Ch.2
...พลับพลึง...
ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาหลังจากที่ผมสติดับวูบไปตั้งแต่เมื่อคืน ผมมองไปรอบๆตัวกลับพบว่ามีผู้ชายนอนกอดผมอยู่กลิ่นหอมหมดอ่อนที่ส่งออกมาในขณะที่เขารับทำให้จิตใจของผมรู้สึก ผ่อนคลายและดีเหลือเกินกอดที่แสนอบอุ่นของเขาทำให้ตัวของผม รับรู้ถึงการปกป้องของเขาอย่างดี ผมจึงปล่อยให้เขานอนกอดผมอยู่นานแต่ก็ไม่เห็นเขาปล่อยผมเลยสักครั้ง แถมยังกอดแน่นซะอีก
"ตื่นเถอะครับสายมากแล้ว"
"ไม่เอาหรอกไม่อยากตื่น"
"แต่ว่า คุณไม่ควรนอนอยู่แบบนี้ตลอดทั้งคืนนะครับ"
"ฉันจะกอดเมียของฉันใครจะทำอะไรฉันได้"
"แต่ว่า..."
"ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น ให้ฉันกอดหน่อยไม่ได้หรือไง"
"อยากจะกอดก็กอดได้นะครับแต่ว่า"
"แต่ว่าอะไร"
"ผมว่ามันไม่ดีเลยเพราะคุณกับผมเมื่อคืนต่อให้เรามีอะไรกันแต่คุณยังไม่ได้แนะนำตัวให้ผมรู้จักเลยเท่ากับว่าผมนอนให้คนแปลกหน้ากอดทั้งคืนนี้สิครับ"
"ฉันชื่อจากัวร์ เป็นสามีและเป็นคู่แห่งโชคชะตากับเธอ แล้วเธอล่ะชื่ออะไร"
"ผมชื่อพลับพลึง ตอนนี้เพิ่งเรียนจบม.ปลาย ครับ"
"อยากเรียนต่อมหาลัยไหม"
"ผมไม่มีเงินถึงขนาดนั้น"
"แต่ฉันมีเมียคนเดียวทำไมฉันจะดูแลไม่ได้"
"คุณจากัวร์จะให้ผมเรียนจริงๆนั้นหรอ"
"เรียกฉันว่าที่รัก เข้าใจไหม"
'มันจะดีหรอครับ"
"ดีสิไม่ว่าต่อหน้าใครหรือลับหลังใคร เธอก็ควรเรียกฉันว่าที่รัก ฉันเองก็จะเรียกเธอ"
"เรียกผมว่าพลับพลึงก็ได้ครับ"
"นายเขินฉันหรอพลับพลึง แต่เมื่อคืนเราสองคนก็เห็นอะไรต่อมิอะไรกันหมดแล้วนายจะอายอะไร"
"ผมแค่รู้สึกว่ามันเร็วไป นิดหน่อยครับ"
"นายโชคดีแล้วที่คนแรกของนายคือฉันและจะเป็นของฉันตลอดไป เพราะฉันไม่ใช่เป็นคนเจ้าชู้"
"อ้อ แบบนี้ผมควรดีใจใช่มั้ยครับ"
"เธอควรดีใจที่มีฉันเป็นสามี"
"อ้อครับ"
"ทำไมถึงทำหน้าเศร้าแบบนั้นล่ะ"
"ผมรู้สึกว่าเหมือนตัวเองฝันไป มันไม่เหมือนความจริงเลยสักนิดเดียว"
ฟอดดดดดดดด!!!
