ตอนที่ 4 [เอ้า!... แฟนเก่า ก็งานดีว่ะ]
“คิน!” ผมรีบหันไปตามเสียงเรียกที่แฝงความตื่นเต้นดีใจแบบเว่อร์ๆนั่น บนรถไฟฟ้ามหานครตอนเย็นหลังเลิกงานคนยืนซ้อนเบียดกันจนจะได้เสียเป็นเมียผัวอยู่แล้ว ผมใช้บริการเวลานี้บ่อยๆ แต่ก็ไม่เคยจะเจอคนรู้จักนอกจากพนักงานบริษัทเดียวกัน ซึ่งไม่มีใครเรียกผมด้วยน้ำเสียงแบบนั้นอยู่แล้วครับ
แต่พอผมหันไปเห็นชายคนหนึ่งที่กำลังแหวกฝูงชนตรงดิ่งมาหาผมด้วยแววตาดีใจขั้นสุด ผมนี่ใจกระตุกเลยครับ
“พี่เดย์” พี่เดย์เป็นแฟนเก่าของผมเองครับ
“ดีใจจังที่ได้เจอคิน”
“ครับ” แต่ผมไม่ยักกะดีใจแฮะ มันเจ็บแปลบๆยังไงก็ไม่รู้ พี่เดย์เป็นเด็กวิศวะ เป็นรุ่นพี่ผมสามปี ตอนผมเข้าปีหนึ่ง พี่เดย์อยู่ปีสี่ เรารู้จักกันตอนรับน้องมหา’ลัย พี่เดย์จีบผม เราคบกันหนึ่งปีเต็ม พอพี่แกเรียนจบ แกได้งานเป็นวิศวกรบนแท่นขุดเจาะน้ำมัน ตอนนั้นไอ้เมฆมันยังแซวผม ว่าแฟนผมเท่ชิบหาย ผมก็ปลื้มใจ แต่ได้ไม่นานครับ พี่เดย์ไปทำงานบนแท่นขุดเจาะหกเดือน แล้วกลับมาบอกผมว่า เราเลิกกันเถอะ ตอนนั้นผมงงเป็นไก่ตาแตก ไม่มีเหตุผล ไม่ให้เวลา ผมเป็นบ้าอยู่พักใหญ่ แต่ตอนนี้ทำใจได้แล้วครับ แต่ไม่ค่อยชอบใจนัก ที่พี่เดย์เข้ามาทักผมแบบทำหน้าเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น อย่ามาตีสนิทเหอะ!
“ทำงานแถวนี้เหรอ?” พี่เดย์ส่งคำถามมาพร้อมกับแววตาซึ้งกินใจ แถมปากก็ยิ้มจนเห็นไรฟัน ไอ้ยิ้มแบบนั้นแหละที่ผมเคยหลง
“ครับ” แต่ผมตอบไปสั้นๆเท่านั้นครับ หัวใจเต้นถี่ขึ้นหน่อย แต่ไม่มาก
“พี่ก็อยู่แถวนี้เหมือนกัน” พี่เดย์บอก พลางก็เอากระเป๋าเป้ขึ้นมาสะพายอยู่ด้านหน้า ผมเดาว่ามันน่าจะเป็นกระเป๋าใส่โน๊ตบุ๊ค พี่เดย์ใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้ากับกางเกงสแล็ค ดูเป็นหนุ่มออฟฟิศแบบเต็มขั้น คล้ายๆกับบอสเหมือนกันนะ แต่บอสจะสวมสูททับอีกชั้น หรือถ้าหลังเลิกงาน แกก็จะถอดสูทตัวนอกออก แล้วพับแขนเสื้อเชิ้ตขึ้นไปเกือบถึงศอก โชว์ออฟเส้นกล้ามเนื้อแขนเล่นๆซะงั้น แต่! ผมจะไปคิดถึงบอสทำไมวะ?
“แล้วนี่พักที่ไหน ยังอยู่หอแถวมหา’ลัยป่ะ?”
เสือก! ผมแค่คิดครับ ไม่ได้พูด แต่สิ่งที่พูดก็คือ “ครับ”
“เออ พี่ก็ยังอยู่ที่นั่นเหมือนกัน มันติดอ่ะเนอะ ชีวิตตอนเรียนมหา’ลัย มีอะไรให้จดจำเยอะเลย” พี่เดย์ส่งสายตาแบบเดิมมาอีกแล้วล่ะครับ ผมเอาไงดีวะ
“มีแฟนใหม่หรือยัง?” แต่ในระหว่างที่ผมกำลังคิด ไอ้พี่เดย์ก็เสือกดึงเข้ากลางเรื่องเลยครับ
“มีแล้วดิ” อ่ะ ผมยอมรับว่าโกหก แต่ไม่มาก เพราะผมคิดถึงบอสอยู่แหละ ขอยืมอิมเมจก่อนนะครับบอส
“เหรอ ใครอ่ะ พี่รู้จักไหม?” หน้าพี่เดย์เปลี่ยนจากหน้าคนเป็นหลังตีนเลยครับ ผมสะใจชิบหาย
“ไม่รู้จักหรอกครับ เป็นเจ้านายผม ที่ทำงานนี่แหละครับ” ฮึ! อวดซะหน่อยครับ ผัวกูรวย!
