4
Chapter 4
ลำคอระหงถูกทิ้งร่องรอยเอาไว้ไม่ต่างจากกลีบปากสวยที่บวมช้ำ ความกระหายหิวแสดงถึงความต้องการที่ยากจะหยุดลงได้ เขาแย้มยิ้มทรงเสน่ห์อีกครั้ง เมื่อมองเห็นปทุมถันอวบอิ่มเบื้องหน้า
รอยยิ้มกระชากใจของเขาทำให้หญิงสาวอ่อนระทวยยินยอมหมดสิ้น ชิวหาหนาสากร้อนตวัดเลียยอดถันสีสดเพื่อเชยชิมความหวานล้ำ
“ฝ่าบาท”
มาเลย์น่ากัดริมฝีปากด้วยความเสียวซ่านจับจิต ร่างงามหยัดกายขึ้นจากเตียงนอนกว้างตอบสนองเร่าร้อนต่อสัมผัสของเขา
ชิวหาอุ่นร้อนไล้เลียไปทั่วยอดถันทั้งสองเพื่อไม่ให้น้อยหน้า มือใหญ่กอบกุมสะโพกผายงอนงามเพื่อบีบคลึงลูบไล้ ความแกร่งกล้าองอาจลากไล้ถูไถจนกลีบดอกไม้เบื้องล่างแทบช้ำอีกครา
“ครางเดี๋ยวนี้ ฉันอยากได้ยินเสียงหวานของเธอเหลือเกิน”
คนเอาแต่ใจสั่งเสียงแหบห้าว
แม้เขาจะไม่สั่ง เธอก็สิ้นความอดทนอีกต่อไป ริมฝีปากสวยครวญครางเสียงกระเส่าแผ่วหวานไปทั่วห้อง
“เสียงดังอีก ฉันอยากฟัง ห้ามหยุดเด็ดขาด”
คนเอาแต่ใจสั่งด้วยความพึงพอใจมากขึ้น
ถึงเขาไม่บอก เธอครางไม่เป็นภาษาทุกคราที่ถูกกลั่นแกล้งให้ดิ้นเร่าภายใต้ร่างหนานั้น
ชิวหาอุ่นร้อนเชยชิมยอดถันจนพอใจ มือใหญ่ละจากสะโพกผายขึ้นไปช้อนปทุมอวบป้อนเข้าปากด้วยความกระหาย
มาเลย์น่าอุทานเบาๆ ก่อนจะครางเสียงยาวกระเส่ากว่าเดิม โพรงปากอุ่นร้อนดูดกลืนเสียงดังไปทั่วห้องกว้าง พร้อมกับปลายลิ้นที่ยังตวัดไล้เลียยอดถันพร้อมกันไปด้วย มือใหญ่เคล้นคลึงหนักหน่วงไม่ผ่อนคลาย
เขาย้ายข้างไปอีกด้านเพื่อไม่ให้น้อยหน้า ร่างงามสั่นสะท้านอยู่ภายใต้ร่างแกร่งแทบขาดใจ เขาดื่มด่ำกับทรวงอวบหวานจนพอใจ แขนเรียวเสลาจึงถูกดูดเม้มต่อจากยอดทรวง ทุกครั้งที่ริมฝีปากลากผ่าน เขาทิ้งรอยประทับไปทั่วเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ
ชิวหาร้อนรุ่มไล้เลียไปทั่วหน้าท้องแบนราบ รสชาติหวานล้ำทำให้เขาติดใจไม่อาจถอนตัวได้ ริมฝีปากหยักหนาจุมพิตที่สะดือบุ๋มเพื่อหยอกเย้า ร่างงามหยัดกายขึ้นตอบสนองทันที
เขายิ้มด้วยความพอใจในอาการตอบสนองของคนใต้ร่าง
“ฝ่าบาท”
หญิงสาวผงกศีรษะมองเรือนร่างเปลือยของตัวเอง สัมผัสถึงชิวหาร้อนรุ่มที่กำลังตวัดไล้เลียกลีบเกสรดอกไม้
“อย่าเพคะ”
เธอรู้สึกอายและไม่คิดว่าเขาจะทำเช่นนี้ ร่างงามหาได้ถอยหนีไม่ ได้แต่นอนหายใจหอบสะท้านเปิดทางให้เขาเชยชิมความหอมหวาน ใบหน้านวลแดงก่ำ ก่อนจะทิ้งศีรษะลงไปดังเดิมพร้อมกับเสียงหอบพร่าระคนตื่นเต้น รสชาติหวานล้ำทำให้เขาลุ่มหลงมากยิ่งขึ้น น้ำทิพย์หอมหวานค่อยๆ หลั่งรินให้ชิวหาร้อนรุ่มตวัดลามเลียทุกหยาดหยด