"อ๊ะ! คุณจากัวร์"
"แก้มหอมมากเลยนะเหมือนเด็กเลย บอกมาซิว่าเป็นอะไรทำไมถึงชอบแบบนั้น"
"ผมแค่คิดถึงน้องชาย"
"ได้สิมันเอาน้องชายของนายมาอยู่ด้วยกันเลยว่าแต่เด็กน้อยอายุเท่าไหร่แล้ว"
"12 ขวบครับ"
"พ่อของนายขายนายมาใช่ไหม"
"ใช่ครับเขาอยากได้เงินเอาไว้ดูแลภรรยาครับ แม่เลี้ยงผมเขาตั้งท้องได้ 3 เดือนแล้วครับก็เลยต้องหาเงินเตรียมคลอดในอนาคต"
"อย่าแสนดีให้มันเยอะเกินไปหน่อยเลยการเป็นคนแสนดีไม่เห็นดีตรงไหน"
"แต่การที่ผมเป็นคนแสนดีก็ยังดีกว่าเป็นคนเย็นชานะครับยังไงเดี๋ยวคนนั้นก็เป็นน้องของผม เขาเกิดมาก็ต้องได้รับการดูแลเป็นอย่างดี"
"ช่างเถอะพูดกับเธอเรื่องนี้ก็จะทะเลาะกันเปล่าๆ"
"ผมขอโทษนะครับที่พูดจาไม่ดีกับคุณ"
"ฉันจะโกรธเธอมากกว่านี้ถ้าเธอยังเรียกฉันว่าคุณอีกฉันบอกแล้วไงว่าให้เธอเรียกฉันว่าอะไร"
"คุณให้ผมเรียกว่าที่รักครับ"
"ก็เรียกฉันว่าที่รัก ก็แล้วกัน"
"ผมจะพยายามครับ"
"ไม่ใช่พยายามแต่ต้องทำให้ได้ต้องพูดให้ได้ด้วยเข้าใจไหม"
"เข้าใจแล้วครับผมจะเป็นเด็กดีและเชื่อฟังนะครับที่รัก"
"ดีมากครับพลับพลึง"
พี่จากัวร์ เขาลูบหัวของผมอย่างเอ็นดู ทำเอาผมหน้าแดงขึ้นมาในทันทีเพราะไม่มีใครที่จะมาลูบหัวของผมแบบนี้เลยเขาคือคนแรกของผมที่ลูบหัวผมอย่างรักใคร่เอ็นดูน้ำเสียงการพูดของเขา ก็ทำให้ใจของผมสั่นไว้ได้ในทันที เพราะแบบนี้ผมอยากจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับเขา ให้เขาเป็นที่พึ่ง ในชีวิตของผม ตลอดไปต่อให้เขาไล่ผมผมก็จะไม่ไปอยู่กับเขาแบบนี้ตลอดไป
ตลอดทั้งวัน พี่จากัวร์ก็เอาแต่นอนกอดผมทั้งวันทั้งคืนไม่ยอมปล่อยผมให้ไปไหนเลยจนผมรู้สึกว่าเขา เป็นคนที่น่ารักและขี้อ้อนมากเลยไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสและมีความรู้สึกกับใครมากถึงขนาดนี้มาก่อนแม้จะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆกับการได้อยู่ร่วมกันของผมกับเขาก็เถอะ
เช้าวันต่อมา
ผมตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าของวันต่อมาผมก็เห็นตัวของพี่จากัวร์ แต่งตัวเตรียมตัวจะไปทำงานแล้ว ผมก็มีสีหน้าแปลกใจเพราะว่าเมื่อวานไม่เห็นเขาจะบอกเลยว่าเขาจะไปทำงานแต่ก็อย่างว่านั่นล่ะครับผมก็ไม่กล้าถามอะไรมากนักเพราะเกรงว่าคำถามของผมจะทำให้เขาไม่พอใจและไล่ผมออกจากบ้านผมก็เลยได้แต่มองอย่างสงสัยต่อไป
"วันนี้จะให้คนพา พลับพลึงไปสมัครเรียนนะ"
"ให้ผมสมัครเรียนที่ไหนครับ"
"เป็นมหาลัยเอกชนใกล้ๆนี้เธอคงจะไม่ชอบอะไรที่หรูหรา ก็เลยเลือกมหาลัย ที่มีชื่อเสียงเด่นเรื่องวิชาการอย่างที่เธอชอบ"
"ที่รักครับ มันเยอะเกินไปผมรับไว้ไม่..."
"รับไปเถอะ อย่าปฏิเสธฉันเลย เธออย่าลืมสิว่าเธอคือภรรยาของฉันนะ"
"ผมอยากอยู่กับที่รักก็พอแล้วครับ"
"พี่ก็อยากอยู่กับหนูเหมือนกัน"
"ที่รักเรียกผมว่าหนูหรอครับ"
"ใช่ไง ตอนนี้ฉันอายุ 32 แล้วนะหนูอายุแค่ 18 ปีเองนะครับ"
"ที่รักอายุสามสิบกว่าแล้วหรอครับ หน้าเหมือนเด็กยี่สิบเลยครับ"
"ปากหวานจังเลยนะครับ"
"ที่รักอย่าเข้ามาใกล้ขนาดนั้น ฟีโรโมนของที่รักทำให้ผมมีอาการแปลกๆครับ"
"เอาแบบนั้นก็ได้ ฉันจะต้องไปทำงานแล้วหนูอยู่ที่นี้ รอเลขาส่วนตัวของฉันมารับไปสมัครเรียนก็แล้วกัน"
"เดินทางปลอดภัยนะครับ"
"ขอบใจ จุ๊บ!"
