ตอนที่ 2
วิไลวรรณเอ่ยไปตามที่รู้มาจากไทเลอร์
“ยังงั้นรึ…”
ได้ฟังแล้วพีระพงษ์ก็ย่นหน้าผาก
คำว่า ‘เวียดนาม’ สะกิดใจเขาอย่างแรง เพราะเมื่อยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ตอนยังหนุ่มแน่นเขาเคยเป็นผู้จัดการโรงแรมอยู่ที่นั่นมาก่อน ความรักและความหลังในวัยหนุ่มหลายๆ เรื่องเคยเกิดขึ้นและถูกกลบฝังเอาไว้ที่เวียดนาม
พีระพงษ์เริ่มต้นชีวิตการทำงานที่โรงแรมในเวียดนาม เขาไต่เต้าขึ้นมาจากตำแหน่งผู้จัดการธรรมดาๆ คนหนึ่ง หากแต่ด้วยความที่เป็นคนหล่อเหลา เฉลียวฉลาด พูดจาฉะฉานน่าเชื่อถือ มีบุคลิกภาพเป็นที่สะดุดตาของผู้พบเห็น ประกอบกับเป็นคนมีวิสัยทัศน์กว้างไกล มีความรู้และความสามารถโดดเด่นจนเป็นที่ยอมรับของผู้บริหาร ไม่นานเขาก็สามารถผงาดกล้าขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของโรงแรม ซึ่งทำหน้าที่วางแผนและกำหนดนโยบาย การบริหารต่างๆ หลังจากที่เคยทำงานแค่ในระดับปฏิบัติการเท่านั้น
“จะให้เลื่อนสัมภาษณ์ออกไปก่อนไหมคะ…งั้นดิฉันจะบอกให้เธอกลับไปก่อนนะคะ ถ้าคุณไทเลอร์สะดวกเมื่อไรค่อยนัดให้เข้ามาสัมภาษณ์กันอีกที…แต่ตอนนี้เธอทำแบบทดสอบความสามารถพื้นฐานเสร็จแล้วค่ะ”
“เป็นยังไงบ้าง…”
ถามพลางยกถ้วยกาแฟขึ้นดื่ม
พีระพงษ์เริ่มหันเหความสนใจมายังเรื่องที่วิไลวรรณกำลังรายงาน ตั้งแต่ได้รู้ว่าหญิงสาวที่กำลังรอรับการสัมภาษณ์เป็นชาวเวียดนาม
“ความสามารถทางคอมพิวเตอร์ดีเยี่ยมค่ะ ใช้ Fidelio Opera ได้ด้วยค่ะ ส่วนเรื่องภาษา คุณไทเลอร์สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์แล้วค่ะ”
‘ฟิเดลิโอ โอเปรา’ ที่วิไลวรรณเอ่ยถึงก็คือระบบซอฟต์แวร์เพื่องานโรงแรม ไม่เฉพาะงานจองห้องพัก แต่ยังรวมถึงงานอื่นๆ เช่นการจัดทำทะเบียนเข้าพัก ประวัติของลูกค้าที่เข้าพัก การลงบันทึกค่าใช้จ่าย รวมถึงการรายงานสถานภาพห้องพัก
“อืม…ท่าทางไม่เลวนี่”
ได้ยินจากที่วิไลวรรณบอก พีระพงษ์เลิกคิ้วแสดงความสนใจ แสดงว่าผู้หญิงคนนี้เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับงานโรงแรมมาบ้างแล้ว
“ถ้างั้นดิฉันจะเลื่อนสัมภาษณ์ออกไปก่อนนะคะ ไว้คุณไทเลอร์สะดวกค่อยนัดเธอมาอีกที…”
เลขาฯ สาวเอ่ยยังไม่ทันจบประโยค ประธานบริษัทก็ขัดขึ้นเสียก่อน ด้วยเห็นว่าตอนนี้เขาเองก็ยังว่างอยู่
“ไม่ต้อง…งั้นเดี๋ยวผมสัมภาษณ์เองก็แล้วกัน”
เขาละสายตาจากหนังสือพิมพ์ตรงหน้า
