ตอนที่ 1
บึ้ม...
เสียงระเบิดยังคงดังออกมาจากคฤหาสน์หลังใหญ่เป็นระยะๆ ลูกไฟสีแดงลุกโชนพวยพุ่งขึ้นมาเหนือหลังคา เสี่ยปรีดาวิ่งออกมาได้ทันเวลา โดยมีสมุนอีกสองคนวิ่งประกบตามมาติดๆ
“นายครับ... ”
‘ไททัน’ บอดี้การ์ดฝีมือดี หัวหน้าทีมอารักขาเสี่ยปรีดาวิ่งตรงเข้ามาคุ้มครองนาย หลังจากขับรถกระบะเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน ทันเห็นเหตุการณ์ชุลมุนโกลาหลที่กำลังเกิดขึ้น
“กูปลอดภัย... ไม่ต้องห่วง... แต่ยัยหนูยังไม่ออกมาจากห้อง”
เสี่ยปรีดาเสียงสั่นเป็นห่วงลูกสาว แววตาเครียดจัดเหลียวกลับไปยังชั้นสองของคฤหาสน์หลังใหญ่กำลังโดนไฟไหม้
“คุณหนู”
ไททันไม่รอช้า รีบวิ่งไปคว้าสายยางใกล้สปิงเกอร์รดน้ำต้นไม้ข้างรั้ว เอามาฉีดพ่นใส่ร่างกายของตัวเองจนโชกชุ่ม จากนั้นก็วิ่งฝ่ากลุ่มควันเข้าไปช่วยลูกสาวของผู้เป็นนายที่ยังติดอยู่ในห้องนอนชั้นสองของบ้าน
อึดใจต่อมา ไททันก็อุ้มร่างไร้สติของคุณหนูมินตรา หรือที่บิดามักจะเรียกว่า ‘น้องมิ้น’ พาหนีออกมาจากกลุ่มควันและเปลวไฟแดงฉานลุกท่วมหลังคา มีเสียงระเบิดดังไล่หลังตามมาเป็นระยะ ท่ามกลางเหตุการณ์ระทึกขวัญที่ไม่มีใครคาดคิด
“ยัยมิ้น... ยัยมิ้นลูกพ่อ”
เสี่ยปรีดาตะโกนเรียกร่างไร้สติของลูกสาวที่บอดี้การ์ดของตนกำลังอุ้มเอาไว้ในอ้อมกอด
“ไม่ต้องห่วงครับนาย... คุณหนูแค่สลบ”
ไททันกล่าว
“ไอ้ไท... ”
เสี่ยปรีดาเขย่าแขนของบอดี้การ์ดหนุ่ม
“ครับนาย”
“มึงให้สัญญากับกูอย่างนึงได้ไหม?”
สุ้มเสียงดูจริงจัง แต่เป็นครั้งแรกที่ไททันสังเกตเห็นแววของความหวาดหวั่น ผุดวาบขึ้นมาในดวงตาของผู้เป็นนาย
“ได้ทุกอย่างครับนาย”
“สัญญากับกู... ว่ามึงจะดูแลยัยมิ้นเท่าชีวิต”
เสียงของเสี่ยปรีดาสั่นเครือ
“จำเอาไว้ว่าดูแลลูกกูเท่าชีวิต... กูจะเพิ่มเงินเดือนให้มึงอีกร้อยเท่า... ”
เสี่ยปรีดากล่าวอย่างคนที่รู้ตัวดี ว่าในเวลานี้ ‘เงิน’ มากมายก็ช่วยอะไรไม่ได้ ในวินาทีที่เงื้อมมือของมัจจุราชกำลังเอื้อมลงมารอรับวิญญาณของทุกคนในครอบครัว สิ่งที่จะทำให้ลูกสาวของตนมีชีวิตรอดปลอดภัยต่อไปได้ก็คือการอารักขาคุ้มครองของบอดี้การ์ดฝีมือดีคนนี้
เสี่ยปรีดาเชื่อมั่นว่าลูกสาวของตนจะปลอดภัย ตราบใดที่อยู่ใกล้ไททัน
“ได้ครับนาย... ผมขอสัญญาว่าจะปกป้องดูแลคุณหนูมิ้นด้วยชีวิตของผม”
ไททันรับปากหนักแน่น
“ไป... มึงรีบไป... พายัยหนูไปที่ไหนก็ได้ที่มึงคิดว่าปลอดภัยที่สุด... ”
เสี่ยปรีดากำชับ
“แล้วนายจะไปไหนครับ?”