"อื้ออ ที่รัก..."
"ไปล่ะ"
เขาแอบฉวยโอกาสจูบที่ปากของผมก่อนที่จะใส่สูตรให้เรียบร้อยเตรียมตัวไปทำการผมเองก็ทำได้เพียงแค่ไปยืนส่งเขาที่หน้าบ้านตัวของผมก็ต้องไปอาบน้ำแต่งตัวใส่ชุดที่แม่บ้านเตรียมเอาไว้ให้ คุณป้าแม่บ้านท่านอายุได้ห้าสิบกว่าปีแล้วเป็นสาวโสดที่ใจดีเห็นผมแล้วก็ทำให้คุณป้าแม่บ้านอยากมีลูกขึ้นมาท่านก็เลยเอ็นดูผมมากเป็นพิเศษ
"นายหญิงแต่งตัวเสร็จหรือยังคะ"
"คุณป้าผมกำลังแต่งตัวอยู่ครับ"
"ป้าแค่จะมาบอกนายหญิงว่าคุณโอโซนมาถึงแล้วนะคะ"
"คุณโอโซนนี่คือใครหรอครับ"
"เลขาของนายน้อยค่ะนายหญิงเองก็รีบแต่งตัวนะคะจะได้ลงมาทานอาหารจะได้ออกไปทำธุระค่ะ"
"ได้ครับรอสักครู่นะครับ ผมกำลังแต่งตัว"
ผมบอกคุณป้าแม่บ้านเสร็จแล้วก็รีบแต่งตัวเพราะกลัวว่าคุณโอโซนจะรอนาน เพราะว่าผมเกรงใจกลัวว่าคนอื่นจะพูดไม่ดี เวลาจะไปที่ไหนผมต้องไปก่อนคนอื่นแล้วก็กลับทีหลังคนอื่น เมื่อ ผมลงมาข้างล่างก็พบว่าคุณโอโซนรอผมอยู่แล้ว ผมก็เลยลงมาข้างล่างทันทีเมื่อนั่งลงคุณป้าแม่บ้านก็จัดอาหารให้ผมทันทีเหมือนกัน
"วันนี้มีข้าวต้มกุ้งนะคะ นายน้อยบอกว่านายหญิงชอบข้าวต้มกุ้ง"
"ขอบคุณมากนะครับผมจะทำให้หมดเลยนะ"
"ถ้าไม่อิ่มก็บอกป้านะคะว่ามีอาหารเยอะแยะเลยแต่ก็จะไปทำให้กินจะกินอะไรเพิ่มไหมคะ"
"เอาแค่นี้ก่อนก็พอแล้วครับ"
"ถ้าไม่อิ่มบอกได้นะคะ"
"ได้เลยครับคุณป้า"
ผมยิ้มตอบรับก่อนจะทานอาหารจนเสร็จเรียบร้อย แล้วก็รีบออกไปข้างนอกพร้อมกับคุณเลขาหรือคุณโอโซนทันที คุณโอโซน เขาเป็นคนไม่ค่อยพูดมาก ผมก็เลยรู้สึกว่าอึดอัดนิดหน่อยแต่ก็ไม่เป็นไรอย่างน้อยก็ดีกว่าเขาพูดจาดูถูกเรานั่นแหละครับ
"โรงเรียนของคุณอยู่ที่นี่ใช่ไหมครับ"
"ใช่ครับเดือนหน้าก็เข้ามหาลัยแล้วต้องไปทำเรื่องอะไรที่โรงเรียนไหมครับ"
"ทำเรื่องจบครับ"
"งั้นผมจะพาคุณไปนะครับไม่ต้องเกรงผมขนาดนั้นหรอกครับผมก็เป็นโอเมก้าเหมือนคุณแล้วผมก็แต่งงานมีสามีเรียบร้อยแล้วครับ ไม่ต้องกลัวผมแบบนั้นหรอก"
"คุณโอโซนก็แต่งงานมีสามีเหมือนกันหรอครับเป็นโอเมก้าอีกด้วย"
"ใช่ค่ะผมแต่งงานเมื่อปีก่อนตอนอายุ 25 เพิ่งเจอเนื้อคู่ของตัวเองกว่าจะได้เจอก็ต้องหลบๆซ่อนๆมี เจ้านายคอยให้ความช่วยเหลืออยู่เสมอนะว่าเป็นบุญคุณมากเลยครับไม่อย่างนั้นก็คงถูกจับไปขายแน่เลย"
