เขาจะมาทำดีทำไม
หานห้าวตงประสานมือรอรับคำสั่งอยู่ด้านหน้า
“ต้าหวัง ท่านอ๋องเก้า เข้าเฝ้าฝ่าบาทเรื่องชายาเอกของต้าหวัง”
“ข้ารู้แล้ว เพียงแต่ไม่อยากใส่ใจน้องเก้าแต่เดิมก็ไม่ถูกจริตกับข้าอยู่แล้วเรื่องบางเรื่องแม้จะดีเพียงใดเขาก็ไม่เคยเห็นด้วย”
“ฝ่าบาทกับต้าหวัง ถูกเลี้ยงมาโดยไทเฮาสนิทชิดเชื้อกันกว่าผู้ใดไม่แปลกที่พวกเขาย่อมรู้สึกว่าฝ่าบาทเอนเอียงมาทางต้าหวัง”
“ข้ากับฝ่าบาท มองตารู้ใจ เรื่องที่เขาหวังดีกับข้า ข้าเข้าใจดี แต่เรื่องชายาเอกกับชายารอง ข้าก็อยากจะให้เจ้าเก้าทูลยับยั้งสำเร็จจะดีไม่น้อย”
“ต้าหวัง ท่านต้องเผชิญความยากลำบากมาช่วงเวลานี้ ทุกคนรอบกายล้วนหวังดีอยากให้ ต้าหวังมีความสุข”เจิ้งจินเทายิ้ม
เรือนพักรับรองของจวนอ๋อง ที่พำนักชั่วคราวของ ใต้เท้าต้วนและต้วนหลินฮวา
“ฮองเฮาเชิญคุณหนูที่ตำหนักชิงหนิงกง”นางกำนัล ย่อตัวด้วยท่าทีนอบน้อม ต้วนเจี้ยนหลินมองสบตาลูกสาว ตบที่หลังมือเบาๆ
ตำหนักชิงหนิงกง
“ต้วนหลินฮวาถวายพระพรฮองเฮา”อิงเผยฮองเฮา มองหลินฮวาด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม
“ลุกขึ้น เงยหน้าให้ข้ามองเจ้าชัดๆ ” หลินฮวาเงยหน้าขึ้นช้าๆ
“ข้าคิดไว้ไม่ผิด หญิงทางเหนือไม่ว่าจะเป็นหน้าตาผิวพรรณล้วนงดงามสดใส อีกไม่นานจะแต่งเข้าจวนอ๋องระหว่างนี้ข้าจะช่วยฝึกปรือเรื่องต่างๆ ที่เจ้าต้องทำเมื่อรั้งตำแหน่งชายารอง”หลินฮวาตกตะลึงจนพูดไม่ออก
“แต่งเข้าจวนอ๋อง”
“ฝ่าบาท เห็นสมควรให้เจ้ารั้งตำแหน่งชายารองของท่านอ๋องแปดหรือต้าหวัง เช่นนั้นข้าจึงตามตัวเจ้า”
ฮองเฮาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน หลินฮวาแม้จะอยากแสดงกิริยาดุเดือดเพียงใดก็ไม่กล้า
“เจ้า งดงามทั้งรูปร่างและหน้าตา ข้าหวังอย่างยิ่งว่าเจ้าจะเข้าใจความจริงใจของฝ่าบาท หลินฮวาพ่อเจ้าหากกลับไปที่แคว้นฉี มิพ้นต้องถูกประหารโทษฐานนำทัพพ่ายแพ้ เจ้าคงเข้าใจว่าที่ฝ่าบาททำไปทั้งหมดเพราะ เสียดายคนดีดีอย่างพ่อของเจ้า”
หลินฮวาก้มหน้ายอมจำนน จริงอย่างฮองเฮาพูดแม้บิดาจะยอมตายด้วยความเป็นลูกเช่นไรจึงจะยอมให้คนเป็นพ่อต้องเผชิญความตายได้ง่ายดายเพียงนั้น
นางกำนัลผายมือเชิญหลินฮวาก้าวขาออกจากตำหนักชิงหนิงกง ตอนที่เข้ามา แบกบางอย่างไว้หนักอึ้งตอนกลับออกมายิ่ง เหมือนกับถูกบางอย่างกดทับจนแทบหายใจไม่ออก
“หลินฮวา หลินฮวา ชื่อเพราะดี เหลือเกิน”
เจิ้งลี่กัง ยืนขว้างหน้าไว้ไม่ให้หลินฮวาก้าวขาต่อไปได้
