บทที่ 3 แปลกใจหรือไม่ คาดไม่ถึงหรือไม่
เมื่อชิงจั๋วเห็นว่านายหญิงของตนเองไม่เป็นอะไรมาก จึงรับปากฉู่หวูโยวว่า จะไม่รบกวนฮองไทเฮา โดยจะดูแลฉู่หวูโยวด้วยตนเองอย่างสุดความสามารถ
ถึงแม้พลังในการปัดมือของไป๋อี้เฉินจะมหาศาล แต่โชคดีที่ไม่ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นกระดูกหัก
ฉู่หวูโยวพักผ่อนหนึ่งคืน ร่างกายจึงไม่รู้สึกเจ็บปวดมากนัก เรี่ยวแรงก็ฟื้นฟูขึ้นมาไม่น้อย
ฉู่หวูโยวติดนิสัยตื่นนอนแต่เช้า ตอนตื่นนอน ชิงจั๋วยังไม่มา นางจึงเดินตรงไปที่กระจก
เมื่อคืนชิงจั๋วคอยเฝ้าอยู่ตลอดเวลา ทำให้นางยังไม่มีโอกาสได้เห็นรูปร่างหน้าตาในตอนนี้ว่าเป็นเช่นไร
ตอนที่เห็นเงาของคนผู้นี้ในกระจก แม้กระทั่งตัวนางเองก็อดที่จะตกใจไม่ได้
รูปร่างหน้าตาเช่นนี้ช่างอัปลักษณ์จริง ๆ ผิวหนังที่ดำคล้ำเช่นนี้ ดำเสียยิ่งกว่าผู้ชายธรรมดาหลายเท่า
มีคำกล่าวเอาไว้ว่า ความขาวสามารถปกปิดความอัปลักษณ์ได้สามประการ ความสดใสของหญิงสาวจะดูลงลงอย่างยิ่งเมื่อนางมีผิวพรรณที่หมองคล้ำ อีกทั้งหางตาของนางยังเชิดขึ้นเล็กน้อยอีกด้วย สิ่งทำให้เสน่ห์ที่ควรมีนั้นจางหายไป
ฉู่หวูโยวยกมือขึ้นลูบหน้าของตนเองโดยไม่รู้ตัว เพียงแต่ในขณะที่มือสัมผัสเข้ากับใบหน้า กลับต้องชะงักไปอย่างกะทันหัน
ความรู้สึกเช่นนี้ไม่ปกติ !
ถึงแม้ขณะลูบผิวหนังนี้ จะรู้สึกไม่แตกต่างจากผิวหนังของคนธรรมดานัก แต่นางกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า ผิวหนังนั้นต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน
แววตาของฉู่หวูโยวเป็นประกายเล็กน้อย นางรีบหยิบอ่านน้ำขึ้นมา แล้วเริ่มชำระล้างใบหน้านี้ เพียงแต่ล้างไปพักใหญ่ ก็ยังไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นแม้แต่น้อย
ดวงตาของฉู่หวูโยวค่อย ๆ หรี่ลง หลังจากสังเกตอย่างละเอียดอยู่พักใหญ่ มุมปากก็เผยรอยยิ้มจาง ๆ ออกมา
ก็แค่ใช้ของกันน้ำบางอย่าง
ลูกไม้ตื้น ๆ เช่นนี้ ไม่ยากเกินความสามารถของนาง
หลังจากผ่านไปสักพัก ฉู่หวูโยวก็กลับไปยืนที่หน้ากระจกอีกครั้ง เมื่อเห็นเงาสะท้อนของใบหน้าที่ปรากฏขึ้นในกระจก ฉู่หวูโยวก็รู้สึกเคลิบเคลิ้มไปเล็กน้อย
นางโตมาจนป่านนี้ เห็นสาวงามมาก็มาก แต่กลับไม่เคยเห็นใครที่งดงามขนาดนี้มาก่อน ต้องบอกว่าฉู่หวูโยวผู้นั้น เป็นหญิงงามที่ไร้ที่ติจริง ๆ
แต่ทว่า เมื่อเทียบกับใบหน้านี้แล้ว เกรงว่าฉู่หรูเสว่คงน้อยกว่าหนึ่งในสิบเสียด้วยซ้ำ
ตอนนี้ ฉู่หวูโยวไม่อาจสรรหาคำที่จะอธิบายความสวยนี้ได้เลย
ว่าแต่ ใบหน้าที่งดงามอย่างเห็นได้ชัดเช่นนี้ ทำไมจึงต้องปิดบังอำพรางจนดูอัปลักษณ์เช่นนั้น ?
ดวงตาของฉู่หวูโยวหรี่ลงเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดา ร่างเดิมสติปัญญาไม่สมประกอบ ไม่มีทางวางแผนและมีความสามารถขนาดนี้ได้อย่างแน่นอน
เรื่องนี้เกรงว่าจะมีคนจงใจ !