"เกิดมามีชะตาชีวิตที่ให้กำเนิดคนอื่นแต่ไม่สามารถเลือกทางเดินของตัวเองได้ทรมานยิ่งกว่านะครับ"
"ใช่ครับพวกเราเป็นแค่คนที่สามารถให้กำเนิดเด็กได้เพื่อสืบทอดทายาทแต่ว่าเจ้านายของผมเขาไม่ได้เป็นคนแบบนั้นเขาเป็นคนจิตใจดีไม่ว่าจะทำหน้ามึนไปบ้างเย็นชาไปสักหน่อยแต่ก็บอกตามตรงว่าเขาเป็นคนที่ดีมากเลยนะครับคุณโชคดีแล้วที่ได้เจอเนื้อคู่ของคุณ เป็นเจ้านายของผม"
"คุณอยู่กับคุณจากัวร์คุณไม่มีความรู้สึกที่จะชอบเขาเลยหรอครับ"
"ผมกับเขาในฐานะเจ้านายกับลูกน้องเปรียบเสมือนพี่กับน้องมากกว่า อีกอย่างผมก็เป็นเพื่อนของน้องชายเจ้านาย ผมไม่ได้มีความรู้สึกแบบนั้นกับเจ้านายหรอครับอีกอย่างเราสองคนคงจะจูนกันติดไม่ได้แน่นอน"
"แบบนี้นี่เอง..."
"สบายใจได้ครับไม่ต้องถึงนะผมอ่ะเป็นแค่แฟนคลับเลยอยากเป็นแฟนเจ้านายหรอกครับแค่ทำงานเป็นเลขาก็เหนื่อยมากแล้วถ้าจะให้ไปพ่วงตำแหน่งแฟนอีกคงไม่ไหวเดี๋ยวผมพาคุณเข้าไปทำเรื่องเรียนจบนะครับแล้วก็เจ้านายให้กลับไป ที่บ้านของคุณด้วยเพื่อที่จะไปเซ็นเอกสารและก็รับตัวน้องชายของคุณมาอยู่ที่บ้านด้วยกัน"
"ขอบคุณนะครับที่ให้การช่วยเหลือมาโดยตลอดผมไม่รู้จะตอบแทนบุญคุณทุกคนยังไงดี"
"ตอบแทนเจ้านายคนเดียวก็พอแล้วครับผมมีหน้าที่ทำตามคำสั่งคุณเองก็ถือว่าเป็นอัจฉริยะในหมู่ Omega แบบพวกเรา"
"จะบอกว่าผมอัจฉริยะคนเดียวก็ไม่ได้นะครับเพราะคุณเองได้ทำงานมีหน้ามีตาก็คงจะมีความเก่งกาจแล้วก็ฉลาดเฉลียวเหมือนกัน"
"นั่นมันเป็นข้อพิสูจน์ของพวกเราครับทางเรามีความสามารถก็ใช้ความสามารถของตัวเองในการทำงานผมเกลียดคนที่ดูถูกพวกเรามาก คุณก็อยากให้ใครมาดูถูกคุณได้นะครับและก็เย็นนี้เจ้านายจะกลับมาดึกหน่อยนะครับเพราะว่าต้องไปเซ็นเอกสารที่สาขาอื่น"
"ขอบคุณครับที่บอก งั้นเย็นนี้คุณจะทานอาหารที่บ้านของคุณจากัวร์เลยไหมครับ"
"คงไม่ได้ครับเพราะว่าผมต้องรีบไปหาสามีกับลูกชายที่บ้านงั้นเราไปทำงานกันต่อนะครับ"
