ตอนที่ 3 จุดแต้มพรหมจรรย์ที่หายไป
เมื่อแต่งกายเสร็จเรียบร้อยแล้วนางจึงขอความช่วยเหลือ ให้พวกเขาจัดหารถม้าไปส่งนาง
'อา แล้วจะให้เขาไปส่งแกที่ไหนละเนตรดาว ถ้าไปส่งที่จวนแม่ทัพ เขาก็รู้หมดสิว่าแกเป็นใคร เอายังไงดีวะ ช่างมันเถอะถ้างั้นก็ให้ออกไปจากที่นี่ให้มันได้ก่อน แล้วค่อยหาทางกลับจวนแม่ทัพก็แล้วกัน'
เนตรดาวได้แต่บ่นกับตัวเองในใจ เมื่อคิดได้เช่นนั้น เธอจึงรีบขึ้นรถม้าแต่ก่อนที่จะขึ้นรถม้า เธอก็ไม่วายเหลือบตาขึ้นไปมองอักษรที่อยู่ตรงประตู ซึ่งมันเขียนด้วยตัวอักษรภาษาจีนโบราณ " ตำหนักอ๋องเหวินซีห่าว"
"OMG คงไม่ใช่อย่างที่เนตรคิดใช่ไหมแม่ !! คนที่เนตรตกได้เมื่อคืนนี้คงไม่ใช่ท่านอ๋องเหวินซีห่าวใช่ไหม คงไม่ซวยขนาดนั้นมั่ง ขึ้นชื่อว่าตำหนักอ๋อง ต้องมีคนอยู่เยอะแหละคงไม่ใช่หรอก"
เนตรดาวได้แต่ตกตะลึงอ้าปากค้างและกล่าวอย่างปลอบใจตนเอง
เมื่อรถม้าออกมาจากตำหนักอ๋องเหวินซีห่าว และตรงไปยังหอโคมเขียวแห่งหนึ่งในถนนโลกีย์ ก่อนที่จะลงจากรถม้านางก็ไม่ลืมใช้ผ้าปิดบังใบหน้าของตัวเองเอาไว้ และก้าวลงมาจากรถม้า เมื่อรถม้าได้จากไปแล้ว เนตรดาวจึงทำเป็นเดินเข้าไปในตรอกซอกซอยแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่ลับตาคน
"เดี๋ยวนะขอคิดก่อนว่าจะไปทางไหนดี ไม่เคยมาแถวนี้ซะด้วยสิ จวนแม่ทัพตระกูลเยี่ยไปทางไหนล่ะทีนี้"
เมื่อคิดได้ดังนั้นเนตรดาวจึงเดินไปถามกับคนแถวนั้น ถึงสถานที่ตั้งของจวนแม่ทัพตระกูลเยี่ย
"ท่านป้าเจ้าขา ข้าขอรบกวนถามอะไรหน่อยได้หรือไม่เจ้าคะ ข้าอยากจะทราบว่าจวนท่านแม่ทัพตระกูลเยี่ยไปทางไหนหรือ ท่านป้าพอจะทราบหรือไม่ พอดีว่าข้ามาทำธุระที่เมืองนี้ เเละมีญาติเป็นบ่าวรับใช้อยู่ที่จวนแม่ทัพ เลยอยากจะเข้าไปเยี่ยมเยือนเขาสักหน่อยนะเจ้าค่ะ"
“อ๋อ แม่หนูน้อยเจ้ามาจากต่างถิ่นสินะ จากตรงนี้ไปอีกประมาณ ห้าลี้ก็จะถึงจวนท่านแม่ทัพใหญ่ตระกูลเยี่ยแล้ว สังเกตง่ายๆจะมีป้ายประจำตระกูลติดไว้ เมื่อเจ้าไปถึงละแวกนั้นก็จะสังเกตได้ไม่ยากหรอก"
“ขอบคุณท่านป้ามากเจ้าค่ะ"
เมื่อเนตรดาวกล่าวขอบคุณท่านป้าที่บอกทางกับเธอเสร็จแล้ว เธอก็เดินออกมาจากที่ตรงนั้นในทันที
