บทที่ 12 สองสาวสวยในชุดบิกินี่
“เอางั้นก็ได้”
เย่เฉิงเฟิงพยักหน้าเบา ๆ แล้วค่อย ๆ หักพวงมาลัยขับเลกซัส แอลเอ็กซ์กลับบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพหลินซื่อ
“ค่อยให้รถนายพรุ่งนี้ วันนี้ฉันขอไปส่งพี่กลับบ้านก่อนนะ พี่เทพรถซิ่ง”
ก่อนหลินจื่อเฉียงจะไป ยังขยิบตาให้เย่เฉิงเฟิงอีกด้วย แต่ใบหน้าสวยนั้นไม่มีความเสียดายที่เสียรถหรูไปเลย
ในทางกลับกัน สาวน้อยคนนี้กลับมีความสุขมาก รอยยิ้มแฝงความเจ้าเล่ห์แสนน่ารัก ไม่รู้กำลังคิดแผนการแสบซนอะไรอยู่
ส่วนเรื่องที่หลินจื่อเวยขับรถชน ตำรวจจราจรจัดการเรียบร้อยแล้ว ไม่เกี่ยวอะไรกับเย่เฉิงเฟิงเลย ดูเหมือนคนขับแท็กซี่จะตระหนักได้ว่าตัวเองผิดที่ลงมือกับรปภ.ก่อน จึงไม่กล้าเอ่ยถึงเรื่องนั้น
สำหรับเรื่องนี้ แน่นอนว่าเย่เฉิงเฟิงไม่คิดจะยุ่งให้มากความ
แต่เป็นเรื่องเซรุ่มยอดมนุษย์ที่หลินจื่อเฉียงหลุดปากพูดออกมามากกว่า ที่ทำให้เย่เฉิงเฟิงสนใจ
ถึงเขาจะไม่รู้รายละเอียด แต่คำว่า ‘ยอดมนุษย์’ สองคำนี้ ก็พอจะรู้ว่าเป็นเซรุ่มประเภทไหน
นี่น่าจะเป็นเหตุผลหลักที่รัฐบาลหัวเซี่ยส่งเขามาคุ้มกันหลินจื่อเวยสินะ?
พูดอีกอย่างคือ เป็นไปได้มากว่าหลินจื่อเวยจะวิจัยเซรุ่มยอดมนุษย์ได้สำเร็จ หากนำมาใช้กับทางการทหารอย่างแพร่หลาย พลังรบของทหารหัวเซี่ยก็จะพุ่งพรวดอย่างน่ากลัว
เซรุ่มยอดมนุษย์ที่มีบทบาทสำคัญขนาดนี้ รัฐบาลหัวเซี่ยจะไม่ให้ความสำคัญและปกป้องไว้ล่วงหน้าได้อย่างไร?
นี่ก็มีเหตุผลเพียงพอที่จะให้เย่เฉิงเฟิงลงมือปกป้องแล้ว!
คิดถึงตรงนี้ เย่เฉิงเฟิงก็อดบ่นท่านอวิ๋นไม่ได้
ตาเฒ่านี่ บอกเขาตรง ๆ เลยก็ได้ว่าอยากให้เขาคุ้มครองหลินจื่อเวยเพราะเซรุ่มยอดมนุษย์
ดันปิดเป็นความลับซะได้!
ช่วงบ่ายผ่านไปอย่างเบื่อหน่าย
ตอนเย่เฉิงเฟิงเลิกงาน มีรถแลนด์โรเวอร์ เรนจ์โรเวอร์รุ่นใหม่ติดป้ายทะเบียนทหารเมืองหลวงมาจอดอยู่ในตรอกข้าง ๆ บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพหลินซื่อเงียบ ๆ
เหยียนอี๋เยว่สวมหมวกนักเดินทาง ใส่กางเกงขาสั้นสีดำกับเสื้อกล้ามสีดำ ปรากฏตัวต่อหน้าเย่เฉิงเฟิงอย่างมีชีวิตชีวา
เรียวขาสวยขาวนวล เอวเล็กเหมาะมือ หน้าท้องแบนราบ กับสะดือแสนน่ารัก...ยังมีหน้าอกอวบอิ่ม บั้นท้ายกลมกลึงเด้งงอน ทุกส่วนทำให้เหยียนอี๋เยว่ดูเซ็กซี่เย้ายวน
“ดาวยั่วสุด ๆ!”
เย่เฉิงเฟิงไม่คิดเลยว่าเหยียนอี๋เยว่ไม่ใส่ชุดเกี่ยวกับทหารแล้วจะเซ็กซี่ขนาดนี้ เซ็กซี่สุดเร้าใจชัด ๆ!