“โห…เป็นเจ้านายเลยเหรอ แล้วพี่จะเอาอะไรไปสู้ล่ะเนี่ย” สู้เชี่ยไรวะ อย่าบอกนะ ว่าจะมาขอคืนดี
“ว่าจะมาขอคืนดีซะหน่อย” นั่นไง ชิบหายล่ะ พี่เดย์บอกว่าจะมาขอคืนดี
“เอาดีๆพี่ พูดเล่นใช่ไหม?” ผมถามกลับเพื่อความแน่ใจ หัวใจนี่เต้นตึกตัก ไม่รู้ว่าดีใจ หรือแค่หวั่นไหวเฉยๆ ที่มีคนมาสนใจ
“พี่พูดจริงนะ” ผมเริ่มรู้สึกถึงสายตาที่จับจ้อง ไม่ใช่เฉพาะของพี่เดย์นะครับ แต่มันมาจากสายตาทุกคู่ที่อยู่ในรัศมีสองเมตร แม่ง! ลืมตัวว่าอยู่บน BTS
พี่เดย์ก็คงเพิ่งรู้ตัวเหมือนกันเมื่อมองตามสายตาผม ผมว่าผมเห็นบางคนส่งสายตาลุ้นๆมาให้นะครับ เสือกเรื่องของกูกันจังเลยครับ
“แวะหาไรกินกันไหม พี่มีเรื่องจะคุยด้วย” ผมมีสิทธิ์เลือกนะครับ ว่าจะไปหรือไม่ไป แต่ผมเสือกเลือกไปกับพี่เดย์ครับ เอาให้สุด เรื่องที่มันเคยคาใจ เคลียร์ใจกันไปเลย แมนๆคุยกันครับ
“ก็ได้ครับ” พอผมตอบตกลง ผมได้ยินเสียงถอนหายใจแบบโล่งอกอ่ะครับ แต่ไม่ได้มาจากพี่เดย์นะ มันมาจากไอ้พวกที่มันเอียงตัวเอียงหัวเข้ามาฟังใกล้ๆอ่ะครับ
“พอใจยัง?” และผมก็ไม่ได้ถามพี่เดย์ครับ แต่หันไปมองทุกคนที่อยู่รอบๆตัวเราสองคน ทุกคนก็ก้มหน้าซ่อนยิ้มกันหมด รถไฟฟ้าจอดสถานีต่อไปพอดีครับ ผมไม่ได้ฟังหรอกว่าสถานีอะไร ผมรีบเดินออกไปเลยครับ
“กินแถวนี้แล้วกันนะพี่” ผมบอกพี่เดย์ แล้วแกก็เดินยิ้มตามออกมา
พี่เดย์พาผมมากินบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นครับ พี่เดย์บอกว่าจะเลี้ยง ผมเลยเลือกเช็ตพรีเมี่ยมเลยครับ หัวละสองพันเก้า ผัวเก่ากูก็รวย!
“พี่พูดจริงนะเรื่องนั้น” อยู่ๆพี่เดย์ก็โพล่งขึ้นมาครับ แกเป็นคนพูดอะไรตรงๆ ตอนที่จีบผมก็เหมือนกัน เดินเข้ามาบอกเลยครับว่าชอบ ขอจีบได้ไหม ตอนนั้นผมยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าชอบผู้หญิงหรือผู้ชาย
“เรื่องอะไรครับ?” ผมถามกลับไป ทั้งๆที่ก็จำได้แหละว่าแกหมายถึงเรื่องอะไร
“เรื่องที่จะขอคืนดี” พี่แกก็เลยย้ำให้อีกทีครับ
“เคลียร์เรื่องเก่าก่อนไหมพี่ ก่อนจะเริ่มเรื่องใหม่” ผมคาใจครับ ว่าตอนนั้น ผมทำอะไรผิด ทำไมพี่เดย์ถึงต้องบอกเลิกผม และเท่าที่ผมรู้ พี่เดย์ไม่ได้มีแฟนใหม่ เพราะมีเพื่อนๆหลายๆคนคอนเฟิร์ม
“อยากรู้จริงๆเหรอ?” ไม่อยากรู้จะถามทำเชี่ยไรวะ
“ครับ”
“คือ ตอนนั้นพี่คิดว่างานของพี่ มันไม่มีเวลาให้คินน่ะ พี่ไม่มีเวลาดูแลคิน กลัวว่าคินจะเหงาและคิดมาก แล้วถ้าคินมีใครเข้ามาในชีวิตตอนที่พี่ไม่อยู่ แล้วคินทิ้งพี่ไป พี่คงเสียใจมาก พี่ไม่อยากเป็นแบบนั้น”
“พี่ก็เลยชิงทิ้งผมไปก่อนนะเหรอ?” เออ ก็แปลกดีนะ แก้ตัวได้กากชิบหาย
“พี่มันขี้ขลาดใช่ไหมคิน แต่พี่รักคินนะ และก็รักมาตลอดจนถึงตอนนี้” ผมเห็นแววจริงใจในนั้นเหมือนกันนะ ตอนที่พี่เดย์พูด
“แล้วมาขอคืนดีทำไมล่ะครับ ในเมื่อพี่ก็ไม่มีเวลาให้ผมอยู่ดี” ผมถามไปอย่างนั้นแหละครับ ไม่ได้งอนเล้ย สาบาน!