เสียงของไททันบอกความเป็นห่วง แม้เสี่ยปรีดาจะคลุกคลีอยู่ในธุรกิจสีเทามานาน แต่เรื่องจิตใจก็นับว่านายคนนี้ใจถึง ไม่เคยทิ้งลูกน้อง
“กูจะหลบไปเวียดนามสักพัก... ถ้าปลอดภัยเมื่อไรเดี๋ยวกูติดต่อกลับมา... มึงช่วยดูแลยัยหนูให้ดี”
พูดจบเสียงรถกระบะคันหนึ่งก็วิ่งเข้ามารับเสี่ยปรีดา พาไปส่งยังจุดลงเรือที่ชายป่าเพื่อที่จะเลาะลำน้ำสาละวินไปยังประเทศพม่า จากนั้นจะเดินทางต่อไปยังประเทศเวียดนาม
อันที่จริงมีสายรายงานมาแล้วเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้า ว่าศัตรูคนสำคัญกำลังจะส่งคนมาถล่มบ้าน
เรื่องนี้เสี่ยปรีดารู้ ทว่ายังไม่ทันตั้งรับ มันก็ลงมือจู่โจมก่อนเสียก่อน จัดหนักชนิดที่ว่าแทบไม่มีโอกาสตั้งตัวกันเลยทีเดียว วันนี้ขอแค่เอาชีวิตรอดไว้ก่อน ตั้งหลักได้เมื่อไรเสี่ยปรีดาจะต้องกลับมาสะสางบัญชีแค้นอย่างแน่นอน
เสี่ยปรีดาตั้งใจว่าตอนแรกจะพามินตราลูกสาวคนเดียวเดินทางไปด้วย ทว่ายังไม่ทันเตรียมการ คู่อริก็ขนเอาอาวุธหนักมาถล่มบ้านยับเยินอย่างที่เห็น
แม้ว่าจะมีพวกพ้องมากมายอยู่ที่เวียดนาม แต่เสี่ยปรีดารู้ว่าสถานที่แห่งนั้นไม่เหมาะกับลูกสาวของตนซึ่งเป็นผู้หญิง
การทิ้งลูกเอาไว้กับบอดี้การ์หัวใจเพชรที่คิดว่าไว้ใจได้... จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในนาทีนี้
ถึงเวลาต้องจาก รถของเสี่ยปรีดาแล่นออกมาจากบ้าน
“คุณหนู... ไปกับผมนะครับ”
มินตราไอค่อกแค่ก หล่อนฟื้นขึ้นมาชั่วขณะ ไททันอุ้มร่างของหล่อนเข้ามาในรถกระบะ
“ไท... คุณพ่อล่ะ”
มินตราห่วงบิดา
“ไม่ต้องห่วง... นายปลอดภัยครับ”
ไททันขับรถตามรถของเสี่ยปรีดาออกมาถึงทางสายหลัก จากนั้นก็แยกไปยังเส้นทางเชียงใหม่ ขณะรถกระบะคันที่วิ่งเข้ามารับผู้เป็นนายขับแยกออกไปตามเส้นทางมุ่งสู่ประเทศพม่า
ทุกคนพากันหนีออกมาจากเสียงระเบิดและกลุ่มควันขโมง ทิ้งคฤหาสน์หลังใหญ่ที่กำลังโดนไฟเผาและเสียงไซเลนเอาไว้เบื้องหลัง หนีออกไปตั้งหลักเอาชีวิตรอด