3 ใครจะโกงเด็กได้
“มาเหนื่อยๆ กินน้ำก่อนสิ แต่มีแค่น้ำเปล่านะ” เขาส่งขวดน้ำให้เธอแล้วตัวเองก็นั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้าม ขณะที่เธอก็เปิดขวดน้ำขึ้นดื่มแต่คงรีบไปหน่อยน้ำก็เลยไหลลงไปยังเสื้อยืดและยิ่งทำให้เขาเห็นชัดเจนเลยว่าภายใต้เสื้อยืดสีขาวนั้นมีความอวบอิ่มซ่อนอยู่ แค่กะด้วยสายตาก็ไม่น่าจะเกินคัพซี และถ้าได้เอาหน้าลงไปซุกตรงนั้นก็คงจะดีไม่น้อย
นายหัวอารัณย์สลัดศีรษะเพื่อไล่ความคิดลามกของตนเองออกและท่องไว้ในใจว่าเพลงขวัญยังเด็ก เขายังจำได้ดีว่าครั้งแรกที่เจอกับเธอตอนนั้นเธอเพิ่งจะ 5 ขวบ
“เอาละ มีอะไรก็ว่ามา”
“เมื่อกี้หนูไปร้านขายของชำของป้านงค์ แล้วป้านงค์บอกหนูว่าบ้านที่หนูอยู่เป็นของนายหัว”
“อือ ป้าแกก็พูดถูก”
“จะถูกได้ยังไง หนูจำได้ว่าตอนย้ายมาอยู่ที่นี่พ่อกับแม่ยังช่วยกันสร้างอยู่เลย หนูว่านายหัวเห็นว่ายายแก่แล้วและคิดว่าหนูคงไม่กลับมาอยู่บ้านใช่ไหมล่ะ ก็เลยคิดจะโกงหนู”
“บ้านฉันก็มี ฉันจะโกงเธอไปทำไม”
“หนูไม่รู้”
“เธอไม่รู้แต่มาปรักปรำฉันถึงบ้านเนี่ยนะเพลงขวัญ ฉันสามารถฟ้องเธอโทษฐานหมิ่นประมาทได้เลยนะ”
“ก็ลองฟ้องดูสิ หนูจะได้ประกาศให้คนรู้กันไปเลยว่านายหัวที่แสนดีของชาวบ้านโกงแม้กระทั่งเด็ก” เพลงขวัญเถียงคอเป็นเอ็นใบหน้าเธอแดงก่ำเพราะความโมโห
“ดูแล้วเราคงไม่รู้อะไรเลยใช่ไหม”
“รู้สิ หนูรู้ว่านายหัวกำลังจะโกงหนู”
“คำก็โกงสองคำก็โกง ถ้าฉันทำอย่านั้นจริงๆ ขึ้นมาเธอคิดเหรอว่าจะเอาเรื่องฉันได้”
“แต่นายหัวก็ทำไปแล้วนี่ เสียแรงที่ยายของหนูชื่นชมนายหัวให้หนูฟังทุกครั้งที่โทรหา”
“เธอคิดว่ายายของเธอจะมองคนไม่ออกเหรอว่าใครดีหรือใครร้าย”
“ยายอาจจะหลงคุณเพราะคุณพูดดีด้วย ทำดีด้วยไง”
“เฮ้อ เธอนี่ยังเด็กจริงๆ นะเพลงขวัญ”
“หนูไม่เด็กแล้วนะคะ อายุ 20 ปีแล้ว”
“นั่นสินะ ไม่เด็กแล้ว ถ้าเป็นชาวบ้านแถวนี้ก็คงแต่งงานมีลูกกันไปแล้ว” เขาพูดพลางจ้องใบหน้าและเรือนร่างของคนที่บอกไม่เด็กอย่างพิจารณา ยิ่งได้อยู่ใกล้ก็ยิ่งรู้สึกเพลงขวัญมีแรงดึงดูดทางเพศอย่างมาก ถ้าไม่ติดว่ายายของเธอเคยฝากเข้าให้ช่วยดูแลจนเธอเรียนจบเขาคงได้จับทำเมียไปแล้วแน่ๆ
“นั่นมันเรื่องของคนอื่น นายหัวอย่าพยายามเปลี่ยนเรื่องนะคะ”
“ตามฉันมาในห้องสิ”
“นายหัวจะทำอะไรกลางวันแสกๆ”
“นี่คิดว่าฉันจะทำอะไรเธอเหรอเพลงขวัญ บอกไว้นะรสนิยมของฉันไม่ชอบเด็ก”