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังมีจุดประสงค์อะไร แต่ฉู่หวูโยวรู้ดีว่า ตอนนี้นางจะแหวกหญ้าให้งูตื่นไม่ได้
ถึงแม้ตอนนี้นางจะเป็นปกติแล้ว แต่หากเปิดเผยใบหน้าที่งดงามเหนือใครในใต้หล้าเช่นนี้ออกมา คงเป็นภัยอย่างแน่นอน
ฉู่หวูโยวแต่งหน้ากลับไปในสภาพเดิมอย่างเงียบ ๆ
ฉู่หวูโยวรู้สึกว่า ในเมื่อนางย้อนเวลากลับมามีชีวิตต่อแทนร่างเดิมแล้ว ก็ควรทำอะไรบางอย่างเพื่อร่างเดิมบ้างถึงจะถูก ยกตัวอย่างเช่น การแก้แค้น เป็นต้น
เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ นางทำความเข้าใจอย่างชัดเจนผ่านความทรงจำของร่างเดิม
ฉู่หวูโยวรู้ดีว่า นางไม่ตาย และไม่ปัญญาอ่อนอีกต่อไป แน่นอนว่า ย่อมมีคนอดไม่ได้ที่จะมาลองทดสอบดู ถึงตอนนั้น นางจะต้องเตรียมรับมือให้ดี
“นายหญิง ท่านกำลังทำอะไรหรือเจ้าคะ ?” ชิงจั๋วเห็นคุณหนูของตนเองตื่นนอนตั้งแต่เช้าตรู่ และกำลังจัดขวดใบเล็ก ๆ จำนวนหนึ่งอยู่ ไม่รู้ว่าในขวดเหล่านี้บรรจุอะไรอยู่ ? และเอาไว้ใช้ทำอะไร ?
ชิงจั๋วรู้สึกว่า หลังจากนายหญิงหายเป็นปกติแล้ว ก็มีท่าทีที่ดูแปลกประหลาดขึ้น
แต่ไม่ว่าจะแปลกประหลาดเช่นไร ก็ยังเป็นนายหญิงของนางอยู่ดี
“กำลังเตรียมอาหารชั้นเลิศ เอาไว้ใช้รับรองแขก” ฉู่หวูโยวง่วนอยู่กับงาน พลางตอบออกมาอย่างสบาย ๆ
อาหารชั้นเลิศ ? นางเห็นเพียงแค่ขวดใบเล็ก ๆ และภายในขวดเหล่านั้นก็บรรจุผงแปลก ๆ บางอย่าง ไม่เห็นอาหารชั้นเลิศอะไรเลยสักอย่าง อีกทั้งจะมีใครที่ไหนมาเป็นแขกที่นี่กัน ?
พระยายังไม่กลับมา ส่วนฮองไทเฮาเอง หลายวันมานี้ก็ได้ยินมาว่าทรงประชวรเล็กน้อย
แล้วใครกันที่จะมา ?
ฉู่หวูโยวกลับไม่ได้สนใจชิงจั๋ว เอาแต่ง่วนอยู่กับงานของตนเอง นางเชื่อว่าอีกไม่นานนัก จะต้องมี “แขก” มาถึงอย่างแน่นอน
“แขกผู้มีเกียรติ” มาเยี่ยมเยือน นางย่อมต้องต้อนรับเป็นอย่างดี
มองดูขวดใบเล็ก ๆ ที่วางอยู่ตรงหน้า ฉู่หวูโยวก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ดูเหมือนว่ายังขาดอะไรไปบางอย่าง ?
เมื่อกวาดสายตามองดู พบว่ามีรังมดอยู่ตรงโคนต้นไม้ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก แววตาของนางก็เป็นประกายขึ้นมาทันที
หาเจอแล้ว มันนี้แหละ !
มดเหล่านั้นไม่ใช่สีดำ แต่มีสีแดงหรือสีน้ำตาลเจือปน นี่คือมดคันไฟชนิดหนึ่ง
ตรงปลายหางมีพิษ หางถูกแทงเข้าไปจะเกิดแผลพุพอง
ฉู่หวูโยวหยิบขวดเปล่าขึ้นมาหนึ่งใบ แล้วรีบดินตรงเข้าไปข้าง ๆ ต้นไม้ แล้วใช้กิงไม้สองกิ่งจับมดเข้ามาใส่ไว้ในขวดอย่างรวดเร็ว
“คุณหนู ท่านกำลังทำอะไรหรือเจ้าคะ ?” บรรดาสาวใช้เข้ามามุงดู ต่างก็ทำสีหน้างุนงง
เห็นได้ชัดว่าชิงจั๋วเองก็รู้สึกงุนงงด้วยเช่นกัน
“น้องหญิง คุณหนูเฟิงและคุณหนูไป๋ตั้งใจมาเยี่ยมเจ้าโดยเฉพาะ แต่ต้องการมาขอโทษเจ้าเรื่องเมื่อวานนี้” ประจวบเหมาะกับในเวลาเดียวกันนี้ น้ำเสียงอันนุ่มนวลของฉู่หรูเสว่ก็ดังขึ้นพอดี
ฉู่หรูเสว่ยังไม่ทันจะพูดจบ ทั้งสามคนก็เดินเข้ามาถึงด้านในแล้ว โดยไม่คิดที่จะขออนุญาตเจ้าของห้องเลยสักนิด
เมื่อทั้งสามเห็นฉู่หวูโยวที่กำลังจับมดอยู่ก็ผงะไป
แววตาของฉู่หรูเสว่แฝงไปด้วยความสงสัย นี่ฉู่หวูโยวกำลังทำอะไรอยู่ ?