ผมลงจากรถก่อนที่จะเดินเข้าไปในโรงเรียนในโรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนระดับกลางที่ใช้ความรู้ในการสอบเข้าแม้ว่าจะเป็นเอกชนก็ตามที่นี่ผมเคยโดนเพื่อนๆร่วมชั้นต่างรังเกียจแม้กระทั่งอาจารย์ที่คอยให้คะแนนผมก็ไม่ค่อยชอบผมสักเท่าไหร่เพราะผม เก่งกว่าเด็กนักเรียนที่เขาตั้งใจจะปั้นมาผมก็เลยไม่ค่อยเป็นที่ถูกใจของอาจารย์คนอื่นๆสักเท่าไร ผมเองก็ไม่ค่อยอยากที่จะเข้ามาวุ่นวายกับคนอื่นหรอกนะครับแต่เพราะว่าถ้าผมไม่เรียนจนได้ทุนผมก็ไม่มีเงินที่จะเรียนหนังสือต่อ
เมื่อผมมาที่ห้องทะเบียน ก็เจออาจารย์ฝ่ายทะเบียน นั่งจ้องมองหน้าของผมด้วยสายตาไม่พึงพอใจ เพราะนี่ก็เลยวันที่ผมต้องมาทำเอกสารแล้ว 1 วันท่านก็ไม่พอใจผมเป็นเรื่องปกติและธรรมดา ครั้งนี้เป็นความผิดของผมเองที่มาไม่ตรงเวลากับเขากำหนดเอาไว้
"นายพลับพลึง มารยาทในการที่จะเข้ามาทำเอกสารเธอเองก็รู้ดี ทำไมถึงยังมาสายแบบนี้"
"ผมติดธุระครับขอโทษนะครับที่ผมมาสายแบบนี้"
"แล้วนำพาใครมาไม่รู้หรอว่ากฎระเบียบของที่นี่คืออะไร"
"ผมมาในฐานะเป็นผู้ดูแลของคุณพลับพลึงหวังว่าคุณครูจะไม่ว่าอะไรนะครับ"
"ใครใช้ให้เธอเป็นคนพูดฉันไม่ได้ถามเธอสักหน่อยมารยาทในการเข้าสังคมของพวกเธอนั้นต่ำเตี้ยเรี่ยดินจริงๆมารยาททราม"
"คุณก็คงจะเป็นครูฝ่ายทะเบียนสินะครับ"
"ใช่แล้วจะทำไม"
"พอดีว่าผมเรียนจบฝ่ายกฎหมายมาไม่ทราบว่าคำพูดของคุณ อยากจะแก้ใหม่หรือว่าอยากจะขึ้นศาลดีครับคำพูดและคำจาของคุณมันบ่งบอกถึงวุฒิภาวะ ของการเป็นครูหากไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนในการพูดจากับคนอื่นก็อย่าหวังเลยว่าจะได้มาเป็นครูผมแล้วนับถือคนที่จ้างคนจริงๆ คงจะเห็นว่าคุณอายุมากแล้วก็เลยอยากจ้างคนเอาไว้เพราะไม่อย่างนั้นที่นี่ก็คงจะเจริญกว่านี้สงสารคนที่จ้างคนจริงๆนะครับ"
"Omega อย่างเธอกล้ามาด่าฉันได้ยังไง"
"แล้ว Beta อย่างคุณมีสิทธิ์อะไรมาด่าผมล่ะครับอีกอย่างนึงผมแต่งงานแล้วร่างกายนี้เป็นของสามีกฎหมายตราไว้ว่าหากผมได้รับการดูถูกเหยียดหยามจากคนอื่น โดยเจตนาหรือไม่เจตนาคนคนนั้นจะต้อง จ่ายค่าเสียหายให้กับผม ตามที่สามีของผมเรียกร้องเอาไว้คุณไม่กลัวว่าตัวของคุณจะหมดตัวหรอครับ คุณครูฝ่ายทะเบียน"
"นี่เธอกล้าข่มขู่ฉันงั้นหรอฉันเป็นครูมาที่นี่ 30 ปี ไม่มีใครกล้าพูดกับฉันแบบนี้"
"ผมขอโทษคุณครูด้วยนะครับ..."
