บท
ตั้งค่า

ตอนที่3 เถ้าแก่เนี๊ยคนงาม1

หลายราตรีผันผ่าน

ในที่สุดหยวนจงก็ได้กลับเข้าเมืองหลวง

แสงตะวันยังคงร้อนแรง แต่หนทางจากปลายเท้าเข้าวังหลวงเหลืออีกไม่ไกลเท่านั้น ไม่ถึงสองชั่วยามก็สามารถเข้าวังไปรายตัวได้แล้ว

หากแต่หยวนจงกลับไม่ทำ เพราะในระยะไม่กี่ลี้จากนี้ คือโรงเตี๊ยมร้อยห้องที่เขาต้องผ่านทาง

เสียงทุ้มต่ำของแม่ทัพหนุ่มจึงดังออกมา

“เข้าพักที่โรงเตี๊ยมข้างหน้า”

“หา!”

รองแม่ทัพที่ติดตามพากันอุทาน

“อีกหนึ่งชั่วยามสามเค่อก็เข้าวังหลวงแล้วนะขอรับ”

“ข้าเหนื่อยแล้ว”

“...”

หยวนจงตอบแค่นั้น ก่อนพาร่างสูงใหญ่เดินไปเรื่อยๆ

“พักก่อน แล้วเดินทางต่อ นี่คือคำสั่ง”

“...”

จบคำของแม่ทัพหนุ่ม รองแม่ทัพกับหัวหน้ากองต่างหันมองหน้ากันไปมาด้วยสีหน้าเหลอหลา ไม่เข้าใจเอาเสียเลยว่า ท่านแม่ทัพจะพาเดินทางอ้อมเมืองทำไม แล้วเหตุใดต้องเข้าพักทั้งที่ยังไม่พลบค่ำ

แต่สงสัยไปก็เท่านั้น มิสู้เข้าพักแล้วสั่งอาหารเลิศรสมากินให้อิ่มท้อง แล้วนอนหลับให้สบายดีกว่า

เบื้องหน้าของเหล่าทหารคือโรงเตี๊ยมร้อยห้อง ซึ่งแท้จริงแล้วมีเพียงยี่สิบห้อง อีกแปดสิบห้องยังไม่มี และชื่อนี้ก็ตั้งเอาไว้เพื่อรองรับภายภาคหน้าก็เท่านั้น

เมื่อทุกคนเดินเข้ามายังโรงเตี๊ยม สิ่งแรกที่เห็นก็คือหลงจู๊ตัวโตหน้าตาเหี้ยมโหดคอยต้อนรับ

เหล่าทหารพากันผงะถอยหลังไปถึงสองก้าว ก่อนจะพากันเดินเข้าด้านในด้วยหัวใจเต้นแรงโครมครามประหนึ่งเจอสาวงามเปลื้องผ้า

หลังจากนั่งที่โต๊ะเรียบร้อยดีแล้ว เสี่ยวเอ้อร์ก็เดินเข้ามาบริการด้วยท่าทางปราดเปรียวผิดกับรูปลักษณ์ที่ตัวใหญ่กล้ามแน่นหน้าดุ

เหล่าทหารพากันผงะอีกครา มิคาดว่าโรงเตี๊ยมแห่งนี้จะมีลูกน้องน่ากลัวเหลือเกิน

“ที่นี่มีอาหารใดขึ้นชื่อบ้าง” รองแม่ทัพเผิงเอ่ยถามด้วยท่าทางห้าวหาญกร้าวแกร่ง หมายข่มขวัญเสี่ยวเอ้อร์ผู้น่ากลัว

“อาหารของที่นี่รสเลิศทุกอย่างขอรับนายท่าน” เสี่ยวเอ้อร์ตอบอย่างนอบน้อม น้ำเสียงทุ้มนุ่ม ผิดกับหน้าตาท่าทาง

พาเอาเหล่าทหารลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก อาการตัวเกร็งหายไปทันที

หยวนจงที่นั่งนิ่งตรงหัวโต๊ะเพียงกวาดสายตาคมเข้มมองไปทั่วโรงเตี๊ยม เห็นมีคนงานรูปร่างสูงใหญ่แผ่กลิ่นอายดำทะมึนเต็มไปหมด เขาไม่แปลกใจเลยสักนิดกับลักษณะของคนงานที่นี่

เพราะทุกคนล้วนเป็นสมุนของสำนักหมื่นโลกันต์ ที่ได้รับคำสั่งว่าให้ช่วยกันดูแลโรงเตี๊ยมแห่งนี้

โดยมีเถ้าแก่เนี๊ยนามว่าฟางหลันเป็นเจ้าของ

ดวงตาของหยวนจงทอประกายชั่วร้าย มุมปากยกยิ้มร้ายกาจทันที ยามมองหาเถ้าแก่เนี๊ยคนงาม

นามว่าฟางหลัน

เวลาผ่านไปราวครึ่งเค่อเท่านั้น

อาหารหอมกรุ่นก็ถูกนำมาวางบนโต๊ะอย่างนุ่มนวลโดยฝ่ามือหนาของเสี่ยวเอ้อร์กล้ามใหญ่

ทุกถ้วยล้วนสวยงามน่ากิน เมื่อได้ลิ้มรสก็ให้รู้สึกติดใจ รสชาติดีทุกอย่าง

รองแม่ทัพและหัวหน้ากองพากันกิน ไม่เงยหน้าจากถ้วยเลยทีเดียว

“ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดท่านแม่ทัพจึงต้องการมาพักที่นี่ อาหารของเขาเลิศล้ำไม่เบา”

หัวหน้ากองเอ่ยชมทั้งๆ ที่ข้าวเต็มปาก

“จริงแท้ รสชาติดียิ่ง” รองแม่ทัพอีกคนชมบ้างตามด้วยซดน้ำแกงเสียงดัง

ริมฝีปากของหยวนจงพลันยกโค้งมากกว่าเดิม เขารู้สึกภูมิใจยิ่ง ประหนึ่งสามีกำลังรับคำชมแทนภรรยา

ในขณะที่ทุกคนกำลังกินอาหาร เสียงดังโครมครามพลันดังมาจากทิศหนึ่งของโรงเตี๊ยมด้านใน

เพียงชั่วอึดใจเดียว ก็มีชายหนุ่มรูปงามผู้หนึ่งถูกโยนออกมาอย่างไร้ปรานี ตามด้วยเสียงหวานตวาดก้องว่า

“พามันผู้นี้ออกไป อย่าให้เข้ามาเหยียบที่นี่อีก มิเช่นนั้นข้าจะจับมันตอนเสีย!”

เหล่าทหารพากันหันมองอย่างตกใจจนตะเกียบเกือบหลุดมือ ลูกค้าที่นั่งอยู่ถัดไปไม่กี่โต๊ะก็ตกใจไม่แพ้กัน

ส่วนหยวนจงเพียงเงยหน้าขึ้นมองเงียบๆ

ชายหนุ่มผู้ที่ถูกโยนออกมานั้น มีสภาพย่ำแย่มาก ใบหน้าหล่อเหลาของเขาบวมเป่ง ริมฝีปากมีรอยเลือดซึม

เขาพยายามลุกขึ้นด้วยท่าทางอ่อนแรง ยามเอ่ยเสียงกดต่ำด้วยความลำบาก

“เจ้า...เจ้า” เขาเอ่ยได้แค่นั้น พยายามลุกขึ้นมองผู้ที่โยนเขาออกมาอย่างไม่ไยดี “เจ้า...” เสียงสั่นเหลือเกิน มิรู้ได้ว่าโกรธหรือเจ็บ หรือว่าอับอายกันแน่

เพียงชั่วครู่ เจ้าของเสียงหวานก็เดินตามออกมา พาชุดสีแดงพลิ้วไหวโผล่พ้นมุมห้อง เผยใบหน้างดงามสะดุดตา

นางเป็นสตรีร่างระหง เป็นโฉมสะคราญปานล่มเมือง ดวงตาเรียวยาวโดดเด่นแต่ทอประกายดุร้าย นางยกมือขึ้นกอดอกเชิดหน้าคำรามต่อว่า “ข้าทำไม หือ...ข้าทำไม...”

นางหรี่ตาลากเสียงยาวพร้อมสืบเท้าย่างสามขุมเข้าใกล้ แผ่กลิ่นอายอันตรายคุกคามไปทั่วบริเวณ

นัยน์ตาของชายผู้นั้นฉายแววหวาดหวั่น แต่ยังคงทำใจดีสู้เสือ ตั้งท่าจะเดินเข้าหาแล้วฟาดฝ่ามือใส่

หญิงสาวเพียงยืนนิ่งเชิดหน้ารอปะทะ ไร้ท่าทีกลัวเกรงใด

แต่ทว่าเสี่ยวเอ้อร์ตัวใหญ่กลับพุ่งปราดเข้ามา แล้วจับกระชากชายผู้นั้นเหวี่ยงกระเด็นออกนอกประตูโรงเตี๊ยมไป

“อ๊า...” เสียงของมันลอยไปกับสายลมแล้วถูกแสงแดดกลืนหายในที่สุด

“ไอ๊หยา!” หลงจู๊หน้าโหดอุทานเสียงดังยามเดินเข้าหาสตรีชุดแดงแล้วโอดครวญ

“หัวหน้าฟางหลันทำร้ายลูกค้าอย่างนี้มิได้นะขอรับ มันผู้นั้นเป็นคุณชายเงินถุงเงินถังเชียว เสียดายๆ”

“หึ!” ฟางหลันแค่นเสียงไม่พอใจ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel