5
Chapter 5
หญิงสาวเผลอกัดบ่ากว้างของเขา รู้สึกทั้งเจ็บทั้งเสียวซ่าน ความใหญ่โตกำลังทำให้กายสาวแทบแตกปริ
“ฮันนี่ ฉันอนุญาตให้เธอกัดได้ แต่อีกสามวัน เธอจะไม่ได้ออกจากห้องนี้” คนข่มขู่เสียงพร่าไม่จืดจาง
“ฝ่าบาท...”
หญิงสาวครางสะท้าน นึกถึงอนาคตที่ต้องเผชิญ แต่ความคิดทั้งหมดจบสิ้นลงเป็นเสียงกรีดร้อง แล้วกลายเป็นเสียงอู้อี้ เมื่อเรือนร่างแกร่งถอดถอนออกไปและกลับเข้ามาใหม่ในความอบอุ่นคับแน่นครั้งเดียวแทบสุดทาง
ร่างงามผวายะเยือก เรียวขาและแขนกลมกลึงตวัดรอบร่างแข็งแกร่งเพื่อกอดรัดแนบแน่นรัดรึง
ริมฝีปากหยักหนาจุมพิตร้อนรุ่มเพื่อปลอบประโลมร่างงามที่สั่นสะริกใต้ร่าง หยาดน้ำตาหลั่งรินไม่ขาดสาย
“ช่างคับแน่นจับจิต”
เสียงที่เปล่งออกมาแหบสะท้านไม่แพ้กัน อีซาค่อยๆ ใช้มือแกร่งช้อนสะโพกผายงอนงามขึ้นจากพื้นเตียงเพื่อยกร่างงามให้รอรับความองอาจที่เริ่มต้นการสำรวจเส้นทางในครั้งใหม่
หญิงสาวหยัดกายสะท้ายภายใต้ร่างแกร่งที่กระทั้นเข้าหา เสียงครวญครางกระเส่าแทบไม่หยุดหย่อน สวรรค์สวยงามเบื้องหน้าไม่เคยพานพบมาก่อน มาเยือนครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เขาหาจูงมือเธอไปด้วยกันไม่ ได้แต่ส่งร่างงามไปเยือนสรวงสวรรค์ติดๆ กันหลายครั้ง เพราะความแข็งแกร่งแห่งบุรุษเพศที่ไม่ลดระดับความร้อนรุ่มคุกรุ่นลงแม้แต่น้อย จนเรือนกายแกร่งหอบสะท้านเป็นจังหวะสุดท้าย จึงได้จูงมือเรียวสวยไปพร้อมกัน ก่อนนิทรารมย์จะมาเยือนคนทั้งสอง
โซฟียะห์มองพระราชสาส์นของสุลต่านอีซาด้วยความปลาบปลื้มใจ การิมเพื่อนสนิทสมัยครั้งยังเป็นสาว เดินทางโดยด่วนมาจากประเทศโอซาเนียด้วยตัวเอง เพื่อแจ้งข่าวเรื่องหลานสาวเพียงคนเดียวให้ทราบ
“เป็นโชคดีของฮันนี่ ฉันจะรีบไปเข้าเฝ้าสุลต่านอีซาโดยเร็ว”
โซฟียะห์บอกเพื่อนสนิทด้วยความยินดี
ไม่นานครอบครัวของมาเลย์น่ามาถึงประเทศโอซาเนียด้วยเครื่องบินส่วนพระองค์ของสุลต่านรอฮิมที่ส่งไปรับ เพียงแค่ไม่ถึงวันก็เดินทางมาถึงพระราชวังโอซานอันโอ่อ่าของประเทศโอซาเนีย
“คุณยาย คุณแม่”
มาเลย์น่าสวมกอดผู้เป็นยายกับมารดาด้วยความคิดถึง
หลังจากงานเฉลิมฉลองวันนั้น เธอยังไม่มีโอกาสได้ออกจากห้องของสุลต่านอีซาเลยตลอดสามวัน และเขาจัดการปฏิเสธสถานีโทรทัศน์ที่จะเรียกเธอไปสัมภาษณ์ทุกช่อง
“ฮันนี่หลานรักของยาย”
โซฟียะห์ลูบศีรษะหลานสาวด้วยความรักใคร่ นางมากับบุตรสาวเพียงแค่สองคนคือ โซเฟีย ส่วนสามีคือ อานนท์ แก้วโกมุทไม่ได้มาด้วย
“คุณยายขา...คุณแม่ขา.. ฮันนี่จะทำเช่นไรดีคะ”
ฮันนี่ถามผู้เป็นยายและแม่ด้วยความไม่แน่ใจ
โซเฟียปล่อยให้มารดาเป็นคนบอกบุตรสาวเอง นางมั่นใจว่ายังไงเสีย มาเลย์น่าไม่อาจปฏิเสธสุลต่านอีซาได้เลยแม้แต่น้อย
“ฮันนี่หลานรักของยาย ยังไงก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ยายเชื่อว่าหลานสาวของยายจะมีความสุข หลานจะต้องครองใจพระองค์ได้”
โซฟียะห์บอกด้วยน้ำเสียงมั่นคง
มาเลย์น่ายิ้มให้ผู้เป็นยายด้วยความสุข แค่นี้ทั้งสองก็รู้ได้ทันทีว่ามาเลย์น่าตกหลุมรักสุลต่านหนุ่มเข้าให้แล้ว
โซฟียะห์มั่นใจว่าหลานสาวจะต้องครองใจสุลต่านหนุ่มได้อย่างแน่นอน เพราะก่อนที่จะมาหาหลานสาว นางได้เข้าเฝ้ากับองค์สุลต่าน อีซาแล้วนั่นเอง
มาเลย์น่าเป็นหญิงสาวที่มีความสามารถ หลังจากที่การิมส่งสาส์นถึงนางเรื่องการคัดเลือกนางรำไปเต้นหน้าที่ประทับในงานวันคล้ายวันพระราชสมภพของสุลต่านรอฮิม มาเลย์น่าก็ไม่ทำให้นางต้องผิดหวัง ความสามารถที่โดดเด่นรวมถึงการฝึกฝนการเต้นและร้องเพลงมาตั้งแต่ครั้งยังเยาว์วัย รวมถึงบิดาที่เป็นบราซิลเลี่ยนมีสายเลือดนักเต้นแซมบ้าในตัว ทำให้มาเลย์น่ามีความสามารถโดดเด่นมากกว่าหญิงสาวคนอื่นที่เข้ารับการคัดเลือกตัว
มาเลย์น่ากอดรัดผู้เป็นยายกับแม่อีกครั้ง เธอรู้สึกใจหายไปเหมือนกัน ตั้งแต่เล็กจนโต ไม่เคยห่างอกมารดาเลยสักครั้ง ยอมรับว่าหลงรักสุลต่านอีซาตั้งแต่แรกเห็น เหตุผลที่ไม่ขัดขืน ยินยอมพระองค์เนื่องจากสาเหตุนี้ คิดว่าจะต้องเอาชนะใจพระองค์ให้ได้ แม้จะรู้สึกหนักใจเมื่อทราบว่าทรงมีหญิงสาวในฮาเร็มอีกมากมายเป็นร้อยเป็นพัน แต่เธออยากอยู่เคียงข้างพระองค์ ดูแลปรนนิบัติให้ทรงมีความสุขและคลายความเหนื่อยล้าจากราชกิจน้อยใหญ่
“แม่เชื่อเหมือนกับยายของลูก ฮันนี่จะต้องชนะใจองค์สุลต่านอีซาได้ในไม่ช้า แม่ขออวยพรให้ลูกมีความสุขกับชีวิตที่โซโมโรส”
โซเฟียกอดรัดบุตรสาวแนบแน่นด้วยความรักใคร่สุดแสน มาเลย์น่ากอดรัดมารดาด้วยความรักมากล้นในหัวใจ
มาเลย์น่ามองพระราชวังทอคาดารุสของประเทศโซโมโรสด้วยความตื่นตาตื่นใจ พระราชวังหลังใหญ่แทบทำให้เธอตัวเล็กนิดเดียว เกือบทั้งหลังล้วนทำด้วยทองคำสวยงามแปลกตา
หญิงสาวถูกพามายังตำหนักที่อยู่ภายในพระราชวังอันใหญ่โต เธอไม่เห็นสุลต่านอีซาอีกเลยหลังจากนั้น แต่เห็นหญิงสาวหน้าตารูปร่างบอบบางหลายคนมาดูแลเธอตามคำสั่งของเขา พร้อมกับพาเธอไปอาบน้ำเพื่อขัดสีฉวีวรรณทุกสัดส่วน
มาเลย์น่ารู้สึกอับอายเนื่องจากไม่เคยมีใครมาอาบน้ำให้เช่นนี้ ถึงจะเป็นผู้หญิงด้วยกันก็รู้สึกขัดเขิน แม้จะขัดขืนเพียงใดก็ตาม เธอตัวคนเดียวจึงไม่อาจสู้แรงของหญิงสาวหลายคนได้ สุดท้ายจึงต้องยอมแต่โดยดีไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