ผมยังพูดไม่จบคุณโอโซนก็ปลดกระดุมเสื้อสูทออกมาเผยให้เห็นปืนที่เหน็บข้างเอวคุณครู ฝ่ายทะเบียนถึงกับอ้าปากค้างไม่กล้าพูดอะไรต่อหน้าตาก็ถอดสีออกไปเลยคุณโอโซนไม่ต่อปากต่อคำอะไรอีกเพียงแค่ยืนค้ำเอวเคยเห็นปืนที่อยู่ข้างเอวก็ทำให้ครูทะเบียนแทบอกสั่นขวัญแขวน ด้วยความตกใจผมเองก็นึกตกใจกลัวว่าเขาจะยกปืนออกมายิงใส่ครูทะเบียนโรงเรียนผม เอกสารการจบของผมถูกทำอย่างเร่งด่วนมือไม้ของอาจารย์ก็สั่นสะท้านเพราะความหวาดกลัว เขาก็คงจะกลัวมากจริงๆนั่นแหละครับเพราะตัวของผมเองแค่เห็นปืนก็แทบจะเป็นลมแล้วส่วนคุณโอโซนก็คุมเชิงอยู่แบบนั้นเขาก็คงแค่อยากจะขู่ครูทะเบียนผมเท่านั้นเอง
"เสร็จแล้วรีบเอาไป"
"ขอบคุณนะครับและหวังว่าจะไม่มีตำรวจคนไหนมาหาผมเพราะมีคนแจ้งว่าผมถือครองอาวุธนะครับ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ต้องพูดถึงนะครับว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอตัวก่อนนะครับ ไปกันเถอะครับคุณพลับพลึง"
ผมเดินตามหลังคุณโอโซนไปด้วยความหวาดกลัวนิดหน่อยแต่เพราะว่าเขาเป็นคนที่ คุณจากัวร์ตั้งใจส่งมาดูแลผมก็คงจะต้องเป็นคนที่เก่งมากจริงๆนั่นแหละ ถึงได้กล้าปล่อยให้มาอยู่กับผมแบบนี้นับว่าเป็นคนที่คิดรอบคอบจริงๆผมเดินตามขึ้นมาถึงรถคุณโอโซนก็เปิดประตูให้ผมขึ้นรถไปผมก็ขึ้นไปนั่งอย่างเงียบเชียบไม่พูดไม่จากลัวว่าหากพูดอะไรผิดไป กลัวว่าจะโดนปืนจอแบบครูทะเบียนเมื่อกี้ต่อให้มันไม่ได้จอแค่เห็นก็หวาดกลัวแล้ว
"คุณพลับพลึงกลัวหรอครับที่หลังผมจะไม่เอาออกมาโชว์ส่วนมากผมไม่ค่อยใช้ปืนนี้สักเท่าไหร่นอกจากไปทำงานที่เสี่ยงอันตรายให้กับเจ้านายนะครับ"
"พี่จากัวร์เขาทำงานเสี่ยงอันตรายอะไรหรอครับ"
"คุณจากัวร์เจ้านายของผมเขาทำธุรกิจเกี่ยวกับการค้าขายรถนำเข้ารถจากต่างประเทศมาขายที่นี่รถแต่ละคัน ก็มีราคาที่แพงและขายได้ราคาดีๆจึงจำเป็นต้องมีบอดี้การ์ดมีเลขาที่สามารถช่วยเหลือเจ้านายของตัวเองยามทุกข์ยากลำบากได้นั่นแหละครับผมถึงมีคุณสมบัติที่เข้ามาทำงานที่นี่"
"แบบนี้นี่เองถึงว่าพี่จากัวร์ถึงได้ให้ผมมากับคุณโอโซน"
"เพราะเจ้านายคิดว่าผมสามารถดูแลคุณได้ซึ่งแน่นอนครับคุณก็เปรียบเสมือนเจ้านายของผมคนนึงผมก็ต้องดูแลให้เป็นอย่างดีไม่ต้องห่วงนะครับว่าคุณจะได้รับอันตรายผมจะไม่ปล่อยให้ใครทำร้ายคนได้เด็ดขาด"
"เลี้ยวซอยข้างหน้าก็ถึงบ้านของผมแล้วครับ"
"ครับคุณพลับพลึง"