"ไกลชิบหายเลยอ่ะ ตั้งสองโลครึ่งเลย อย่างเนี้ยจะเดินไหวไหมเนี่ย รองเท้าของคนโบราณก็ใส่แล้วไม่เห็นจะนุ่มเท้าเลยปวดเท้าไปหมดแล้ว ปวดเนื้อปวดตัวอีกต่างหากเหมือนจะมีไข้เลย ซวยซวยจริงๆ สวรรค์ ถ้าจะให้หลงยุคเข้ามาอยู่ในร่างของคนจีนโบราณแบบนี้ทำไมไม่เลือกเอาที่มันดีๆ เอาที่แบบเป็นคุณหนูพ่อแม่รักพ่อแม่หลง มีเงินมีทองใช้ เก่งรอบด้าน ความสามารถเยอะแยะมากมายอย่างในนิยายที่เคยอ่านมา แต่นี่อะไร ความรู้อะไรก็ไม่มีสักอย่างความสามารถก็ไม่มี แล้วอย่างนี้เนตรดาวจะมีชีวิตรอดในโลกจีนโบราณแบบนี้ได้ยังไงคะ"
เนตรดาวได้แต่บ่นกับตัวเองโดยโทษดินฟ้าอากาศ ที่ไม่มอบความสามารถพิเศษใดๆ ให้กับเธอเลย
เมื่อเดินทางมาได้สักพัก เธอก็มาถึงจวนแม่ทัพตระกูลเยี่ย เมื่อเธอก้าวเข้าไปในจวน บรรดาบ่าวไพร่และทาสรับใช้ต่างก็ทำหน้าตกตะลึงอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
“คุณหนู! คุณหนูใหญ่กลับมาแล้ว พวกเจ้ารีบไปแจ้งให้ฮูหยินรองทราบเร็วเข้าว่าคุณหนูใหญ่กลับมาแล้ว”
" เจ้าว่ายังไงนะ นังผู้หญิงสารเลวนั่นมันกลับมาแล้วเช่นนั้นหรือ มันกลับมาได้ยังไง"
" ข้าเห็นคุณหนูใหญ่เดินกลับมาเองคนเดียวขอรับ"
" เช่นนั้นหรือ ท่านแม่รีบไปดูเถอะเจ้าค่ะ"
เมื่อเห็นว่าเหมยฮวาปลอดภัยดีและยังมีลมหายใจอยู่ ก็ทำให้เป็นที่ขุ่นเคืองใจให้กับคุณหนูรองเยี่ยไป๋หลันเป็นที่ยิ่ง นางถึงขนาดวางแผน วางยาพิษนังสารเลวนั่น และทำทีว่ามันแอบออกนอกจวนไปมีความสัมพันธ์กับบุรุษจนขาดใจตาย ทำให้เป็นที่เสื่อมเสียของวงศ์ตระกูล ถือเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว แต่แล้วนังสารเลวนั่นมันก็หายตัวไป ไม่ว่าจะหาตัวมันเท่าไหร่ก็หาไม่พบ นางคิดว่านังเหมยฮวาคงโดนยาพิษและสิ้นใจตายไปแล้วที่ใดสักแห่งหนึ่ง
“พี่หญิงใหญ่นี่ท่านหายตัวไปที่ใดมาทั้งคืน ท่านรู้หรือไม่ว่าท่านแม่ให้คนออกตามหาท่านไปทั่ว"
"งั้นหรือ"
เนตรดาวในร่างของคุณหนูเหมยฮวาตอบกลับไปอย่างไม่ใส่ใจ
"ทำให้ฮูหยินรองต้องเป็นห่วงแล้ว"
“ไป๋หลันถามเจ้าทำไมเจ้าไม่ตอบ"
ฮูหยินรองมองหน้าเหมยฮวาด้วยความโกรธเคือง ทำไมมันถึงได้ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเช่นนั้น แล้วสายตาของมันเวลาที่จ้องมองมาที่ตนนั้น ทำไมมันถึงไม่มีความหวาดกลัวเหมือนดังเช่นเเต่ก่อน
เเละก่อนที่เหมยฮวา จะได้ตอบอะไรออกไปนั้น เยี่ยไป๋หลันก็รีบชิงพูดบางอย่างขึ้นมาก่อน