“เธอช่างหอมหวานจับใจ”
เสียงแหบพร่าขาดเป็นห้วงกระซิบที่ใบหูเล็กหอมกรุ่น
ใบหน้าคมเข้มก้มลงเชยชิมไม่เบื่อหน่าย มือใหญ่แยกเรียวขาให้กว้างมากขึ้น เนินเนื้อสาวอวบอูมสีสดชุ่มฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำหวาน นิ้วเรียวดั่งสตรีเพศสอดประสานเข้าหาความคับแน่นอบอุ่นเชื่องช้า เรียกเสียงอุทานเครือหวานจากร่างงามแทบจะทันที
ใบหน้านวลแดงก่ำร้อนรุ่มจนแทบสิ้นชีวาวาย ความอึดอัดกำลังเข้าครอบครองให้สะโพยผายกระถดถอยหนีสิ่งแปลกปลอมที่ไม่เคยพานพบมาก่อน
คิ้วเข้มดกหนาเลิกขึ้นด้วยความฉงน เมื่อสัมผัสกับความคับแน่นรัดรึงที่กำลังตอดรัดนิ้วเรียวของเขา รวมถึงเยื่อบางๆ ขวางกั้นไม่ให้สำรวจไปจนสุดเส้นทางได้ ดวงตาคมเข้มมองกลีบดอกไม้แสนสวยที่ยังปิดสนิท สลับกับเงยหน้ามองใบหน้านวลที่แดงก่ำของคนใต้ร่าง
“ฮันนี่” เขาชะงักนิ้ว
“เจ็บ”
ริมฝีปากอวบอิ่มเอื้อนเอ่ยเสียงสะท้านสลับกับกัดเม้มเข้าหากัน เขารั้งสะโพกผายให้หยุดนิ่ง เรือนกายแข็งแกร่งขึ้นคร่อมทับเรือนร่างงาม ความภาคภูมิใจแล่นไปทั่วหัวใจดวงแกร่ง
“ไม่เคยหรือฮันนี่”
อีซาถามเสียงพร่า เรียกชื่อเล่นหญิงสาวสนิทสนมเช่นเดิม
มาเลย์น่าสะบัดศีรษะไปมาบนหมอนใบสวยด้วยดวงตาไร้เดียงสา ถ้อยคำที่จะเอื้อนเอ่ยแทบไม่มี ใบหน้าหล่อเหลาแย้มยิ้มด้วยความพึงพอใจยิ่งนัก กลีบปากแสนสวยที่บวมช้ำถูกกดประทับอีกครั้ง นิ้วเรียวแข็งแกร่งสอดประสานเข้าออกเพื่อสร้างความคุ้นเคย
สติสัมปชัญญะกำลังพร่าเลือนอีกครั้ง ร่างงามยินยอมต่อสัมผัสแสนหวามหยัดกายขึ้นหาความแข็งแกร่งที่สอดประสานลงมาไม่หยุดหย่อน ริมฝีปากหยักหนาลากไล้ชิวหาอุ่นร้อนลามเลียไปทั่วเรือนร่างหอมหวาน ผิวเนียนนุ่มสีน้ำผึ้งตราตรึงจิตใจของเขา จนไม่อาจถอนตัวถอนใจได้เลย เสียงครางกระเส่าเร่าร้อนปลดปล่อยออกมาอ่อนหวานรัญจวนใจ
“เสียงเธอช่างไพเราะจับจิต”
เขากระซิบแหบห้าวที่ริมหูเล็กหอมกรุ่น เสียงกรีดร้องแห่งความสุขสมหฤหรรษ์แทรกเข้ามาแทนที่เสียงครางหวาน
ร่างงามหยัดกายตอบรับความสุขกระสันซ่าน ก่อนที่จะทิ้งตัวลงไปพร้อมกับลมหายใจหอบพร่าสะท้านจนทรวงอวบสะท้อนขึ้นลงยั่วตายั่วใจ
ริมฝีปากหยักหนากดจุมพิตหน้าผากมนแผ่วเบา เพื่อปลอบโยนให้ร่างงามคลายความเหนื่อยอ่อน สัมผัสอ่อนโยนทะนุถนอมทำให้หญิงสาวกะพริบตามองด้วยความอบอุ่นสุขใจ
“ฉันต้องการเธอเดี๋ยวนี้”
เสียงแหบห้าวสั่นพร่าออดอ้อนอยู่ในที เรียกร้องตามใจปรารถนา
หญิงสาวกะพริบตาหรี่ปรือ ดวงคมเข้มสีนิลแย้มยิ้มในความอ่อนเดียงสา ก่อนที่จะเป็นผู้กระทำเสียเอง เรียวขาเพรียวสวยถูกแยกออกอีกครั้งอย่างทะนุถนอมมากกว่าเดิม พร้อมกับความองอาจที่ถูไถกลีบกายสาวเพื่อหยอกเย้า แม้เป็นเพียงสัมผัสเบาๆ แต่ทำให้คนใต้ร่างสะดุ้งสั่นไหวด้วยความตื่นเต้น
