บทที่ 2
@ บริษัท Cuzera Cosmetic
มาถึงบริษัทแล้วผมก็เห็นเขากำลังยืนคุยกับปริม เธอเป็นประชาสัมพันธ์สาวสวยของบริษัท เนื้อหอมมากจนผู้ชายเกือบทั้งบริษัทต่างก็วิ่งกรูเข้ามารุมจีบ และเธอนั่นเองคือคู่แข่งที่น่ากลัวของผม เพราะได้ยินข่าวว่านางเองก็กำลังตะล่อมๆ บอสด้วยอีกคน
“วันนี้บอสจะออกไปทำธุระข้างนอกไหมคะ”
“ไม่นะ...ทำไมเหรอ”
“พอดีหนูมีเรื่องจะปรึกษาน่ะค่ะ ถ้าบอสอยู่ห้องหนูจะได้ขึ้นไปหา”
“ก็ขึ้นไปสิ ฉันไปล่ะ”
“ค่ะบอส”
นั่นคือบทสนทนาระหว่างบอสและปริม ซึ่งผมแอบซุ่มฟังอยู่อีกมุมหนึ่ง รอให้คนทั้งสองแยกย้ายกันแล้ว จึงออกจากที่มืดรีบวิ่งแจ้นไปยังเครื่องสแกนนิ้ว
เจ็ดโมงห้าสิบเก้านาที สี่สิบวินาที...
ตี๊ด!
“เฮ้อ!! นึกว่าจะไม่ทันซะแล้ว” เมื่อสแกนนิ้วได้ทันเวลาจึงหายใจโล่งขึ้นมาหน่อย
“อ้าว! ฉันนึกว่านายจะมาไม่ทันซะอีก” เขามาอยู่ข้างหลังตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้
“บอส!”
“โทษทีนะที่ฉันไม่ได้รับนายมาด้วย เห็นว่าชอบนั่งรถเมล์เลยกลัวว่าจะรู้สึกอึดอัด” เขาเอ่ยด้วยสีหน้ากวนๆ ราวกับเมื่อเช้ามันเป็นแค่เรื่องขำขันเท่านั้นเอง
“ไม่เป็นไรครับ ถึงชวนผมก็ไม่ไปด้วยหรอกเพราะถ้าได้นั่งใกล้บอสขนาดนั้น คงใจละลายตายอย่างสงบศพสีชมพูแน่ๆ” ส่งยิ้มให้บอสเหมือนไม่ได้รู้สึกน้อยใจอะไรเลย แต่ทว่าในใจกลับมีแต่คำก่นด่า
“สรุปที่นายบอกว่าชอบฉันเมื่อวานไม่ได้พูดเล่นใช่ไหม”
“ทำไมบอสคิดว่าผมพูดเล่นล่ะครับ”
“ก็ดูจากสภาพนายแล้วมันไม่น่าใช่ไง ฉันเข้าใจนะว่าผู้หญิงส่วนมากในบริษัทอยากจะเป็นแฟนกับคนหล่อๆ รวยๆ อย่างฉัน แต่นายเป็นผู้ชายไม่นึกว่าจะกล้าทำถึงขนาดนี้ ถ้าเป็นอย่างปริมมันก็น่าจะพอมีลุ้นหน่อย” เขาแค่นหัวเราะออกมาเบาๆ ราวกับผมเป็นตัวตลกซะอย่างนั้น
“แล้วไงครับ ถึงผมจะไม่มีนม ผมไม่ยาว แต่ก็หน้าตาดีไม่แพ้ใครเหมือนกันนะ”
“ห๊ะ! นายกล้าพูดออกมาได้ยังไงกัน ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีคนมั่นหน้าอย่างนี้บนโลกด้วย เอาเป็นว่าขึ้นไปทำงานเถอะฉันไม่มีอะไรจะคุยกับนายแล้ว” เขาปัดมือไล่ราวกับผมเป็นตัวอะไรสักอย่าง จากนั้นจึงเดินนำหน้าขึ้นไปก่อน
“มั่นหน้าตรงไหนเนี่ย เราก็หน้าตาดีสุดในแผนกนี่นา” ผมเอ่ยติดตลกแล้วขำเบา ๆ เพราะในแผนกมีผมเป็นผู้ชายคนเดียวนี่นา จากนั้นจึงเดินตามหลังบอสสุดหล่อขึ้นไปที่ออฟฟิศชั้นสองอย่างอารมณ์ดี
