บท
ตั้งค่า

นำกลับมาด้วย

“ต้วนเจี้ยนหลินคารวะท่านอ๋องแปด”ฉุดมือหลินฮวาให้คุกเข่า หลินฮวามีท่าทีฮึดฮัด แม่ทัพต้วนส่งสายตาดุดุ จินเทาอ๋องเหลือบตามองหลินฮวาที่ไม่หลบตาเขามองเขาตาแป๋ว

“ท่านแม่ทัพไม่ต้องเกรงใจ ในเมื่อมาที่นี่แล้วก็เหมือนเป็นแขกคนหนึ่ง”ผายมือให้นั่งบนเก้าอี้ข้างๆเขา

“ท่านอ๋องเกรงใจไปแล้ว ข้าเป็นเชลยหากฝ่าบาทแคว้นฉีรู้ว่าอยู่ดีกินดีเช่นแขกเมืองเช่นนี้ กลับไปแคว้นฉี คง..ไม่พ้นหัวหลุดจากบ่า อีกทั้งอาจถูกกล่าวหาว่าเป็นไส้ศึก” เจิ้งจินเทายิ้ม

“ข้าไม่ได้ปฏิบัติต่อท่านเพียงผู้เดียวเหล่าทหารที่เหลือของแคว้นฉีก็ถูกปล่อย ออกจากการคุมขัง ใครมีลูกเมียพ่อแม่จะกลับแคว้นฉีก็ไม่ขัดแต่หากใครจะอยู่ที่แคว้นเว่ยตั้งรกรากหรือเริ่มต้นชีวิตใหม่ ฝ่าบาทก็ทรงมอบเงินทุนให้ไม่น้อย”

“เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างที่สุด”

ต้วนเจี้ยนหลินคิดไม่ถึงว่าฮ่องเต้ของแคว้นเว่ยจะทรงคุณธรรมถึงเพียงนี้

“ท่านแม่ทัพ...และบุตรีก็พักผ่อนเสียให้สบายใจ หากจะกลับข้าก็คงไม่อาจรั้ง แต่กลับไปท่านแม่ทัพเองก็รู้ถึงโทษทัณฑ์ที่จะได้รับและหากจะรั้งอยู่ที่นี่ ข้าจะกราบทูลฝ่าบาท ให้รับท่านเข้าช่วยงานในราชสำนัก และกองทัพของแคว้นเว่ย”

“ข้า ต้วนเจี้ยหลินถือกำเนิดที่แคว้นฉี ตายก็ขอตายที่แคว้นฉีนำทัพแพ้พ่าย ย่อมได้รับโทษทัณฑ์เป็นเรื่องที่สมควรยิ่งแล้ว”

ยืดอกด้วยความทะนงตน จินเทาอ๋องส่ายหน้าไปมา รู้สึกเสียดายคนแบบนี้อย่างที่สุด

เจิ้งจินเทาถอนหายใจยาวเหยียด

“ท่านพ่อเขาทำดีกับเราเพื่อสิ่งใดกัน”

แม้จะอ่อนเยาว์แต่ก็พอจะรู้ชั่วดี

“เรากับเขามิได้มีเรื่องแค้นเคืองใดกันเป็นการส่วนตัว คนบางคนเขาดีกับเราเพราะเขาเป็นคนดีอยู่แล้ว คนบางคนเขาทำชั่วกับเราเพียงเพราะเขา เป็นคนชั่วเช่นกัน”

“แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาจริงใจกับเราหรือไม่”

“หลินฮวาอ๋องแปดผู้นี้จากที่พ่อได้ยินมาเขามีน้ำใจไม่น้อยไม่เช่นนั้นพ่อคง ไม่ขอให้เขาปลิดชีพเพื่อแลกกับราษฎรและชีวิตของเหล่าทหารทั้งหมด แต่เขาเลือกที่จะพาเรากลับมาที่นี่เพื่อต่อชีวิตเราหากพ่อกลับแคว้นฉีก็เท่ากับวางคอบนแท่นประหารไปแล้ว”

“ลูก ยังไม่เชื่อใจเขาอยู่ดี”

“หลินฮวา หากเรามองใครแค่เพียงผิวเผิน จึงไม่อาจเข้าใจถึงเบื้องลึกของเขาได้ หากลูกจะตัดสินใครสักคนต้องรู้จักเขาอย่างถ่องแท้”

“ลูกจะจำคำท่านพ่อไว้”