นางทาสในฮาเร็มของสุลต่านอีซาอาบน้ำขัดตัวให้มาเลย์น่าทุกซอกมุม แม้กระทั่งเส้นขนทุกเส้นบนร่างกาย หลังจากอาบน้ำเสร็จก็ชโลมด้วยน้ำมันที่ทำจากขี้ผึ้งให้อ่อนนุ่มเป็นเงาสัมผัส พร้อมทั้งประพรมน้ำหอมทุกจุดสำคัญของร่างกาย ก่อนพามาเลย์น่าไปเข้าเฝ้าองค์สุลต่านอีซา นางทาสพวกนั้นเสร็จหน้าที่จึงปลีกตัวออกไปตามคำสั่งของพระองค์
อีซามองเรือนร่างกลมกลึงสมส่วนด้วยสายตาเป็นประกาย ในใจของเขาคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ช่างสวยเย้ายวนเป็นที่สุด เสื้อผ้าชุดสวยที่เขาสั่งคนจัดเตรียมให้เธอสวมใส่ บางเบาโปร่งสบาย เสื้อตัวสวยกับกระโปรงยาวกรุยกรายบางจนแทบปิดอะไรไม่มิด ความร้อนรุ่มในเรือนกายปะทุขึ้นมาอีกครา แม้ขณะที่รอก็แทบหมดความอดทนตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้ว
เขายอมรับว่าเธอมีพลังดึงดูดทางเพศอย่างที่สุด ไม่เข้าใจว่าเหตุใดถึงได้ต้องการหญิงสาวแสนธรรมดาเป็นแค่นางรำเช่นนี้ ทั้งๆ ที่ในฮาเร็มของเขามีหญิงสาวมากมายล้วนแต่งดงามปรนนิบัติเอาใจได้ยอดเยี่ยม แต่เมื่อพบเจอกับมาเลย์น่า เธอกลับเป็นหญิงสาวที่พิเศษที่สุดในหัวใจของเขา เธอทำให้เขาอยากครอบครอง ถวิลหาทุกยาม รวมถึงเธอทำให้เขารู้สึกผูกพันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับหญิงสาวคนใดมาก่อน
มาเลย์น่าสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกความมั่นใจให้ตัวเอง ดวงตาคมเข้มสีนิลทำให้เธอสั่นสะท้านอีกครั้ง ร่างระหงเดินเข้าหาเขาช้าๆ รูปร่างงามเย้ายวนที่มองเห็นทำให้อีซาหายใจติดขัดมากขึ้น
“ฮันนี่ร้องเพลงให้ฟังหน่อยสิ”
มาเลย์น่าชะงักฝีเท้าเรียว ช้อนสายตาคมหวานมองใบหน้าของเขาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“เพคะฝ่าบาท”
เสียงหวานใสขานรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้มไม่คลาย ร่างกลมกลึงระหงเต้นพลิ้วสะบัดส่ายไปมา พร้อมกับเสียงเพลงหวานเป็นภาษามาเลย์ที่ผู้เป็นยายสอนตั้งแต่เด็ก เธอเคยเป็นแดนเซอร์ประจำวงดนตรีมาก่อน ดังนั้นท่วงท่าการเต้นจึงเข้ากับเนื้อเพลงได้เหมาะเจาะสวยงามทุกท่วงท่า
อีซามองร่างระหงด้วยความเสน่หา เปิดเปลือยความรู้สึกและความต้องการชัดเจนไม่ปิดบัง
ร่างงามเต้นส่ายด้วยลีลาเย้ายวน รูปร่างเพรียวแต่อวบอิ่มชวนให้ลิ้มลองทุกอณูเนื้อ
เขาอยากกระชากร่างงามตรงหน้ามาจุมพิตให้ขาดใจที่ยั่วเย้าให้หัวใจร้อนรุ่มได้ถึงเพียงนี้ อกอิ่มที่ห่อหุ้มด้วยชั้นในสีหวานเต่งตึงดุนดันแทบปริ มองเห็นร่องอวบอัดรำไรชวนให้คลั่งไคล้ไหลหลง