“คุณหมายถึงหลินจื่อเวยเหรอ?”
เหยียนอี๋เยว่หน้าแดงนิด ๆ ใช้สถานะปลอมพูดกับคุยเย่เฉิงเฟิงในที่สาธารณะได้อย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนเป็นเพื่อนสนิทกับเย่เฉิงเฟิง
“หมายถึงเธอนั่นแหละ เสี่ยวเยว่เยว่!”
เย่เฉิงเฟิงโอบเอวคอดเซ็กซี่ของเธอ ฝ่ามือเลื่อนลงไปคว้าบั้นท้ายกลมกลึงเด้งงอนของเธออีกครั้ง
“คุณ...”
เหยียนอี๋เยว่หน้าแดงขึ้นมาทันที
เป็นครั้งแรกที่เธอถูกเย่เฉิงเฟิงจับก้นต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้
ทำให้เธอทำตัวไม่ค่อยถูกขึ้นมา
“ฉันทำไมเหรอ? หน้ามีอะไรเปื้อนเหรอ?
เย่เฉิงเฟิงหัวเราะเจ้าเล่ห์ แล้วรีบพูดขึ้น “รีบไปกันเถอะ ก่อนที่ฉันจะทนไม่ไหวอีก”
“ไอ้คนทะลึ่ง!”
เหยียนอี๋เยว่กระทืบเท้าด่าอย่างขุ่นเคือง ก่อนพาเย่เฉิงเฟิงขึ้นรถ แล้วขับพาเขาไปยังเขตวิลล่าที่อยู่ไม่ไกลจากบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพหลินซื่อ——เจียงปินการ์เดน
“โอ้พระเจ้า! นี่เหรอบ้านที่เธอช่วยฉันหา?”
เย่เฉิงเฟิงมองไปนอกหน้าต่างรถ รู้สึกไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “นี่มันเขตวิลล่าหรูเชียวนะ! หลังหนึ่งเกินสิบล้าน! อยู่ที่นี่ไม่เวอร์ไปหน่อยเหรอ?”
“ไม่เป็นไร ใช้เงินหลวงเช่า”
เหยียนอี๋เยว่ยิ้มหวาน “และที่สำคัญที่สุดคือหลินจื่อเวยก็อยู่ที่นี่ด้วย! ก่อนที่ผู้บังคับบัญชาเย่จะได้เป็นบอดี้การ์ดของหลินจื่อเวย ก็จะดูแลความปลอดภัยของเธอหลังเลิกงานได้”
พูดถึงตรงนี้ เหยียนอี๋เยว่ก็ยื่นปากไปทางเบาะหลัง “หลังเช็คเอาท์ห้องให้ผู้บังคับบัญชาเย่ ฉันเตรียมอุปกรณ์ทางการทหารไว้ชุดหนึ่งด้วย ถ้าคุณอยากติดตั้งกล้องวงจรปิดทั่วบ้านหลินจื่อเวยก็ได้นะ”
“มันก็ดีแหละ แต่ทำแบบนั้น เธอจะไม่มีความเป็นส่วนตัวเกินไปไหม?”
เย่เฉิงเฟิงส่ายหน้า
“คุณไม่อยากดูเหรอว่าตอนหลินจื่อเวยอาบน้ำจะสวยแค่ไหน?”
เหยียนอี๋เยว่หัวเราะร่วนอย่างร้ายกาจ แล้วเอ่ยหยอก “วันนี้คุณน่าจะเห็นตัวจริงหลินจื่อเวยแล้วสินะ? เธอกับตงฟางเสวี่ยเป็นสาวงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองฮู่เชียวนะ! ลูกหลานทายาทเศรษฐีมากมายพากันมาจีบพิชิตใจกันใหญ่!”
“เพ้อเจ้อ! ฉันต่ำช้าไม่น่าไว้ใจขนาดนั้นเลยเหรอ?”
เย่เฉิงเฟิงจ้องเขม็งอย่างเคร่งขรึม
“แต่คุณมันเจ้าเล่ห์นี่นา”
เหยียนอี๋เยว่ทำหน้าจริงจัง
“ก็ได้ เธอรู้ทันซะแล้ว”
เย่เฉิงเฟิงแบมืออย่างหมดหนทาง จู่ ๆ ก็กังวลขึ้นมาอีกครั้ง “ถ้าหลินจื่อเวยรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่จะทำยังไง?”
