ตอนที่ 2 ข้าหมดแรงแล้วจริงๆ
เมื่อเนตรดาวตื่นขึ้นมาในตอนสายของวัน ก็ให้รู้สึกปวดเนื้อปวดตัวยิ่งนัก
“อ่ะ ทำไมมันถึงได้เจ็บไปหมดทั้งตัวอย่างนี้ล่ะ"
ยังไม่ทันที่เธอจะได้คิดอะไร
“ปวดหัวเหมือนหัวจะระเบิดอยู่แล้ว"
พูดไปน้ำตาก็ไหลออกเป็นสาย ทันใดนั้น ความทรงจำสายหนึ่ง ก็วิ่งเข้ามาในหัวเธอจนหัวเธอแทบจะระเบิด
‘ซวยแล้วแม่ นี่เนตรไม่ได้ฝันทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันคือความจริงคะแม่ เนตรมีหลัวแล้ว!!'
เนตรดาวได้แต่บ่นกับตัวเองคนเดียวเหมือนคนเสียสติ
เจ้าของร่างที่เธอเข้ามาอาศัยอยู่คือบุตรีของท่านแม่ทัพใหญ่เยี่ยอู๋ซวน แห่งแคว้นเว่ย เจ้าของร่างนี้เดิมทีมีชื่อว่าเยี่ยเหมยฮวา เป็นบุตรีที่เกิดจากฮูหยินเอกที่ได้ล่วงลับไปแล้ว หลังจากที่มารดาให้กำเนิดเหมยฮวาก็ได้สิ้นใจตั้งแต่ให้กำเนิดนาง เนื่องจากเสียเลือดมาก นางจึงได้รับการเลี้ยงดูจากแม่นมที่เป็นบ่าวรับใช้คนสนิทของมารดา หลังจากที่มารดาเสียชีวิตได้เพียงหนึ่งปีท่านแม่ทัพอู๋ซวนก็แต่งฮูหยินรองเข้าจวน แต่ท่านแม่ทัพก็ยังดูคงแลเธอเป็นอย่างดีเสมอมา จนกระทั่งฮูหยินรองให้กำเนิดบุตรชายคนแรกของตระกูล นั่นคือจุดเปลี่ยนของชีวิตคุณหนูใหญ่เหมยฮวาผู้นี้ ฮูหยินรองได้รับความโปรดปรานจากท่านแม่ทัพใหญ่อู๋ซวนเป็นอย่างมาก และหลังจากให้กำเนิดบุตรชายคนแรกของตระกูลหนึ่งเพียงหนึ่งปี ฮูหยินรองก็ให้กำเนิดบุตรสาวคนที่สองต่อจากนั้น แต่ท่านแม่ทัพ ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะมอบตำแหน่งฮูหยินเอกให้กับนางแต่อย่างใด นั่นจึงเป็นการสร้างความเกลียดชังให้กับฮูหยินรองเป็นอย่างมาก เธอเชื่อว่าที่ท่านแม่ทัพใหญ่ไม่ยอมมอบตำแหน่งให้กับนางนั้นเป็นเพราะว่าในใจยังคิดถึงภรรยาเอกที่เป็นมารดาผู้ให้กำเนิดเหมยฮวาอยู่ จึงทำให้ความเกลียดชังทั้งหมด ตกมาอยู่ที่ตัวเหมยฮวา ดังนั้นชีวิตภายในจวนของเธอ จึงถือว่ายากลำบากพอควร เหมยฮวามักจะถูกฮูหยินรองกลั่นแกล้งเป็นประจำ แต่เธอก็ไม่ได้นำความนี้ไปแจ้งแก่ผู้เป็นบิดาให้ทราบ เนื่องจากว่าไม่ต้องการสร้างความลำบากใจให้กับผู้เป็นบิดาของเธอ มีครั้งหนึ่งที่เธอเคยนำความนี้ไปแจ้งแก่ผู้เป็นบิดาให้ทราบหลังจากนั้นฮูหยินรอง ก็ได้ใส่ร้ายว่าเธอต้องการสร้างเรื่องเพื่อใส่ร้ายนาง ทำให้ท่านแม่ทัพไม่พอใจลงโทษเหมยฮวา โทษฐานที่ใส่ร้ายฮูหยินรองและหลังจากนั้นเธอก็มักจะถูกกลั่นแกล้งจากฮูหยินรองหนักขึ้น และผู้เป็นบิดาก็มักจะเชื่อคำพูดโกหกและยุแยงของฮูหยินรองมากกว่า เธอจึงทำเป็นลืมเรื่องนี้ไปเสียเวลาที่ถูกกลั่นแกล้งทุกครั้งไป เพราะผู้เป็นบิดาจะไม่เคยเชื่อคำพูดของเธอเลย และส่วนมากผู้เป็นบิดาก็ไม่ได้อาศัยอยู่ที่ในจวน จะใช้เวลาส่วนใหญ่ออกไปรบอยู่ที่ชายแดนเสียมากกว่า ทำให้หน้าที่และการดูแลจวนส่วนใหญ่จึงตกเป็นของฮูหยินรองไปโดยปริยาย
แต่สิ่งที่เนตรดาวกำลังสงสัยในตอนนี้ก็คือทำไมนางถึงมาอยู่ที่นี่ ความทรงจำมากมายของเหมยฮวากำลังพรั่งพรูเข้ามาในหัวของเนตรดาวทำให้เธอรู้สึกมึนงงสับสนเป็นอย่างมาก แล้วเหตุใดคุณหนูในห้องหออย่างคุณหนูเหมยฮวาถึงได้มาอาศัยอยู่กับบุรุษเพียงลำพังสองต่อสองในค่ำคืนที่ผ่านมานี้ แล้วตอนแรกที่เธอลืมตาขึ้นมา ทำไมถึงจำอะไรไม่ได้เล่า
