1
ทุกอย่างยังเหมือนเดิม
หญิงสาวใบหน้าสวยงามแต่ซีดเซียวลืมตาตื่นขึ้น เธอจ้องมองเพดานด้วยสายตาที่พร่ามัวและเห็นว่าห้องแห่งนี้มีหลอดไฟ LED ติดตั้งอยู่ เมื่อมองไปตามร่างกายของตนเองพบว่าทั่วตัวเธอเต็มไปด้วยสายระโยงรยางค์เต็มไปหมด ในห้องเงียบสงัดมีเพียงเสียงเครื่องพ่นไอน้ำแผ่วเบา เธอปรับสายตาเพื่อโฟกัสมองทุกสิ่งทุกอย่างให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง
เสียงรถเข็นสเตนเลสแบบที่ใช้กันในโรงพยาบาล ถูกลากผ่านห้องเธอไป พยาบาลเวรแง้มประตูดูสิ่งผิดปกติภายในห้อง คนตัวเล็กที่นอนอยู่บนเตียงได้ยินเสียงเปิดประตูเลื่อนและเห็นแสงไฟลอดผ่านเข้ามาในห้องพักของเธอพยาบาลคนนั้นเหมือนจะเดินผ่านไปแล้ว
แต่ประตูปิดไม่สนิท
เธอจะอ้าปากร้องเรียกแต่เพราะหลับไปนาน ทำให้เวลานี้แทบไม่มีเสียงพูด
เมื่อคิดว่าควรส่งสัญญาณให้ใครสักคนรับรู้ว่าตอนนี้เธอมีสติตื่นแล้ว คนป่วยจึงสอดส่ายสายตาไปรอบ ๆ ตัว
อ้ายฉิงไม่รู้ว่ามานอนแบบนี้มานานเท่าไหร่ แต่คิดว่าจะนานพอสมควร เพราะกล้ามเนื้อแขนที่ไม่ได้ใช้งานเลยค่อนข้างไม่มีเรี่ยวแรง ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจใช้แรงทั้งหมดที่มีคว่ำเครื่องอะไรสักอย่างที่วางอยู่ตรงหัวเตียง
เสียงดังลั่นห้อง พยาบาลที่เพิ่งเข็นรถผ่านไปเมื่อครู่ เงี่ยหูฟังเสียงผิดปกติ เธอมั่นใจว่าได้ยินเสียงของหล่นในห้องวีไอพี ว่าแต่ห้องนั้นเป็นห้องของคุณหนูตระกูลดังที่นอนหลับเป็นเจ้าหญิงนิทรามาราว 4 ปีแล้วไม่ใช่เหรอ
พยาบาลสาวลองตัดสินใจเปิดเข้าไปพิสูจน์ให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้หูฟาดคิดไปเอง สวิตช์ไฟในห้องถูกเปิดออก แสงสว่างสาดส่องไปทั่วห้อง เครื่องฟอกอากาศขนาดเล็กที่เคยวางอยู่บนหัวเตียงหล่นลงมากองกับพื้น พยาบาลสาวทำท่าจะไปก้มลงไปเก็บกวาด
“คะ คุณ”
เสียงแหบพร่าของผู้หญิงคนหนึ่งทำให้เธอหันเหความสนใจไปที่เตียงนอน
“คุณหนูเล็กเสิ่น” พยาบาลสาวดวงตาวาวโรจน์ ผู้ป่วยที่ติดเตียงมาอย่างยาวนานเกิดฟื้นขึ้นในคืนนี้ราวกับปาฏิหาริย์
พยาบาลสาวไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นรีบกดกริ่งตามหมอเวรในทันที เมื่อผู้บริหารโรงพยาบาลทราบเรื่องที่คนไข้วีไอพีฟื้นขึ้น ทีมแพทย์ต่าง ๆ ก็ถูกส่งมาที่ห้องของอ้ายฉิง ทุกคนกรูกันเข้ามาจนห้องที่เคยใหญ่โตดูเล็กไปเลย อาจารย์หมอทุกแผลกที่เกี่ยวข้องกับการรักษาต่างวนเวียนมาตรวจร่างกายเธอ ตอนนี้ทุกอย่างอลหม่านวุ่นวาย อ้ายฉิงที่เพิ่งลืมตาตื่นได้ไม่นานรู้สึกสับสนเวียนหัวจนอยากหลับ จะพูดให้พวกเขามาอีกทีตอนเช้า พวกเขาก็ไม่เปิดโอกาสให้เธอพูดเลยสักนิด
“อาจารย์หมอกู้ ฉันหลับไปนานเท่าไหร่” อ้ายฉิงถามอาจารย์หมอประจำครอบครัว
“นายท่านจะเป็นคนบอกคุณหนูเองครับ”
“อ้อ” ริมฝีปากแหกผากของเธอตอนนี้สร้างความเจ็บปวดให้เธอไม่น้อย