“ท่านแม่ดูที่คอของนางสิเจ้าคะมีรอยกุหลาบเต็มไปหมด หรือว่าเมื่อคืนนี้ที่นางหายตัวไปนั้น นางแอบไปมีสัมพันธ์กับบุรุษมากันแน่เจ้าค่ะ"
เมื่อได้ยินเช่นนั้นฮูหยินรองก็รีบจ้องไปที่คอของเหมยฮวาทันที เป็นอย่างที่เยี่ยไป๋หลันพูดมามิมีผิด เมื่อเห็นเช่นนั้นฮูหยินรองก็ทำทีเป็นระเบิดอารมณ์ใส่เหมยฮวาทันที
"นี่ เจ้าเด็กอกตัญญู เมื่อคืนนี้ที่เจ้าหายตัวไป เจ้าแอบไปมีสัมพันธ์กับบุรุษมาใช่หรือไม่ เจ้าบอกกับข้ามาซะดีๆ นังผู้หญิงแพศยาเช่นเจ้าทำลายชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลเยี่ยให้แปดเปื้อน ช่างน่าอายยิ่งนัก"
ฮูหยินรอง สั่งให้บ่าวไพร่ไปจับตัวเหมยฮวาเอาไว้ทันที
"ท่านแม่ดูสิเจ้าค่ะที่แขนของนางไม่มีจุดพรหมจรรย์อีกแล้ว แสดงว่าเมื่อคืนนี้นางได้ไปทำเรื่องที่เสื่อมเสียชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลมาจริงๆ เจ้าค่ะ"
‘เฮ้อ นี่มันจะน้ำเน่าเกินไปไหมคะแม่ อะไรมันจะมาโดนจับได้ง่ายดายขนาดนี้ แล้วไอ้รอยกุหลาบเนี้ยปกติเวลาคนเขาซัมติงกันเนี่ย มันไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ไม่ใช่เหรอค่ะ ไอ้เจ้าปีศาจราคะนั่นหาแต่เรื่องให้เนตรซะจริงๆ เลย ไม่น่าหลงในความหล่อของมันเลย จบแล้วชีวิตเนตรดาวโดนจับได้จนได้' เนตรดาวคิดในใจ
"ถ้าฮูหยินรองคิดว่า การที่ไม่มีจุดแต้มพรหมจรรย์อยู่ที่แขนแล้วจะกลายเป็นสตรีที่ชั่วช้าสามานย์ หญิงแพศยาแล้วละก็ ถ้างั้นน้องรองก็คงจะไม่ต่างกันจากข้าสะกระมัง”
พูดแล้วเธอก็เดินไปจับที่แขนเสื้อของคุณหนูรองเยี่ยไป๋หลันทันที และก็พบว่านางก็ไม่มีจุดแต้มพรหมจรรย์ที่แขนเช่นกัน
ทำไมนางถึงรู้นะหรอ ก็เพราะว่าความทรงจำของร่างนี้ ในตอนกลางคืนนางมักจะเห็นว่าคุณหนูรองเยี่ยไป๋หลันแอบออกนอกจวนทางประตูหลัง นอกจากจะมีรถม้าจากตำหนักองค์ชายเก้ามารับนาง และกลับมาส่งนางในยามอิ๋น (03.00-04.59) เป็นประจำนั่นเอง พวกเขาคงไม่ได้ลอบออกไปพบกันเพื่อจับมือกันเพียงอย่างเดียวกระมัง..
ถ้าหากว่านางจะต้องตกลงเหวแล้วละก็ นางก็จะขอดึงนางคุณหนูรองเยี่ยไป๋หลันตกลงไปด้วย นางก็อยากจะรู้เหมือนกัน ถ้าฮูหยินรองทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้วฮูหยินรองจะทำเช่นไร….