“เอ่อ…แต่วันนี้ท่านมีนัดกับคุณรพีพรรณนะคะ”
เลขาฯ รีบท้วง เข้าใจว่าผู้เป็นนายอาจจะลืมไปว่าเขามีนัดสำคัญรออยู่
รพีพรรณที่เอ่ยถึงก็คือภรรยาของพีระพงษ์นั่นเอง เธอเป็นลูกสาว คนเดียวของนายธานินทร์ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกและก่อตั้ง BK Paradise Hotel ขึ้นมาแต่แรก และบริหารจนรุ่งเรืองเฟื่องฟูขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้ที่ลูกสาวเข้ามารับช่วงบริหารต่อ
“ไม่เป็นไร ตอนนี้ยังพอมีเวลา…”
“ค่ะท่าน…”
“เดี๋ยวสัมภาษณ์ในห้องนี้ ให้เข้ามาตอนนี้เลย…”
ประธานบริษัทเอ่ยขึ้นอย่างไม่มีพิธีรีตอง ขณะยกหลังมือขึ้นมองนาฬิกาโรเล็กซ์เรือนทองอร่ามที่คาดอยู่บนข้อมือ ไหนๆ คนที่นัดมาสัมภาษณ์ก็มานั่งรออยู่แล้ว จะได้ไม่เสียเวลาด้วยกันทั้งสองฝ่าย เพราะเขาคงใช้เวลาไม่นานนัก
“ค่ะท่าน…” เลขาฯ พยักหน้ารับด้วยน้ำเสียงสุภาพนอบน้อม เดินช้าๆ ออกไปจากห้อง
ก่อนที่พีระพงษ์จะขึ้นมานั่งเชิดหน้าในเก้าอี้ประธานบริษัทเต็มตัวอย่างทุกวันนี้ หลายคนมองว่าการที่เขาสามารถเติบโตในหน้าที่การงานได้อย่างรวดเร็วเกินคาดและเกินหน้าเกินตาเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ นั้นก็ด้วยวิธีลัด เมื่อรพีพรรณซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวของนายธานินทร์ผู้เป็นเจ้าของโรงแรมหลงเสน่ห์ของเขาจนถอนตัวไม่ขึ้น
พีระพงษ์คบหากับรพีพรรณได้ไม่นาน ลูกสาวคนเดียวของประธานบริษัทก็ตั้งครรภ์ ทั้งที่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้แต่งงานกันด้วยซ้ำ รพีพรรณคิดว่าการตั้งครรภ์ของเธอนั้นเป็นเรื่องบังเอิญ เธอพลาดเองที่ไม่มีวินัยในการกินยาคุม แล้วพีระพงษ์ก็ไม่ใส่ใจจะช่วยเธอป้องกันเลยสักนิดทั้งที่เขาก็สามารถทำได้
รพีพรรณหารู้ไม่ว่า แท้ที่จริงแล้วเรื่องที่เธอตั้งครรภ์นั้นเป็นความตั้งใจของพีระพงษ์ที่ตระหนักอยู่ตลอดเวลาว่าถ้าหากลูกสาวคนเดียวของประธานบริษัทเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาเมื่อไร ‘ลูก’ จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง…ซึ่งหมายถึงอนาคตของเขา โดยไม่สนใจถ้อยคำติฉินนินทาจากเพื่อนร่วมงานว่าเขาเติบโตอยู่ภายใต้ร่มเงาบารมีของพ่อตา
พีระพงษ์ไม่สนใจคำติฉินนินทา
เขาเลือกที่จะมีชีวิตรุ่งโรจน์จนเพื่อนฝูงรุ่นราวคราวเดียวกันนึกอิจฉา โดยไม่สนใจว่ามันเป็นความรุ่งเรืองอยู่ภายใต้ชายกระโปรงของภรรยา