เวลา 12.00 น. @โรงอาหาร
เมื่อถึงเวลาทานมื้อเที่ยงผมกับพรรคพวกในแผนก ต่างก็เดินเกาะกลุ่มมายังโรงอาหารของบริษัท พนักงานที่นี่มีหลายร้อยชีวิต ทำให้ตอนเที่ยงๆ อย่างนี้มีผู้คนพลุกพล่านมากเป็นพิเศษ
โต๊ะนั่งทานข้าวเต็มพื้นที่ถูกจับจองไว้จนเกือบหมด แต่ทว่าที่ประจำของพวกเราทั้งห้าชีวิตซึ่งประกอบไปด้วย พี่ครีม พี่แอม พี่ฉวี พี่แอน และคนสุดท้ายก็คือผมเอง ยังคงเป็นพื้นที่ปลอดภัยไม่มีใครจับจอง
“ไอซ์แกรู้สึกแปลกๆ ไหมยะ” เมื่อนั่งลงที่โต๊ะแล้วพี่ครีมก็ชะโงกหน้า มาเอ่ยกับผมด้วยสีหน้าสงสัย มองซ้ายมองขวาเพื่อสังเกตพฤติกรรมคนรอบตัว
“ผมก็คิดว่ามันแปลกๆ ตั้งแต่เดินมาแล้วอ่ะพี่” ที่เป็นอย่างนั้นเพราะพนักงานคนอื่นๆ ต่างก็มองมาที่ผมแล้วหัวเราะคิกคัก สนทนากันแล้วมองมาราวกับกำลังนินทาว่าร้ายซะอย่างนั้น
“ฉันนึกว่าคิดไปเองคนเดียวซะอีก” พี่แอมเอ่ยสมทบอีกคน
“แกไปทำอะไรไว้หรือเปล่าไอซ์ คนถึงได้มองทั้งบริษัทอย่างนี้” พี่แอนเอ่ยถาม
“เปล่านะพี่วันๆ ผมก็อยู่แค่ในแผนกพวกพี่ก็เห็นนี่นา”
“เออ...ก็ใช่นะ” พี่แอนพยักหน้าเห็นด้วย
“ช่างเถอะเดี๋ยวก็รู้เองล่ะไปซื้อข้าวกันเถอะ” พี่ฉวีว่า
จากนั้นเราทั้งหมดก็เดินไปเลือกซื้ออาหาร ในระหว่างยืนรอเข้าคิวอยู่นั้น ก็มีสาวๆ กลุ่มที่ยืนข้างหลังซุบซิบเสียงเบาแต่ทว่าผมกลับได้ยินถนัดหู
“สภาพอย่างนี้นะกล้าไปบอกชอบบอส”
“ฉันก็ว่างั้นล่ะ ฉันสวยขนาดนี้ยังไม่มั่นหน้าขนาดนั้นเลย”
“ยังโชคดีที่ไม่โดนไล่ออก”
ได้ยินอย่างนั้นผมก็เบิกตาโพลงด้วยความตกใจ คนทั้งบริษัทรู้เรื่องนี้ได้ยังไงกัน เพราะตอนนั้นก็มีแค่ผมกับเขาเพียงสองคนที่อยู่ในห้อง ถ้าจะมีใครเป็นคนพูดคงไม่พ้นบอสแน่นอน เขาทำอย่างนี้ทำไม หรือต้องการแกล้งให้ผมอับอายขายขี้หน้าจนอยู่ไม่ได้งั้นเหรอ คิดจะบีบให้ลาออกทางอ้อมสินะ
ไม่มีทาง!
ผมหันขวับกลับไปมองผู้หญิงพวกนั้นด้วยสายตาอันดุดัน เจ้าหล่อนทั้งหลายปิดปากเงียบสนิท ลอยหน้าลอยตาหันไปมองทางอื่นราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ด้านได้อายอดเคยได้ยินคำนี้ไหมครับ”
หลายคนอาจจะมองว่าผมเป็นผู้ชายติ๋ม ๆ แต่ทว่าพอได้โมโหแล้วกลับไม่ใช่อย่างนั้นเลย ผมเป็นพวกไม่ยอมคน อยากได้อะไรก็ต้องได้ ซึ่งมันขัดกับบุคลิกที่คนอื่นมองมา