“หนูก็ไม่ชอบคนแก่เหมือนกัน” เพลงขวัญมองเขาด้วยสายตาอาฆาต เธอไม่ชอบให้ใครมาเมินใส่แบบนี้เพราะมั่นใจในระดับหนึ่งว่าตัวเองนั้นทั้งสวยและหุ่นดีแต่พอเขาทำท่าทางไม่สนใจแบบนี้ความรู้สึกอย่างเอาชนะก็ทำให้เธอคิดแผนการที่จะทำให้นายหัวยอมถอนคำพูดที่ว่าไม่ชอบเด็ก
แต่มันยังไม่ใช่ตอนนี้เพราะวันนี้เธอตั้งใจจะคุยกับเขาเรื่องบ้านให้เรียบร้อยเสียก่อน
เพลงขวัญเดินตามเขามายังห้องทำงานแล้วนั่งลงตรงหน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่โดยมีเจ้าของห้องนั่งอยู่อีกฝั่งของโต๊ะ
“เธอดูนี่สิ” นายหัวอารัณย์ส่งกระดาษสัญญากู้ยืมเงินจำนวนสองล้านบาทโดนเอาที่ดินและบ้านเป็นหลักค้ำประกันโดยคนที่ลงลายมือชื่อคือพี่ชายของเธอและมันก็เลยกำหนดไถ่ถอนมาแล้วเกือบหนึ่งปี
“ไม่จริง พี่เพลิงไม่มีทางทำแบบนั้น”
“น้อยไปสิเพลงขวัญพี่ชายเธอเอาที่ดินและบ้านมาจำนองจากนั้นก็ไม่เคยส่งดอกเบี้ยหรือเงินต้นเลยสักบาท เขาไม่ได้ทำแค่นี้หรอกนะ ยายเธอบอกว่าพี่ชายเธอหนีไปพร้อมกับเงินที่พ่อกับแม่ของเธอทิ้งไว้ให้เป็นทุนการศึกษาด้วย”
“เป็นไปไม่ได้ ยายยังส่งเงินให้ฉันทุกเดือน”
“ลองนึกดีๆ นะว่าการส่งเงินให้เธอมันมีอะไรแปลกไปจากเดิมไหมล่ะ”
หญิงสาวนั่งทบทวนว่าที่ผ่านมามีอะไรพอเป็นจุดสังเกตได้ไหม แล้วเธอก็นึกออก ตอนเรียนอยู่ชั้นปีหนึ่งยายจะโอนเงินผ่านธนาคารไปให้ทุกเดือนแต่พอขึ้นปีสองยายใช้วิธีโอนเงินจากแอปพลิเคชันของธนาคารแทน พอเธอถามยายก็บอกว่าให้คนงานในสวนยางช่วยโอนให้เพราะมันสะดวกกว่าการไปที่ธนาคารเอง
“แล้วใครเป็นคนโอนเงินให้ฉันทุกเดือน”
“ก็คนที่เธอกำลังกล่าวหาว่าโกงเธออยู่นี่ไงล่ะ”
“ทำไมต้องโอนให้ฉันด้วย ทำไมยายถึงไม่บอกความจริงกับฉันไปเรียนใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตามประสาวัยรุ่นแต่ยายกลับต้องยืมเงินคนอื่นมาให้ ฉันเป็นหลานที่ใช่ไม่ได้จริง” เพลงขวัญร้องไห้เพราะรู้สึกผิดที่ทำให้ยายของเธอต้องลำบาก
นายหัวอารัณย์ไม่ชอบเห็นน้ำตาคนอื่นแต่เขาจะเดินหนีหรือทิ้งเธอไว้คนเดียวก็ดูจะใจร้ายเกินไป ชายหนุ่มเลยลุกขึ้นแล้วเดินอ้อมมาตบไหล่เธอเบาๆ อย่างให้กำลังใจ แต่คนที่กำลังร้องไห้กลับกอดเอวไว้แน่นจนเขารู้สึกถึงความเปียกชื้นบริเวณหน้าท้องซึ่งหญิงสาวกำลังซบใบหน้าอยู่ เขาได้แต่ยืนนิ่งเพราะกลัวว่าถ้าขยับไปมากกว่านี้ใบหน้าของเธอจะไปโดนอะไรที่มันหลับไหลอยู่ใต้กางเกงยีนสีเข้ม