มือหนาแยกกลีบดอกไม้งามออกอย่างเบามือ พร้อมกับสะกิดยอดเกสรสวยไปมาเรียกเสียงครางกระเส่าด้วยความกระสันซ่านจับจิต ริมฝีปากหยักหนาไล้เลียขบเม้มกระดิกชิวหาเข้าใส่ใบหูขาวสะอาดเร่าร้อนอ่อนหวาน
เรือนร่างงามอ่อนล้าระทวยสั่นสะท้าน เรียวขาแทบไม่มีแรง ถ้าจะมีบ้างคือการหยัดกายเข้าหาตอบสนองเขาไปตามธรรมชาติ มือใหญ่ทั้งสองกอบกุมมือเรียวสวยเพื่อกดทับบนที่นอนกว้าง เรือนร่างแข็งแกร่งกดแทรกเข้าหากลีบกายสาวเชื่องช้า ริมฝีปากหยักหนาจุมพิตเคล้าคลึงกลีบปากอิ่มเพื่อป้องกันเสียงกรีดร้อง
กายแกร่งสำรวจเส้นทางเพียงแค่ปากทางช่อดอก หญิงสาวร้องประท้วงแผ่วเครือ แต่เป็นเพียงเสียงอู้อี้ในลำคอเท่านั้น ความใหญ่โตองอาจกำลังพกพาความเจ็บปวดมาแทนที่ความเสียวซ่าน
เรือนกายแข็งแกร่งถอดถอนออกด้วยความเสียดาย หญิงสาวหอบหายใจสะท้อนสั่นไหว ร่างสูงเลื่อนตัวลงไปตวัดชิวหาไล้เลียที่กลีบกายสาวอีกครั้งเพื่อปลอบโยน มือเรียวจิกผ้าปูเตียงสีสวยแน่น ความเกรงใจทำให้เธอไม่กล้าจับศีรษะของเขา
หญิงสาวหอบสะท้านเมื่อชิวหาร้อนรุ่มลากไล้ไม่หยุดหย่อน มือเรียวเสยเข้าไปในผมดกหนาของเขาอย่างไม่ตั้งใจ ทันทีที่ชิวหาร้อนรุ่มสอดแทรกเข้าไปในเรือนกายเป็นจังหวะจะโคน
อีซาหาได้โกรธเคืองไม่ เมื่อมือเรียวกดคลึงศีรษะให้แนบชิดเรือนร่างเย้ายวน ขาเพรียวอ้าออกเพื่อเปิดทางให้เขามากขึ้น
เขาตอบสนองความน่ารักด้วยการตวัดชิวหาเร่งเร้าให้เรือนร่างหอมหวานปลดปล่อยน้ำหวานมากกว่าเก่า พร้อมกับการดูดกลืนกินทุกหยาดหยด
นิ้วเรียวสอดแทรกเพื่อเร่งเร้าให้เส้นทางคุ้นชินกับสิ่งแปลกปลอมพร้อมกับเพิ่มเป็นสองนิ้ว ใบหน้าสวยหวานเกร็งจากความอึดอัดที่กำลังเข้ามาแทนที่ ร่างงามผวาเมื่อนิ้วเรียวทั้งสองสอดประสานเป็นจังหวะรักหนักหน่วงขึ้น ก่อนที่จะพาความสุขกระสันซ่านมาเยือนอีกระลอก
“สาวน้อย เส้นทางรักของเธอช่างคับแคบนัก”
น้ำเสียงแหบห้าวกระซิบพร่า ครั้งนี้เขาต้องการเข้าไปพำนักในเรือนกายสาวที่แสนอบอุ่นนี้ให้ได้ มาเลย์น่าตวัดแขนเรียวโอบรอบลำคอหนาของเขาแนบแน่น
“ฝ่าบาท”
เสียงสะท้านที่เปล่งออกมาเรียกเลือดหนุ่มในกายที่ไม่เคยถูกตาต้องใจหญิงใดมาก่อนให้เดือดเกินกว่าจะยับยั้งใจได้อีก ริมฝีปากหยักหนาไม่รู้สึกเบื่อหน่ายที่จะจุมพิตกลีบปากหวานฉ่ำ เรือนกายแข็งแกร่งเริ่มสอดประสานพำนักอยู่แค่ครึ่งทาง เนื่องจากความคับแน่นรัดรึงที่ไม่สามารถให้ความองอาจเข้าไปจนสุดทางได้