“ท่านเป็นใครมาขวางข้าทำไมกัน”นางกำนัลย่อตัวลงช้าๆ
“ถวายพระพรไท่จือ”
หลินฮวาย่อตัวลงบ้าง เจิ้งลี่กังยิ้มกว้างเปิดเผยจริงใจ
“ไม่ต้องคิดมากน่าอาเล็กของข้าแม้จะมีสีหน้าบึ้งตึงไปบ้างแต่ ใจดีที่สุด”
“ใครถามกัน ยังไม่เคยมีใครเอ่ยปากถาม”
เอามือไพล่หลังเดินวนรอบๆตัวหลินฮวา
“ใบหน้างดงามวาจาเก่งกาจ อาเล็กของข้าปราบพยศม้าป่ามานักต่อนัก แต่เกรงว่ามาพบเจ้าคงต้องโบกมือลาเป็นแน่”พูดไปยิ้มไป
“ข้ากำลังคิดว่า ไท่จือแคว้นเว่ยกับต้าหวังแคว้นเว่ยใช่สายเลือดเดียวกันหรือไม่”
“นี่เจ้า”
หลินฮวาเชิดหน้ายิ้มยียวน แต่ไหนแต่ไรเรื่องต่อปากต่อคำหลินฮวาไม่เคยยอมใครก็ถูกเลี้ยงมาแบบนักรบ โดยท่านแม่ทัพที่เป็นพ่อเพียงคนเดียว ไท่จือหนุ่มน้อยชี้หน้าหลินฮวา
“ฝากไว้ก่อน คอยดูถ้าเจ้าแต่งเข้าจวนอ๋องเมื่อไหร่ ข้าจะบอกอาเล็กสั่งสอนเจ้าเสียให้เข็ด”
“ก็แล้วแต่ไท่จือ”
อารมณ์ดีมาเล็กน้อยหลังจากที่ได้ระบายนับว่าไท่จือก็ทำตัวมีประโยชน์อย่างน้อยพบเขาหลินฮวาก็ลืมเรื่องทุกข์ตรม และบางอย่างที่หนักอึ้งที่กดทับอยู่เหมือนได้ระบายความอัดอั้น
เรือนรับรอง
“หลินฮวา เจ้ารู้เรื่องแล้วใช่ไหม”ต้วนเจี้ยนหลินเอ่ยปากถาม
“ค่ะท่านพ่อ”
ต้วนเจี้ยนหลินยิ้มบางๆ ลูบหัวลูกสาวอย่างรักใคร่ ฮ่องเต้แคว้นฉีเอ่ยปากก่อนจะออกรบ ว่าด้วยเรื่องที่เขานำทัพมารบที่กับแคว้นเว่ย หากสิ้นสุดสงครามเมื่อไหร่ ฉีก้านฮ่องเต้ขอให้หลินฮวาถวายตัว และพร้อมจะแต่งตั้งหลินฮวาเป็นสนมเอก แม้เขาจะอ้างว่าหลินฮวายังเด็กนักแต่ฉีก้านกลับหัวเราะด้วยความขบขัน
“บุตรีของท่าน งดงามดั่งดอกไม้แรกแย้มท่านยังบอกว่านางยังเด็กนัก ข้าเข้าใจดี บิดามักจะเห็นว่าลูกสาวมักเป็นเด็กอยู่เสมอ”
ตอนนั้นเองที่ต้วนเจี้ยนหลินได้แต่ก้มหน้านิ่งไม่อาจปฏิเสธ บัญชาของฮ่องเต้แต่ไม่เคยปริปากบอกหลินฮวาเรื่องนี้เลย
“พ่อรู้ดีว่าหลินฮวาของพ่อยังเด็กนัก แต่เรื่องแบบนี้ ไม่มีใครหนีพ้นอยู่ที่ใครจะจัดการกับมันได้ดีกว่ากัน เจ้าเป็นชายารองเป็นรองเพียงสอง แต่จงจำไว้เจ้าไม่จำเป็นต้องทน ในสิ่งที่คิดว่าไม่อยากทน พ่อพร้อมที่จะพาเจ้าหนีหากเจ้าเอ่ยมาเพียงคำเดียว”
หลินฮวายิ้มกว้าง มือเล็กๆกอดรอบเอวบิดาแน่นซบหน้าลงบนอกกว้าง สูดลมหายใจเข้าลึกๆ กลัวหยาดน้ำตารินไหลให้บิดาเห็น
“ท่านอ๋องให้เชิญคุณหนูร่วมโต๊ะเสวยเย็นนี้”
เสียงขันทีข้างกาย ของเจิ้งจินเทา ตะโกนเข้ามาข้างใน
“บอกท่านอ๋องนาง กำลังจะไป”