พยาบาลสาวที่เป็นเวรดูแลคุณหนูเล็กเสิ่นเห็นดังนั้นจึงขออนุญาตทาปิโตรเลียมเจลลี่ให้ อ้ายฉิงนอนนิ่งไม่พูดอะไร ก็ถือว่ารู้ความอยู่เหมือนกัน
รอเวลาจนผ่านไปราว 3 ชั่วโมง อาจารย์หมอส่วนใหญ่ทยอยกลับไปจนหมดแล้วเหลือเพียงอาจารย์หมอกู้กับพยาบาลเวรเท่านั้นที่ยังรั้งอยู่
“คุณพยาบาลคะ ตอนนี้กี่ทุ่มแล้ว”
พยาบาลสาวดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือของตัวเอง
“เที่ยงคืนพอดีค่ะ”
เวลานี้อ้ายฉิงอยากเจอหน้าคุณพ่อ คุณแม่ พี่ชายสองคน แต่ว่า...ยกเว้นผู้หญิงคนนั้น
อาจารย์หมอกู้รับโทรศัพท์ ชายวัยกลางคนออกไปพูดที่นอกห้อง เนื่องจากที่นี่เป็นห้องวีไอพี ของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ห้องพักจึงค่อนข้างเก็บเสียงอ้ายฉิงจึงไม่ได้ยินการสนทนานั่น แต่ก็พอจะเอาออกว่าเป็นสายจากใคร
ไม่นานชายวัยกลางคนในชุดกาวน์ก็กลับเข้ามา สีหน้าเขาเหมือนลังเลที่จะพูด ไม่รู้ว่ามีเรื่องยากอะไรที่ทำให้อาจารย์หมอลำบากใจขนาดนั้น อ้ายฉิงจึงบอกให้เขาพูดมาได้เลยตามสบาย
“อาจารย์กู้พูดมาได้เลยค่ะ ไม่ต้องเกรงใจฉัน”
“เอ่อ... คือว่า วันนี้คนตระกูลเสิ่นไปเลี้ยงฉลองยอดขายกันที่เกาะ A คงจะมาหาคุณหนูตอนนี้ไม่ได้” อาจารย์กู้ตัดสินใจพูดเรื่องที่เขาทราบให้คนป่วยฟัง
“งั้นเหรอคะ” ดวงตาคู่สวยเศร้าสร้อย ไม่ว่าจะที่ไหน ไม่ว่าจะใครในครอบครัวก็ล้วนแล้วแต่ไม่ใส่ใจเธอ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะอาจารย์หมอ เป็นฉันผิดเองที่ฟื้นขึ้นมาในเวลานี้”
“คุณหนู” อาจารย์กู้รับรู้ได้ถึงความเสียใจในน้ำเสียง แม้เธอจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่ภายในใจร้าวรานไปถึงไหนแล้วกันนะ
อ้ายฉิงเหม่อมองออกไปที่นอกหน้าต่างเวลานี้ฝั่งตรงข้ามของตึกเต็มไปด้วยอาคารสูง แสงไฟยามค่ำคืนระยิบระยับเต็มไปหมด เธอนึกถึงหมู่บ้านชาวประมง หมู่บ้านที่เธอได้ใช้เวลาสุดท้ายร่วมกันกับเขา
แค่คิดถึงหลี่เฉินกง น้ำตาเธอก็ไหลอาบแก้ม แม้ช่วงต้นของเรื่องราวจะดูไม่ค่อยมีความสุขนัก แต่บั้นปลายชีวิตที่เหลืออยู่ในตอนนั้นก็ถือเป็นช่วงเวลาที่เธอรักมันที่สุด
“ว่าแต่อาจารย์กู้คะ ตกลงบอกฉันได้ไหมว่าฉันหลับไปแบบนี้กี่ปีแล้ว”
ชายวัยกลางรู้สึกสงสาร ผู้หญิงคนนี้จึงยอมบอก
“นับจากวันที่คุณหนูประสบอุบัติเหตุและถูกส่งมารักษาตัวที่นี่ก็เป็นเวลาราว ๆ 4 ปีแล้วครับ”
อ้ายฉิงได้ยินก็อึ้งไป เธอหลับติดเตียงอยู่ในโลกนี้ 4 ปี แต่ในโลกอดีตเธอใช้เวลานานกว่านั้น
“เหอะ 4 ปี” เธอหัวเราะอย่างขมขื่น “ตอนนี้ฉันก็อายุ 29 แล้วสินะคะ ยังไม่ได้ใช้ชีวิตทำอะไรเลย ตื่นมาก็ 29 แล้วซะอย่างนั้น” อ้ายฉิงแกล้งพูดติดตลก “ขอบคุณค่ะอาจารย์กู้”
เมื่อจบการสนทนาทั้งอาจารย์กู้และพยาบาลก็ทยอยออกจากห้องไป
แสงไฟในห้องถูกปิดแล้ว อ้ายฉิงเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ดวงตาคู่สวยปิดลงอย่างแผ่วเบาเธอหลับไปพร้อมกับหยาดน้ำตา...