เช้าวันนี้ นางจงใจใช้ให้คนไปเรียกเฟิงหยูหลันและไป๋ยี่หยูมา ก็เพื่อให้นางทั้งสอง มาช่วยกันทดสอบหญิงปัญญาอ่อนผู้นี้
ชิงจั๋วหรี่ตาลง เก็บซ่อนความไม่พอใจเอาไว้บนใบหน้า แต่เมื่อนายหญิงของตนเองยังไม่ออกคำสั่ง นางก็ไม่อาจไล่ใครออกไปได้โดยพลการ
ฉู่หวูโยวทำเหมื อนไม่ได้ยินคำพูดของฉู่หรูเสว และไม่สนใจเฟิงหยูหลันกับไป๋ยี่หยู ยังคงตั้งใจและจริงจังกับการจับมดของนางต่อไป
“น้องหญิงหวูโยว เรื่องเมื่อวานนี้ เป็นความผิดของข้าเอง ข้าไม่ควรหลบ หากข้าไม่หลบ พี่เฉินคงไม่ทำร้ายน้องหญิงโดยไม่ได้ตั้งใจเพื่อปกป้องข้า” เฟิงหยูหลันเผยรอยยิ้มที่คิดเองเออเองว่างดงามที่สุดออกมา
สิ่งที่เฟิงหยูหลันทำเรียกว่าขอโทษเสียที่ไหน เห็นได้ชัดว่ากำลังผลักความผิดทั้งหมดมาให้ฉู่หวูโยว อีกทั้งยังต้องการยั่วเย้าฉู่หวูโยวอย่างเช่นที่ผ่านมาอีกด้วย
เฟิงหยูหลันเดินมายืนอยู่ข้าง ๆ ฉู่หวูโยว และใบหน้ากลับไม่ปรากฏความรู้สึกผิดเลยสักนิด แววตาทั้งสองข้างที่จ้องมองฉู่หวูโยวต่างเต็มไปด้วยการดูถูก
ฉู่หรูเสว่บอกว่าฉู่หวูโยวหายจากอาการปัญญาอ่อนแล้ว นี่นะหรือที่ว่าไม่ปัญญาอ่อน ? หากไม่ปัญญาอ่อนแล้วจะมานั่งจับมดอยู่เช่นนี้หรือ ?
นางเกรงว่าฉู่หวูโยวจะปัญญาอ่อนยิ่งกว่าเก่าเสียมากกว่า
ฉู่หวูโยวยังคงจริงจังและตั้งใจอย่างยิ่งในการจับมดของตนเอง และเห็นพวกนางเป็นเหมือนอากาศธาตุโดยสมบูรณ์
ชิงจั๋วได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกโมโห แต่กลับเห็นนายหญิงของตนเองไม่พูดไม่จา และไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใด ๆ
ชิงจั่วรู้ดีว่า ตอนนี้นายหญิงของตนเองไม่ปัญญาอ่อนอีกต่อไป ไม่แน่ว่านายหญิงของตนอาจมีแผนการบางอย่างก็ได้
ชิงจั๋วยืนนิ่งอยู่ข้าง ๆ คุณหนูของตนเอง และมองดูคุณหนูของตนเองจับมดอย่างมุ่งมั่น
ถึงแม้เฟิงหยูหลันและไป๋ยี่หยูจะรู้สึกไม่พอใจขนาดไหน แต่เมื่อมีชิงจั๋วยืนอยู่ตรงนี้ พวกนางเองก็ไม่กล้าแผลงฤทธิ์ใด ๆ ออกมา
ชิงจั๋วเป็นคนสนิทที่เก่งกาจที่สุดของฮองไทเฮา และเป็นหนึ่งในนางกำนัลที่ฮองไทเฮาทรงวางพระทัยมากที่สุด และเป็นผู้ที่ฮองไทเฮาทรงส่งมาดูแลฉู่หวูโยวโดยเฉพาะ
ถึงแม้จะเป็นนางกำนัล แต่บรรดาคุณหนูอย่างพวกนางก็ไม่อาจล่วงเกินได้