ตอนที่2 พลังของแต่ละคน
พอมาอยู่รวมตัวกัน ทั้งห้าคนก็โผเข้ากอดกัน ก่อนจะร้องไห้ออกมาเบา ๆ ด้วยความสะเทือนใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภายในใจเจ็บปวดและโศกเศร้า ต่อการจากไปของทุกคนในครอบครัว
“ครอบครัวเราตายหมดแล้ว ต่อไปพวกเราจะอยู่อย่างไร ”ลี่อิงเอ่ยด้วยความเจ็บปวด นำ้ตาค่อย ๆ ไหลอาบแก้มโดยไม่ส่งเสียงสะอื้น
“ข้าต้องแก้แค้นให้ครอบครัวของข้าให้ได้”หานเกอเอ่ยอย่างโกรธแค้น พร้อมกำหมัดแน่น ดวงตาเอ่อล้นคลอไปด้วยน้ำตา
“ใช่ไม่ว่าจะกี่สิบปี ข้าก็ต้องสืบหาความจริง และแก้แค้นให้กับครอบครัวของข้าและทุกคนให้ได้”ตงฮวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจ็บแค้นนัยน์ตาแดงก่ำ
“เรื่องแก้แค้นเอาไว้ก่อนเถอะ พวกเราเพิ่งจะเก้าขวบ ยังอีกนานกว่าจะโตนะ”เจียวจูเอ่ยขึ้น เพื่อให้สหายสงบสติอารมณ์ แม้จะเศร้าเสียใจเพียงใด แต่นางก็พยายามเข็มแข็ง
“ใช่เจียวจูพูดถูก ข้ารู้ว่าทุกคนเสียใจ ข้าเองก็เสียใจไม่น้อยไปกว่าพวกเจ้า แต่ว่าพวกเราต้องมีสติ และวางแผนในการมีชีวิตอยู่ให้ดี จากนั้นค่อยคิดเรื่องแก้แค้น เพราะข้าก็ไม่คิดจะปล่อยให้คนชั่ว ที่มาฆ่าบิดาและมารดาของข้า เอาไว้เช่นเดียวกัน”ซิ่วอิงเอ่ยออกมาแทนความรู้ของร่างนี้
“ชิ่วอิงเหตุใดวันนี้ เจ้าพูดจาแปลกไป ดูมีหลักการและเหตุผล ดูเหมือนคนเป็นผู้ใหญ่พูดกันเลย?”ลี่อิงถามขึ้นอย่างแปลกใจ
“ก็เพราะว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ความคิดของข้าเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว”ซิ่วอิงรีบเอ่ยขึ้น
“ก็จริงนะ”เจียวจูเมื่อไตร่ตรองแล้วก็พยักหน้าเห็นด้วย ถึงนางจะอายุแค่9ขวบ แต่พอเจอเรื่องราวร้าย ๆ ในชั่วข้ามคืน จิตใจก็เหมือนจะสร้างภูมิต้านทาน ให้เข้มแข็งและเติบโตขึ้นโดยอัตโนมัติ
ซิ่วอิงกวาดตามองพวกเขาทั้งสี่คน แล้วก็ฉุกคิดถึงคำพูดของชายชรา พวกเขาทั้งสี่คน รอดชีวิตในครั้งนี้ด้วยกันกับนาง หรือว่าพวกเขาจะเป็นคนที่สวรรค์เลือก ลองดูก็ไม่เสียหายอะไร คิดแล้วซิ่วอิงจึงเอ่ยออกไป
“ช่วงที่ข้าหมดสติไป ข้าได้ไปพบท่านเทพเซียน ท่านเทพมอบกำไลวงนี้ให้ข้ามา และยังให้กายเทพมาอีกด้วย เรื่องนี้เอาไว้ข้าค่อยอธิบาย แต่ว่าข้าอยากพิสูจน์อะไรบ้างอย่าง ข้าอยากให้พวกเจ้า ลองกินเลือดของข้าดูหน่อย”
“กินเลือดของเจ้า!”เด็กทั้งสี่เอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ
“ใช่”พวกเขาพอเห็นสายตากดดันแกมบังคับ ก็พยักหน้ารับแม้จะไม่เต็มใจ
“ก็ได้”
“พวกเจ้าอ้าปากรอ”เมื่อพวกเขาทำตาม ซิ่วอิงก็ตัดสินใจกัดนิ้วตัวเอง ก่อนจะหยดเลือดลงในปากของพวกเขาทั้งสี่
“กลืนลงไป”นางเอ่ยบอก แล้วตั้งตารอคอยว่าจะมีผลเช่นไร ผ่านไปสักพักก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่แล้วร่างของพวกเขา ก็เริ่มเปล่งแสงออกมา ก่อนจะจางหายไป
“ซิ่วอิงบนข้อมือข้ามีรูปเต่าสีดำด้วย”ตงฮวนเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น