“คุณก็บอกไปว่ามาอาศัยบ้านญาติ ฉันเป็นน้องสาวคุณ”
“โอเค ไหน ๆ เสี่ยวเยว่เยว่ก็เตรียมการไว้อย่างรอบคอบ ฉันจะทำตามที่ขอก็แล้วกัน!”
เย่เฉิงเฟิงพยักหน้า ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ “แบบนี้แสดงว่าเสี่ยวเยว่เยว่เธอ...อยู่บ้านเดียวกับฉันเหรอ? ไม่ดีมั้ง? ฉันกลัวเผลอเข้าผิดห้องตอนกลางคืน”
ถึงปากจะพูดแบบนั้น แต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนหน้าเย่เฉิงเฟิงไม่มีเจตนาร้ายแม้แต่นิดเดียว
นี่ทำให้เหยียนอี๋เยว่แทบไม่กล้าตอบ หน้าแดงจนเหมือนปูต้มสุก
ไม่นานนัก รถก็มาจอดหน้าประตูวิลล่าหมายเลข 9 ของเจียงปินการ์เดน
หลังจากเย่เฉิงเฟิงขึ้นไปเลือกห้องแล้ว ก็สังเกตสภาพแวดล้อมโดยรอบ กลับพบว่าหลินจื่อเวยกับหลินจื่อเฉียงสองพี่น้องอาศัยอยู่วิลล่าหมายเลข 12 ด้านหลังหมายเลข 9
ขณะนี้สองพี่น้องกำลังสวมบิกินี่สุดเซ็กซี่ ว่ายอยู่ในสระว่ายน้ำบ้านตัวเอง
ผิวขาวเนียนราวกับหิมะ ทรวดทรงเย้ายวน ไม่สามารถละสายตาได้เลย
“ว้าว! หุ่นของสองสาวนี่สุดยอดจริง ๆ”
เย่เฉิงเฟิงหัวเราะเจ้าเล่ห์ ทันใดนั้นก็สังเกตว่าหลินจื่อเฉียงมองมาทางเขาอยู่ เขาตกใจจนรีบย่อตัวลง
“พี่ เมื่อกี้ฉันเหมือน...เห็นรปภ.ที่ช่วยขับรถวันนี้เลย”
หลินจื่อเฉียงถอดแว่นว่ายน้ำ แล้วนั่งตัวเปียกข้างสระ พลางชี้ไปที่ชั้นสองของวิลล่าหมายเลข 9 “อยู่ตรงนั้น!”
เมื่อได้ยินแบบนั้น หลินจื่อเฉียงมองตามทิศทางที่ชี้ไป แต่ก็ไม่เห็นอะไร จึงหัวเราะและพูดว่า “เธอคงไม่ได้ติดใจเขาเพราะเขาขับรถเก่งหรอกนะ? ที่นี่เป็นเขตวิลล่าหรู รปภ.คนหนึ่งจะมาพักอยู่ได้ยังไงล่ะ?
“ก็จริงแฮะ!”
หลินจื่อเฉียงพยักหน้า เท้าเนียนนุ่มอมชมพูกระทบผิวน้ำเบา ๆ แล้วพูดขึ้น “จริงสิพี่ พี่จะให้เขามาเป็นคนขับรถไหม? ทักษะขับรถเขาดีขนาดนั้น พี่ทำงานเหน็ดเหนื่อยทุกวัน ขับรถเองจะอันตรายมากนะ”
“ค่อยว่ากัน เพิ่งรู้จักเอง ไม่รู้นิสัยใจคอเป็นยังไง”
“งั้นพี่ต้องรีบสังเกตให้ไว”
หลินจื่อเฉียงหัวเราะคิกคัก “ไม่งั้นฉันจะชิงตัดหน้านะ! เขาเป็นคนมีความสามารถ ฉันอยากชวนเขาไปเป็นนักแข่งรถที่สโมสรแข่งรถของฉัน ต้องโด่งดังไปทั่วโลกแน่นอน”
“รู้อยู่แล้วว่าเธอหมายปองเขาอยู่!”
หลินจื่อเวยเขี่ยปลายจมูกเธอเบา ๆ แล้วพูดอย่างเอ็นดู “แต่ฉันรู้สึกอยู่ตลอดเลยว่าเขาน่าจะไม่ใช่พลทหารขับรถธรรมดา! เขามีทักษะขับรถยอดเยี่ยมมาก รัฐบาลจะปล่อยให้คนมีความสามารถปลดประจำการได้ยังไง? อีกอย่างเขามีออร่าราชาผู้เย่อหยิ่งที่ดูเป็นธรรมชาติมาก ๆ ไม่เหมือนคนธรรมดาเลย”