เมื่อมาถึงที่บ้านของผม คุณโอโซนก็เปิดประตูให้ผมอย่างที่ผู้ชายคนอื่นชอบทำให้ผมเองก็ตกใจเราไม่อยากให้เขา มาคอยทำอะไรเหมือนผมทำอะไรไม่เป็น แต่ก็ยังว่าราคาการถูกปลูกฝังของเขาไม่เหมือนกับของผม เมื่อผมลงมาจากรถเรียบร้อยแล้วผมก็เดินนำเข้าไปในบ้านเห็นพ่อของผมนั่งหยอกล้อกับแม่เลี้ยง แต่ตัวของน้องชายผมกลับได้ถูบ้านทำความสะอาดบ้านอยู่ผมกับตกใจกับเรื่องนี้ เมื่อไม่มีผมแล้วน้องของผมก็ต้องลำบากแบบนี้ผมมันเป็นพี่ที่เห็นแก่ตัวทั้งๆที่ผมถูกขายไปได้ 3-4 วันน้องชายของผมก็กลายเป็นทาสของบ้านหลังนี้แล้ว
"แกเป็นใคร เอ๊ะ ไอ้พลับพลึง แกกลับมาได้ยังไงแค่นี้ออกมาใช่ไหม"
"ผมไม่ได้หนีออกมา ผมถูกซื้อตัวมา เป็นภรรยาของนักธุรกิจคนนึง ผมมาที่นี่เพื่อให้พ่อเซ็นสัญญายกผมให้กับเขา นี่ก็คือเลขาของเขา"
"ฉันไม่สนอะไรให้แกทั้งนั้นกลับไปซะ"
"จะเซ็นดีๆหรือต้องให้ตัดมือของแกประทับตราลงบนสัญญานี้"
"โอเมก้าอย่างแกจะทำอะไรฉันได้"
"อยากรู้ก็ลองดูสิว่าจะทำได้ไหม"
"ผมแค่ต้องการให้พ่อเซ็นสัญญายกผมให้กับเขาและให้น้องชายของผมไปเป็นน้องชายบุญธรรมของเขา"
"ไม่มีทางค่าตัวของพวกแกต่างก็รู้กันอยู่ว่าแพงขนาดไหนฉันไม่มีทางยกน้องชายของแกให้แกไปฟรีหรอกฉันจะเอามันไปขายเมื่อมันโตขึ้น"
ปัง!!!!
กรี๊ดดดดดด!!!!!!!
เสียงโวกเวกโวยวายดังขึ้นเมื่อตัวของคุณโอโซนลั่นไกลปืนยิงเข้าที่แขนของพ่อผมทำเอาผมตกใจในทันทีและผมต้องมองมือของพ่อที่กำมีดปอกผลไม้ไว้แน่น ผมคำนวณระยะทางแล้วดูเหมือนว่าพ่อจะเข้ามาทำร้ายผม ที่อยู่ใกล้ที่สุด ผมได้แต่มองพ่อ ด้วยสายตาที่เจ็บปวดรีบคว้าตัวน้องชายที่ตัวสั่น อย่างน่าสงสารเข้ามากอด ก่อนจะเดินไปอยู่ข้างหลังของคุณโอโซน
"ลงนามนี่ซะแล้วแกจะปลอดภัยแถมเจ้านายของฉันจะมอบเงินให้เป็นทุนให้แกไปตั้งหลักใหม่"
"ฉันยอมฉันก็ได้แต่แกอย่าฆ่าฉันเลย"
"ฉันเป็นโอเมก้าก็จริงแต่ฉันอีกครึ่งนึงก็เป็นอัลฟ่าเหมือนกับแก แกก็ควรรู้เอาไว้ซะว่าอย่ามาเก่งให้มันมากนักแกก็ไม่แตกต่างอะไรจากเศษขยะที่เกาะชายกระโปรงผู้หญิงไปวันๆสิ่งที่กระทำกับลูกชายตัวเองแบบนี้ แกระวังตัวไว้ให้ดีหากแกยังวุ่นวายกับคุณพลับพลึงอีกหรือเด็กคนนี้อีกแกจะถูกเก็บหายสาบสูญไปจากบนโลกใบนี้ทันทีนี่เป็นคำพูดของเจ้านายที่ฝากมาเชิญแกไว้"
"ได้สิฉันสัญญาว่าฉันจะไม่ยุ่งเกี่ยวอะไรกับเด็กคนนี้อีกฉันสัญญาจะทำอะไรฉันเลยลูกฉันกำลังเล็กและอีกอย่างประชาฉันกำลังจะคลอด"
"นั่นมันเรื่องของแกแต่ที่แน่ๆก็คือแกอย่ายุ่งกับคุณพลับพลึงอีก เซ็นซะ"