“ของข้าเป็นมังกร”ลี่อินเอ่ยขึ้น ดวงตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น
“ของข้าเป็นหงส์แดง”เจียวจูเอ่ยขึ้นมาบ้าง
“ของข้าเป็นเสือโคร่ง”หานเกอเอ่ยอย่างตื่นเต้นเช่นกัน
“งั้นก็แสดงว่าพวกเจ้า คงถูกสวรรค์ลิขิตให้อยู่เคียงข้างข้า เพื่อปกป้องและช่วยเหลือผู้คน เรื่องนี้พวกเจ้าห้ามแพร่งพรายออกไป ”ซิ่วอิงรีบเอ่ยกำชับ การมีพลังเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ไม่ควรเปิดเผยออกไป ดูจากคนร้ายที่มาฆ่าทุกคนในหมู่บ้าน คาดว่าพวกเขาต้องมีเรื่องราวอะไรซ่อนเอาไว้แน่
“เข้าใจแล้ว”
“ต่อไปพวกเราก็ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมารังแก ถึงแม้จะยังเด็ก แต่พวกเราก็สามารถปกป้องคนตนเองได้แล้ว”ตงฮวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงฮึกเหิมและภาคภูมิใจ และนึกกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ อย่าคิดว่าเห็นเป็นเด็ก แล้วจะมาคิดรังแกกันได้
“ซิ่วอิงในตัวข้าเหมือนมีพลังบางอย่างวิ่งไปทั่วร่างเลย”ลี่อิงร้องบอกขึ้นมา พลางก้มมองแขนขาตนเองอย่างตื่นเต้น
“ข้าก็ด้วย”
“คงเป็นพลังของสัตว์เทพที่กำลัง ปรับธาตุให้เข้ากับคนที่ครอบครอง อีกไม่นานก็คงปกติแล้วละ”ซิ่วอิงเอ่ยอธิบาย ก่อนจะครุ่นคิดสวรรค์คงอยากให้พวกเขามีพลังปกป้องตนเอง แบบนี้ก็ดีเพราะว่าพวกเขายังเยาว์วัยนัก
“แล้วเจ้าละซิ่วอิงมีรูปอะไรที่ข้อมือ”ลี่อินเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ ซิ่วอิงพอถูกถามก็รีบยกข้อมือขึ้นมาดู ก่อนจะเห็นรูปดอกบัวสีทองอยู่ตรงข้อมือ
“ของเจ้าเป็นดอกบัวหรอกหรือ”พวกเขาพึมพำออกมา ก่อนตงฮวนจะรีบเอ่ยขึ้น “พวกเขาเป็นสัตว์แต่นางกลับเป็นดอกไม้ แปลกจริง”
“ซิ่วอิงพวกข้าจะยกให้เจ้าเป็นหัวหน้า ต่อไปไม่ว่าจะทำอะไรพวกเราจะเชื่อฟังเจ้า เพราะเมื่อก่อนพ่อของเจ้า ก็เป็นหัวหน้าในหมู่บ้าน ตอนนี้เจ้าก็มาเป็นหัวหน้าแทนแล้วกัน”
“ใช่ ๆ ข้าเห็นด้วย”
“หากพวกเจ้าอยากให้ข้าเป็นข้าก็จะเป็น ถ้าเช่นนั้นในฐานะที่ข้าเป็นหัวหน้า พวกเรารีบนอนเอาแรงกันดีกว่า อีกหลายชั่วยามถึงจะเช้า พรุ่งนี้ค่อยมาคิดกันว่าจะเอาอย่างไรต่อไป”
“ได้เอาตามนี้”เด็กน้อยทั้งสี่กล่าวขึ้นพร้อมกัน ก่อนจะพากันขดตัวนอนในพื้น ใต้พุ่มไม้ใหญ่อย่างว่าง่าย ไม่นานก็พากันหลับ โชคดีที่ช่วงนี้เป็นฤดูร้อน อากาศในยามค่ำคืนจึงไม่ได้หนาวเย็นมากนัก
ซิ่วอิงมองกล่องในมือพร้อมครุ่นคิด หากว่ากล่องไม้ขยายได้ตลอดเวลา หากยามมีภัยพวกนางจะพาพวกเขาเข้าไปหลบข้างใน จะได้หรือเปล่านะ เรื่องนี้ต้องลองทดสอบดู หากทำได้ ต่อไปก็ไม่ต้องกังวล เพราะมีที่หลบภัยที่ปลอดภัยอยู่กับตัว
ที่นางคิดแบบนี้เพราะพลังที่มี เอาไว้ใช้ในยามจำเป็นน่าจะดีกว่า เพราะหากคนรู้มากไปอาจไม่เป็นผลดี อีกอย่างนางและพวกเขา ต้องเรียนรู้พลังของตนเอง ว่ามีขีดจำกัดมากน้อยเพียงใด ถึงจะใช้มันได้อย่างถูกวิธี