“ตอนนี้พี่เข้ามาประจำที่สำนักงานใหญ่แล้ว ไม่ต้องออกไปกลางทะเลอีกแล้วล่ะ มีเวลาให้คินทุกวันแน่ ว่าแต่คินเถอะ ยังรักพี่อยู่หรือเปล่า แล้วแฟนใหม่คิน เอ่อ ที่บอกว่าคบกับเจ้านายอยู่น่ะ เขาจะว่าไง” พี่เดย์สรุปแบบรวบหัวรวบหาง คงหวังจะกินกลางตลอดตัวผมเลยแหละครับ
“เดี๋ยวนะพี่! ผมยังไม่ได้บอกเลยว่าจะกลับมาคืนดีกับพี่อ่ะ” พี่เดย์หน้าแห้งไปเลยครับ เพราะผมไม่หลงกล
“ได้กันยัง?” ผมแทบสำลักแซลมอนเลยครับ ตอนที่พี่เดย์ถามประโยคนั้นออกมา
“บ้า พูดบ้าอะไรวะพี่” ผมเลยด่าให้
“นั่น! แก้มแดงแบบนี้ แสดงว่ายัง” พี่เดย์จับผิดผม ส่งยิ้มแบบมีความหวังมาให้
“เออ ก็กำลังดูๆกันอยู่เฉยๆ ยังไม่ได้ถึงขั้นนั้น” ผมเห็นท่าเอาจริงเอาจังของพี่เดย์ ก็เลยไม่กล้าโมเมมากครับ เพราะเกิดวันดีคืนดี ไอ้พี่เดย์สายตรงมันพุ่งเข้าไปถามบอสล่ะก็ ผมโดนบอสฆ่าตายแน่ๆ ข้อหาอ้างว่าแกเป็นผัว บอสดูไม่ได้สนใจผมสักนิด สงสัยคงชอบชะนีมากกว่าลิงกังแก้มแดงอย่างผม
“งั้น! พี่ก็มีสิทธ์ดิ” พี่เดย์ดีใจเหมือนตอนได้งานที่นั่นเลยครับ
“สิทธิ์อะไรพี่ เรื่องของเรามันจบไปนานแล้วป่ะครับ”
“จบแล้ว ก็เริ่มใหม่ได้นี่ งั้นพี่เริ่มเลยนะ”
“เริ่มอะไร้!” ผมตะคอกใส่เลยครับ แต่ไม่ได้ดังมาก แค่แก้เขินเฉยๆแหละ
“พี่เริ่มจีบคินใหม่ก็ได้ พี่ยินดีเป็นหนึ่งในตัวเลือกของคิน สุดท้ายคินจะเลือกใคร พี่ก็จะยอมรับ พี่ขอแค่โอกาส อีกครั้งก็พอ” แมนไหมล่ะครับ ผัวเก่าผม เท่ชิบหาย! แต่พี่เดย์ไม่ได้คิดแบบนั้นจริงๆหรอกครับ ที่พูดแบบนั้น เพราะมั่นใจว่าตัวเองชนะแน่นอนครับ
ผมไม่ได้พูดอะไรอีก ก้มหน้าก้มตากิน แล้วก็กิน พี่เดย์คงเข้าใจว่าผมตอบรับ อนุญาตให้จีบได้
ผมก็ไม่แน่ใจครับ ว่ารู้สึกยังไง ตอนนี้ผมก็ไม่มีใคร ไม่รู้ว่ายังไม่หายนอยด์ ที่โดนพี่เดย์ทิ้ง หรืออะไร แต่ผมไม่เคยมองใครเลยจริงๆนะครับ จนกระทั่ง…