ได้อย่างเลือดเย็น ความผิดนี้เองที่ทำให้เมืองแมนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แล้วไม่คิดให้อภัยจุ้ยด้วย
“นายหัวครับ พร้อมแล้วครับ” เดชา ลูกน้องอีกคนหนึ่งของเมืองแมนเดินมาบอกเจ้านายที่หันมามองหน้า จากนั้นก็หันไปมองคนที่อยู่ใต้ฝ่าเท้า
“มึงเตรียมตัวตายได้เลยไอ้จุ้ย”