ตำหนักใหญ่

“ฝ่าบาทโปรดไตร่ตรอง”เจิ้งจินเทา ประสานมือคุกเข่าตรงหน้า

“ไตร่ตรอง ข้าไตร่ตรองดีแล้ว จินเทาปีนี้อายุเจ้าก็ยี่สิบขวบปีแล้ว จะแต่งชายาหรือก็ไม่ ให้หาเองก็ไม่ ข้าหาให้เจ้าก็อิดออด ส่งคุณหนูบ้านไหนไปเจ้าก็ไล่พวกนางกลับตระกูลจนสิ้น มาวันนี้รบทัพจับศึกมานาน เหนื่อยหนักแรมปี ข้ามอบรางวัล เป็นชายาเอกกับชายารอง ยังขอให้ข้าไตร่ตรอง น้องเล็กเยี่ยงเจ้าเอาใจยากเสียจริง”

“เสด็จพ่อท่านอา คงยังไม่เคยมีหญิงใดใกล้ชิด จึงเขินอายเป็นธรรมดา”

“ไท่จือเจ้าก็อย่ากระเซ้าอาเล็กของเจ้าเสียจนเกินไป ใครกันจะเหมือนไท่จือที่วันๆ เที่ยวเล่นสนุกสนานหากไท่จือหมั่นฝึกฝนร่ำเรียนกับอาเล็กป่านนี้ พ่อคงไม่ต้องหนักใจเช่นวันนี้เป็นแน่”เจิ้งลี่กังยิ้ม

“เสด็จพ่อท่านอาไม่รับข้ารับเอง เสียงร่ำลือว่าบุตรีแม่ทัพทางเหนืองดงามเกินใคร ข้ากำลังจะหาโอกาส ทำความรู้จักนาง”

“ไท่จือออ.นั่นอาหญิงของเจ้าเชียว อย่าได้ทำกิริยาไม่ดีกับนางต่อไปนางจะเข้ามาเป็นครอบครัวเดียวกับเรา”

ฮองเฮาเตือนไท่จือที่เอาแต่สนุกไปวันๆ

“ข้าพูดเล่น ท่านอาเล็กท่านยอมเสด็จพ่อเสียเถิด เรื่องแบบนี้ให้ท่านจัดการเองชาตินี้ก็คงไม่สำเร็จ แต่หากให้เสด็จพ่อจัดการให้ อีกไม่นานคงได้อุ้มอ๋องน้อยกันถ้วนหน้า”

ด้วยนิสัยสนุกสนานของเจิ้งลี่กัง จึงมักสร้างรอยยิ้มเสมอ อายุอานามของเขาก็ไม่ได้ห่างกับ อาเล็กกี่มากน้อยจึงเปรียบดังสหายกันมากกว่าผิดกันแต่อีกคนพูดมากอีกคนกลับ พูดเมื่อจำเป็นเท่านั้น

“เอาเป็นว่าข้าไตร่ตรองแล้ว ชายาเอกก็ต้องแต่งชายารองยิ่งต้องแต่ง เป็นเจ้าต้องไตร่ตรองให้ดีเช่นกันเจิ้งจินเทา” เจิ้งจินเทาถอนหายใจ

ชายาเอก หรือชายารองเขาจะจัดการกับพวกนางอย่างไรกันคุณหนูตระกูลปิง เคยเห็นนางเพียงครั้งเดียว เป็นหญิงงามหนึ่งในใต้หล้าที่คนร่ำลือ แม้แต่องค์รัชทายาทลี่กังยังแวะเวียนไปที่ตระกูลปิงบ่อยครั้ง ส่วนชายารองที่อายุห่างกันหลายปีนั้นเล่าเขานึกถึงสายตาขึ้งโกรธของนางแล้วยังจะอายุที่ห่างกันมากมายนางจะเป็นชายาที่ดีได้หรือ อีกทั้งเขาจะมีความอดทนต่อกิริยาของนางได้นานแค่ไหน แล้วยังคำครหาเรื่องพ่อของนางอีก แล้วด้วยท่าทียโสของนาง นางจะยินยอมเป็นชายารองเขาอย่างนั้นหรือ

“รัชศก เฉิงลี่ที่12เดือน สือเยว่ (ตุลาคม) หาวันมงคลเตรียมชายาเอกและชายารองของจินเทาต้าหวัง”

ขันทีข้างกายจดบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร คนทั้งหมดในที่นั้นรวมทั้งเหล่าขุนนางต่างประสานมือคารวะพร้อมเพรียงกัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel