ตอนที่6 แค่กอด2
สายตาคมโชนแสงร้อนแรงแห่งอารมณ์กระสันแข่งกับเปลวเพลิงของไฟบนเทียนไข กำลังจับจ้องสายตาหยาดเยิ้มของคนใต้ร่างอย่างรอฟังคำตอบ
หญิงสาวคลี่ยิ้มงดงาม พาริมฝีปากแดงช้ำหวานฉ่ำน่าหลงใหล แต่นางกลับตอบกลับว่า “รอก่อนเถิด”
ใบหน้าหล่อเหลาเผยความรู้สึกผิดหวังเด่นชัด น้ำเสียงเริ่มขัดเคืองขึ้นมา “ทำไมเล่า?”
นิ้วเรียวยาวขาวเนียนของฟางหลันเอื้อมขึ้นมาลูบสันกรามเรียวแกร่งของหยวนจงเบาๆ คล้ายปลอบประโลมกัน
แล้วไล้แผ่วไปที่ริมฝีปากเขา คลึงอย่างยั่วเย้ายวนใจและหลงใหล
หยวนจงถึงกับสั่นสะท้านไปทั่วร่างหนา แก่นกลางกายแข็งตัวจนปวดหนึบไปหมด
เขาปรารถนาจะสอดใส่นางอย่างหื่นกระหาย แล้วควบกระแทกนางบ้าคลั่ง บอกรักนางด้วยลีลาทั้งหมดที่เขามี
แต่ดูเถิด...นางกลับบอกให้รอก่อน!
“ทำไม เจ้าจะให้ข้ารอไปถึงเมื่อไหร่ ข้าจะบ้าตายอยู่แล้ว”
เสียงทุ้มสั่นพร่าเอ่ยออกมาพร้อมขบกรามแน่นด้วยกำลังข่มกลั้นอารมณ์ร้อนแรงของตนอย่างสุดความสามารถ ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำไปหมด กล้ามเนื้อตึงเกร็งไปทุกสัดส่วน
“ข้าจะแต่งเจ้าเป็นภรรยาเอก มีเจ้าคนเดียว”
เขากล่าวตามสัตย์ เรื่องนี้เขาคิดมาโดยตลอด และก็บอกนางมาโดยตลอดเช่นกัน
ฟางหลันยังคงส่งยิ้มงดงามอ่อนหวานพลางตอบกลับเสียงเบาที่หนักแน่นดังหินผา “หลายเดือนที่ผ่านมา ข้าศึกษาเกี่ยวกับธรรมเนียมปฏิบัติบ้านเมืองของท่านจนสิ้น ท่านเป็นถึงแม่ทัพคนสำคัญแห่งราชสำนัก ตระกูลของท่านหรือก็ยิ่งใหญ่ ไหนเลยจักแต่งงานกับสตรีไร้หัวนอนปลายเท้าได้”
“ข้าไม่สนใจ”
หยวนจงเถียงออกมา
“แต่ข้าสน” หญิงสาวยังไม่ยอมลงให้ “ท่านเคยได้รับความอัปยศมาแล้วครั้งหนึ่งจากการแต่งงาน ข้าจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนกล้าหัวเราะเยาะท่านอีก เพราะต้องมาแต่งงานครั้งใหม่กับหญิงไร้ค่าผู้นี้”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชายเหนือร่างพลันชะงักนิ่ง
ประโยคเหล่านี้ ล้วนสร้างความอบอุ่นให้แก่หัวใจของหยวนจงอย่างประหลาด
“ฟางหลัน...”
สายตาเรียวสวยของหญิงสาวยังคงจับจ้องที่ใบหน้าหล่อเหลานิ่งๆ นางเผยความจริงใจออกมาจากนัยน์ตาคู่งาม
“ที่ข้าบอกให้ท่านรอ ก็เพราะข้ากำลังสร้างเนื้อสร้างตัว สร้างฐานะให้คู่ควรกับท่านอย่างไรเล่า อีกไม่นานหรอกน่า”
หยวนจงถึงกับคลี่ยิ้มออกมา ความร้อนเร่าในร่างหนาเริ่มบรรเทากลายเป็นความรู้สึกอุ่นชื้นในหัวใจ
ความเสน่หาในตัวนางและความปรารถนาในตัวเขายังคงเข้มข้นไม่จางไป เพียงแต่การรังแกกันมิอาจทำได้ เขาไม่อาจหักหาญน้ำใจนาง
“ก็ได้...”
ในที่สุดเขาก็ควบคุมอารมณ์ร้อนแรงของตนให้สงบลง แม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม “ข้าจะรอเจ้า”
ฟางหลันพยักหน้าน้อยๆ พาพวงแก้มแดงระเรื่อขยับขยุกขยิกเฉียดปลายจมูกโด่งสัน ทำให้หยวนจงอดใจเอาไว้ไม่ได้ ต้องก้มลงหอมนางฟอดใหญ่
“อื้อ” หญิงสาวร้องลั่นพลางเบี่ยงหน้าหนี “พอแล้ว”
“อีกนิดนะ” ผู้ถูกห้ามปรามนอกจากไม่ฟังยังเอาแต่ใจ หอมแก้มนางอีกหลายทีทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ทั้งยังจรดริมฝีปากร้อนผ่าวแต้มไปทั่วลำคอระหง ตามด้วยไล้ปลายลิ้นเลียเนื้อนวลไปเรื่อยๆ จนถึงเนินอกอวบอิ่ม
“...!?”
ฟางหลันถึงกับเสียววาบร่างสั่นสะท้าน บิดตัวเร่าๆ
เขาเปิดผ้านางเมื่อใดกันนี่!?
“พอแล้ว!” หญิงสาวหน้าดำหน้าแดงตะเบ็งเสียงดังพลางเอื้อมมือขึ้นกอบกุมสันกรามของโจรราคะตรงหน้าอกหยุ่นนุ่ม
หยวนจงถอนใบหน้าที่กำลังซุกไซ้อย่างเมามันออกมาแล้วหัวเราะแหบห้าว ก่อนจะพลิกตัวลงจากร่างบางแล้วตวัดอ้อมแขนแข็งแรงดึงนางเข้าสู่อ้อมอกอบอุ่น
“พอก็ได้” เขากระชับนางแนบแน่นจนร่างนุ่มจมเข้าแผงอกแกร่ง “ให้ข้ากอดเจ้าทั้งคืนได้ไหม?”
ฟางหลันยู่หน้าที่แดงก่ำไปทั่ว รู้สึกร้อนวูบวาบหวามไหวไม่จางหาย บ่นพึมพำอู้อี้ตรงแผงอกฟังไม่ออกเลยสักคำ
เพราะใบหน้านางถูกกล้ามเนื้อเขากลืนเข้าไปจนสิ้น
แม่ทัพหนุ่มไม่สนใจว่าคนงามกำลังบ่นสิ่งใด เขาเพียงกอดกระชับนางไว้ แล้วค่อยๆ หลับตาซึมซับความรู้สึกอุ่นลึกที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นนี้ จนล่วงเข้าสู่นิทรารมย์
ไม่เคยมีใครสักคน ที่เขาได้แค่กอด แล้วนอนหลับสบายเท่านางตรงนี้เลย
นางมารของเขา…