ตอนที่3
บทที่3
“คุณหนูเยว่เหลียนพบหน้าครอบครัวครั้งแรกในรอบหลายปีก็ควรจะมีของติดไม้ติดมือไปด้วยนะเจ้าคะ แต่ซื้อเพียงเล็กน้อยก็พอรู้ไหม คุณหนูมาจากบ้านนอกคงมิค่อยมีตำลึงเท่าไร ที่นี่ของก็แพงนัก พวกเขาคงไม่ว่าอะไรคุณหนูหรอกเจ้าค่ะ อย่างไรคุณหนูก็เป็นหลาน”
เยว่เหลียนส่งยิ้มให้กับคนที่ทำให้นางขายหน้าตั้งแต่วันแรกที่เข้าไปในจวน ซื้อเพียงเล็กน้อยอย่างนั้นหรือ
เพราะนางเชื่ออีกฝ่ายจึงซื้อของเล็กน้อยไปจริง ๆ สุดท้ายจึงได้รับคำนินทา แม้จะไม่ได้เอ่ยต่อหน้าตรง ๆ แต่บรรดาคนในจวนเยว่ก็แอบโยนของฝากของนางทิ้งด้วยความรังเกียจ แน่ล่ะเพราะคนเหล่านั้นมีของที่ดีกว่าอยู่แล้วจะมาสนใจกับของเล็กน้อยของนางทำไม แน่นอนว่าครั้งนี้นางก็ซื้ออย่างที่แม่นมว่า ซื้อของจากร้านค้าเล็ก ๆ แต่มันไม่เหมือนเดิม เพราะร้านนี้มีภาพวาดของจิตรกรชื่อดังแห่งยุคอย่างโจวผิงวางอยู่นะสิ
นางได้ของขวัญของฝากพอแล้ว นี่มันแค่เรื่องเริ่มต้นเท่านั้น เยว่เหลียนมองยังทางที่นำนางไปยังจวนตระกูลเยว่ นางน่าจะรู้อยู่แล้วว่าที่นี่ไม่ต้อนรับไม่รู้ว่าตอนนั้นนางคาดหวังอะไร
“ไม่มีป้ายประจำตระกูลที่รถม้าไปเข้าประตูข้าง”
นี่ก็อีกเรื่อง มิใช่ว่านางไม่มีป้ายชื่อตระกูลติดอยู่บนรถม้าหรอก คนเหล่านี้แค่ต้องการหาเรื่อง
“จอดรถ” หญิงสาวก้าวเท้าลงก่อนที่รถม้าจะเข้าประตูด้านข้าง
ใครก็รู้ว่าประตูข้างมีไว้สำหรับใคร นางมิใช่ทั้งอนุและสาวใช้เหตุใดจะต้องเข้าที่นั่น เยว่เหลียนเดินตรงไปที่ประตูใหญ่ที่มีทหารเฝ้ายามพอนางจะผ่านทหารนั่นก็ยกทวนขึ้นมากั้นเอาไว้
“ประตูนี้เป็นของเจ้านาย” เสียงของทหารดังขึ้น
“ข้าเองก็ใช่ ข้าเยว่เหลียนคุณหนูใหญ่ของตระกูลเป็นบุตรีของฮูหยินเอก กลับมาที่นี่เพื่อเข้าพิธีมงคลกับคุณชายตระกูลตง เจ้าจะให้ข้าไปเข้าประตูข้างรึ”
จวนตระกูลเยว่มิได้อยู่ในที่ลับตา ด้านหน้ามีชาวบ้านเดินผ่านไปมา การที่เยว่เหลียนเอ่ยเช่นนี้แล้ว หากทหารไม่ปล่อยให้นางผ่านไปก็จะสร้างคำครหา แต่หากปล่อยนางเข้าไปคนในจวนก็คงจะไม่พอใจ ไม่ว่าทางไหนก็ยุ่งยากพอกันแค่ให้นางรีบ ๆ เข้าไปก็ไม่เป็นที่พูดถึงแล้ว จะประตูหน้าหรือข้างก็ไม่ได้ต่างกันหรอกสำหรับบางคน แต่สำหรับบางคนนั้นไม่ใช่ และคนนั้นก็หมายถึงแม่นางตรงหน้านี่
“ตกลงข้าเข้าไปได้หรือยัง หรือต้องการหนังสือยืนยัน”
ทหารดึงทวนออกอย่างขัดใจ “รีบ ๆ เข้าไป”
แน่นอนว่าเขาจะต้องถูกตำหนิแน่ ๆ แต่เจ้าตัวคงไม่รู้หรอกว่าหากไม่ให้เข้าก็มีคนพร้อมที่จะเข้ามาจัดการ
ตงห่าวมองหญิงสาวที่เขารู้จักดี หากนางเข้าจวนไปเองไม่ได้เขาก็พร้อมจะเข้าไปช่วยเหลือ แม้ว่าจะไม่เหมาะก็ตาม
แต่เมื่อเห็นว่าเยว่เหลียนยังคงเป็นเด็กสาวที่งดงามและแข็งแกร่งคนเดิมเขาก็หายห่วงแล้ว “กลับไปนอกเมืองตามเดิม”
ตอนแรกยังคิดว่านางจะรับมือไม่ได้ แต่ตอนนี้เขาเบาใจขึ้นมากทั้ง ๆ ที่มีงานแท้ ๆ แต่เพียงแค่เห็นรถม้าแขวนป้ายตระกูลเยว่และผ้าม่านเปิดเพียงชั่วครู่และเห็นเด็กสาวใจดีที่โตเป็นแม่นางงดงามแล้วก็อดไม่ได้ที่จะสั่งให้คนขับรถม้าตามมาทันที
รู้ทั้งรู้ว่าไม่เหมาะไม่ควร เพราะตนเองอยู่ในฐานะพี่ชายของว่าที่สามีของอีกฝ่าย พอคิดเช่นนี้แล้วก็รู้สึกเสียดายยิ่งนัก หากเป็นเขาจะดีแค่ไหน
เพราะต้องตระเวนทำการค้าไปทั่วจึงได้พบกับนาง แต่เพราะยังรู้ผิดชอบชั่วดีอยู่บ้างจึงไม่ได้เอ่ยความในใจกับนางไป ทั้ง ๆ ที่หากทำได้ก็อยากจะเอ่ยขอหญิงสาวกับน้องชาย และบอกกับเยว่เหลียนไปว่าเขานั้นคิดอย่างไร
แต่เพราะนางเป็นว่าที่น้องสะใภ้มานานหลายปี หากทำเช่นนี้คงจะต้องเกิดคำครหาไปทั้งเมือง
สำหรับเขานั่นไม่เท่าไร แต่สำหรับหญิงสาวคงเป็นเรื่องที่ไม่ดีนัก ทั้ง ๆ ที่เกิดมาเพียบพร้อมทั้งหน้าตาความหลักแหลมและเจ้าเล่ห์ในแบบที่พ่อค้าควรมี แต่กลับไร้วาสนาเรื่องความรัก คนที่มีใจดันกลายเป็นคู่หมายของน้องชายไปซะได้ ช่างเถอะแค่เห็นนางยังมีความสุข ใช้ชีวิตได้อย่างดีเขาก็สบายใจแล้ว
“หน้าหนายิ่งนัก มาถึงก็ประกาศศักดาราวกับต้องการมาทวงทุกอย่างคืน” เสียงของเยว่เม่ยกระซิบบอกแม่ของตน
“นางอาจจะเป็นแค่คนบ้านนอกที่ไม่รู้ว่าควรจะวางตัวเช่นไรก็ได้” อนุที่ถูกยกขึ้นเป็นเป็นฮูหยินเอกแทนมารดาของเยว่เหลียนเอ่ยว่ากล่าวอีกฝ่าย
แน่นอนว่านางไม่พอใจนักที่หญิงสาวจะกลับมา กลับไปอยู่ตระกูลเก่าของมารดาตนก็ดีแล้วมิรู้จะมาทำไมให้รกหูรกตา
เสียงการแสดงความเห็นของแม่ลูกทั้งสองดังไปถึงทางเข้า แน่นอนว่าเยว่เหลียนได้ยิน หากเป็นนางคนก่อนจะต้องรู้สึกแย่แน่ ๆ แต่ครั้งนี้ไม่ นางไม่รู้สึกอะไรสักนิด ยิ่งอีกฝ่ายพูดเยอะนางก็ยิ่งนำมาใช้ได้มาก
“ท่านย่า ท่านพ่อ” เยว่เหลียนยิ้มพร้อมทั้งทำความเคารพโดยเว้นแม่เลี้ยงซึ่งเป็นฮูหยินของตระกูลในตอนนี้เอาไว้
เยว่เหลียนรู้ว่าที่นี่ไม่ต้อนรับแต่นางไม่มีทางยอมแพ้ง่าย ๆ หรอก พอแล้วสำหรับการเป็นคนดี ทำดีแล้วถูกเหยียบย่ำนางจะไม่ทนอีกต่อไป ในเมื่อสวรรค์เมตตาฟังคำขอของนาง
แม้ไม่รู้ว่าการได้ย้อนกลับมาครั้งนี้ต้องแลกด้วยสิ่งใดเยว่เหลียนไม่สนใจอีกต่อไป ขอให้ได้แก้แค้นคนเหล่านี้ให้สาสมใจ ต่อให้สุดท้ายวิญญาณจะแตกสลายนางก็หาได้เสียใจไม่
เยว่เหลียนลอบมองใบหน้าสองแม่ลูก คราก่อนนางเห็นว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน อะไรที่ยอมได้นางยอมลงให้เสมอ แม้กระทั่งสามีของนางนางยังยอมแบ่งให้
ในเมื่อฟ้าเปลี่ยนสี ไม่รู้ว่าสวรรค์หรือนรกส่งนางย้อนกลับมา บัวขาวดอกนี้เปลี่ยนไปแล้ว เมื่อเป็นคนดีแล้วกลายเป็นผู้ถูกกระทำอยู่ร่ำไป
ได้!
ข้าจะร้ายให้พวกเจ้าดู พวกเจ้าต้องได้รับบทเรียนอย่างสาสม