เช้าของวันใหม่มาเยือน ดวงอาทิตย์เริ่มเปล่งแสงกระทบท้องฟ้า แสงแดดยามเช้าปลุกให้ร่างของของเด็กน้อยทั้งห้าคน รู้สึกตัวลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย ทุกคนหันไปมองแสงของวันใหม่ เพื่อจะย้ำเตือนกับตนเองว่า ต่อไปพวกเขาจะต้องเริ่มใช้ชีวิต โดยปราศจากบิดามารดาในวัยเพียง9ขวบ
ซิ่วอิงมองสีหน้าของพวกเขาสี่คนอย่างสงสาร นางที่เติบโตมาจนมีอายุ22ปีแล้ว ความเข้มแข็งจึงมากกว่าหลายเท่า การสูญเสียครั้งใหญ่ในเวลาเดียวกันของพวกเขา นางรู้สึกเห็นใจเป็นที่สุด
“อย่าเสียใจไปเลย อย่างน้อยพวกเรายังมีกันและกันนะ” ทั้งสี่คนหันมามองซิ่วอิง ด้วยน้ำตาของความเศร้าเสียใจ และคิดถึงครอบครัวที่จากไป
“พวกเราต้องเอาคืนพวกเขาไม่วันใดก็วันหนึ่ง เพราะฉะนั้นพวกเจ้าต้องเข้มแข็ง และรอวันที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เพื่อเอาคืนคนชั่วพวกนั้น”คำพูดของซิ่วอิง ทำให้พวกเขามีกำลังใจขึ้นมาอย่างน่าประหลาด ใช่แล้วต้องเข้มแข็งเพื่อรอวันเอาคืน
“ซิ่วอิงแล้วพวกเราจะไปอยู่ที่ไหน?”ลี่อินถามขึ้นด้วยสีหน้าเศร้าและเป็นกังวล
“เจ้าอย่าได้กังวล ข้ามีเงินเดี๋ยวพวกเรามาสร้างบ้านหลังใหม่กัน”
“แล้วถ้าหากพวกเขากลับมาจะทำอย่างไร?”เจียวจูถามขึ้นมาบ้าง เพราะหากคนร้ายกลับมา ต้องไม่ปล่อยพวกเขาเอาไว้แน่
แต่แล้วตงฮวนก็เอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่ตื่นเต้น ทำให้ทุกคนต้องหันไปมอง
“ซิ่วอิงหลังจากข้าหลับไป ข้าก็ฝันว่าได้ไปพบเทพเต่าดำ เขาช่วยสอนวิชาพลังยุทธให้ข้าอีกด้วย”ตงฮวนเอ่ยขึ้นด้วยความตื่นเต้น
“ใช่ ๆ ข้าก็ลืมเล่า ข้าก็ฝันเห็นพยัคฆ์ขาว เขายังบอกให้ข้าตั้งใจฝึก เพื่อจะได้ปกป้องตนเองและผู้อื่นได้ หานเกอเอ่ยเล่าขึ้นมาเช่นกัน
“ข้าก็ได้พบเทพมังกรฟ้า เขาสอนข้าฝึกวิชาและยังบอกให้ข้าเข้มแข็ง”ลี่อินกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าภูมิใจ
“ข้าก็ได้พบเทพหงส์แดง วิชาที่นางสอนยอดเยี่ยมมาก นางยังบอกอีกว่า ทุกครั้งที่ข้าหลับจิตวิญญาณของข้า จะเข้าไปยังอีกมิติหนึ่ง เพื่อฝึกฝนวิชา ให้เป็นหนึ่งอันเดียวกัน”เจียวจูเอ่ยขึ้น ซิ่วอิงรับฟังด้วยใบหน้าพอใจ พวกเขาได้เริ่มฝึกวิชาแล้วสินะ แบบนี้ก็ดีนางจะได้ไม่ต้องกังกลและเป็นห่วง
ส่วนนางเหมือนจะไม่ต้องฝึกฝนอะไรมากนัก เหมือนวิชาต่าง ๆ จะอยู่ในร่างของนางอย่างน่าอัศจรรย์ เพียงตั้งจิตให้มั่นคง ก็สามารถดึงพลังและปราณยุทธ ออกมาใช้ได้อย่างง่ายดาย สิ่งพิเศษและมหัศจรรย์เช่นนี้ เหมือนสวรรค์มอบให้นาง เพื่อเตรียมรอรับศึกหนัก ในวันข้างหน้าอย่างไรไม่รู้ แต่ก็ช่างเถอะทำวันนี้ได้ดีที่สุดก็แล้วกัน
แต่สิ่งที่นางมั่นใจก็คือ คนร้ายที่ลงมือฆ่าทุกคนในหมู่บ้าน แล้วจัดการเผาทำลายทุกอย่าง ต้องมีจุดประสงค์อย่างอื่นที่สำคัญมากเป็นแน่ และนางต้องสืบเรื่องนี้ให้กระจ่าง และแก้แค้นเหล่าคนชั่ว เพื่อเป็นการสร้างบุญกุศล ให้กับวิญญาณทุกคนที่จากไป และที่สำคัญเพื่อตอบแทน ซิ่วอิงที่ให้นางได้มาศัยอยู่ในร่างของนาง