‘โธ่ ก็นึกว่าฝันเนตรก็จัดสะทุกท่าทุกลีลาที่เรียนมาเลยอ่ะแม่! เนตรจัดเต็มทั้งหมดเลย อร๊าย จะมีหลัวทั้งที ก็มาแบบดีดีไม่ได้เหรอ หรือว่าตอนไปไหว้พระขอพรที่วัดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านไม่ได้ฟังคำขอของหนูให้ดีใช่ไหมอ่ะ'
เนตรดาวได้แต่ร้องไห้คร่ำครวญในใจอย่างเจ็บปวด
“ไม่ได้ คนยุคจีนโบราณเขาถือเรื่องแบบนี้มาก ถ้าสตรีทำเรื่องเสื่อมเสียชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล เนตรจะไม่โดนจับถ่วงน้ำเหรอตายแล้วแกเนตรดาว ทำไงดีวะ ทำไงดี!! เดี๋ยวๆ แกต้องมีสติ ท่องไว้อย่างที่แม่เคยบอก สติมาปัญญาเกิด สติมาปัญญาเกิด ใช่แล้ว สติ สติ แม่เนตรควรทำไง"
เนตรดาวบ่นคนเดียวอย่างคนเสียสติ
“ใช่แล้วหนี แกต้องหนี เนตรดาว แกจะอยู่ให้เขามาจับถ่วงน้ำทำไม ก่อนอื่นแกต้องหนีออกจากที่นี่ให้ได้ก่อน แล้วค่อยหาทางกลับจวนท่านแม่ทัพอีกที ใช่ใช่"
เมื่อคิดได้เช่นนั้นเธอก็เตรียมตัวจะหนีทันที ก่อนจะไปเธอก็ไม่ลืมชำเลืองมองไปยังคนที่นอนอยู่ข้างๆ ก็ทำให้นึกไปถึงบทรักอันเผ็ดร้อนของเขา และเธอในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ถึงกับทำให้ใบหน้าของเธอเห่อร้อนด้วยความเขินอาย
‘แม้แต่ชื่อก็ยังไม่รู้เลย เฮ้อ คงจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว ลาก่อนนะเนตรจะไม่ลืมหลัวนะ" เนตรดาวใช้สายตาลึกซึ้งจ้องมองเขา ก่อนจะจากไป
เนตรดาวลุกขึ้นมาสวมอาภรณ์ที่กองอยู่ที่พื้น พลันสายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นหยกชิ้นหนึ่งวางอยู่กับอาภรณ์ของบุรุษผู้นั้น เธอจึงยกยิ้มมุมปากก่อนที่จะหยิบหยกนั้นติดตัวของเธอมาด้วย
“เก็บไว้เป็นที่ระลึกเผื่อคิดถึงกันแล้วกันนะ ลาก่อนปีศาจราคะของฉัน"
เธอพยายามก้าวเดินออกมาจากห้องอย่างยากลำบาก เพราะปวดไปทั้งเนื้อตัวและกลางกาย
‘ไม่รู้จักรักหยกถนอมบุปผางามเอาสะเลย ล่อสะเอวเนตรแทบพังอะแม่'
เนตรดาวกล่าวกับตนเองในใจ เมื่อเปิดประตูออกมาจากภายในห้อง ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นองครักษ์ยืนอยู่ที่หน้าประตูห้อง เธอรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติแทบจะในทันที เธอใช้ความทรงจำของเจ้าของร่างเพื่อกล่าวกับองครักษ์เฝ้าประตูทั้งสองคน ใช่แล้วเมื่อความทรงจำของเจ้าของร่างเข้ามาในหัวของเธอ เธอก็สามารถเข้าใจและจดจำเรื่องราวต่างๆที่เจ้าของร่างๆนี้ทราบเช่นกัน รวมถึงความสามารถในเรื่องของการสื่อสารที่เธอไม่เข้าใจในตอนแรกด้วย
“ข้าต้องการสาวใช้มาช่วยแต่งตัวให้ข้า ท่านช่วยพาข้าไปแต่งตัวที่ห้องอื่นได้หรือไม่ ข้ารู้สึกหมดเรี่ยวแรงแล้วจริงๆ เนื่องจากว่าข้าใช้แรงไปเยอะเมื่อคืน เลยไม่มีแม้กระทั่งเรี่ยวแรงที่จะสวมอาภรณ์ด้วยตนเอง รบกวนพี่ชายทั้งสองท่านได้หรือไม่"
หัวใจของเนตรดาวเต้นแรงอย่างกับกลองศึก เนื่องด้วยเกรงว่าองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูจะเห็นพิรุธ