ตอนที่ 5 ยอมรับขะตากรรม
ฉิงชวนเหม่อลอย เดินเหมือนคนไร้สติไปที่สระน้ำ นางคิดจะกระโดดน้ำตายตามคุณหนู เพราะไม่กล้ากลับไปสู้หน้าฮูหยินใหญ่
ระหว่างที่สองขาน้อยๆเดินไปนั้น พลันสองตามองเห็นสตรีนางหนึ่งกำลังเดินเข้ามาใกล้ ดวงตาฉิงชวนเบิกกว้างปากอ้าค้าง ตัวสั่นเทาเหมือนหวาดกลัวต่อสิ่งที่พบเห็น
" คะ คุณหนู ผะ ผี ละ หลอก "
ร่างที่สั่นเทิ้ม พยายามที่จะขยับขาถอยหลัง แต่ขาเจ้ากรรมกับแข็ง ก้าวขาแทบไม่ออก จึงได้แต่ทรุดนั่ง หมอบกราบก้มหน้ากับพื้น
" คุณหนู อย่ามาหลอกหลอนฉิงชวนเลยเจ้าคะ บ่าวกลัวแล้ว บ่าวกำลังจะตามไปรับใช้ คุณหนูอย่าเพิ่งโกรธบ่าวเลยนะเจ้าคะ "
มิรินที่ตอนนี้อยู่ในร่างของเสวี่ยไป๋ ยิ้มออกมาได้ สงสารก็สงสาร ขำก็ขำ กับภาพที่พบเห็น นางคนนี้คงคิดว่านายตนเองเสียชีวิตแล้วแน่แท้ แต่ก็นั่นแหละ เสวี่ยไป๋ตายไปแล้วจริงๆ ที่เห็นๆอยู่ก็เพราะวิญญาณของมิรินใช่ร่างกายนางอยู่ เท่านี้รอยยิ้มก็หุบลงทันที
" เฮ้อ! "
ถอนหายใจให้กับชะตากรรมของตัวเอง เมื่อคิดทบทวนไปแล้ว ตอนนี้ก็ยังหาทางแก้ไขอะไรไม่ได้ จะหาทางกลับไปโลกแห่งความเป็นจริง ก็ช่างเลือนราง เอาวะ! จำยอมอยู่ในร่างแม่นางร้ายนี้แล้วกัน
อย่าคิดอะไรมาก ถือเสียว่าเรามาช่วยให้ร่างกายเสวี่ยไป๋คนเดิมมีโอกาสกลับตัวกลับใจได้ทำความดีกับเขาบ้าง เพื่อที่จะอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับวิญญาณของนางเอง
" ฉิงชวน ๆ ข้ายังไม่ตาย "
" บ่าว บ่าวไม่เชื่อเจ้าคะ บ่าวเห็นกับตา " ฉิงชวนยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้น กลับตัวสั่นเป็นเจ้าเข้ามากกว่าเดิม
มิรินไม่รู้จะทำยังไง จึงนั่งคุกเข่าลงเอามือจับแขนของฉิงชวน
" ข้าสั่งให้เจ้าเงยหน้าขึ้นมองหน้าข้าดีๆ หรือเจ้าอยากโดนโบยสัก 10 ที เพื่อเรียกสติก่อน "
ได้ผล ฉิงชวนค่อยๆเงยหน้าขึ้นมอง แม้จะมีท่าทางหวาดกลัวอยู่
" มือที่ฉัน เอ๊ย ข้าจับแขนเธอ ไม่ใช่สิ เจ้า มือที่ข้าจับแขนเจ้ายังอุ่นอยู่ใช่หรือไม่ "
มิรินพยายามจะเป็นเสวี่ยไป๋ให้เหมือนที่สุด แต่การใช้ภาษาสมัยโบราณนั้นต่างจากปัจจุบันมาก
ฉิงชวนมัวแต่กลัวผี จึงไม่ได้เอะใจกับท่าทีที่แปลกไปของนายสาว ค่อยๆเอื้อมมือ ไปกุมมือบางๆของผู้เป็นนาย เมื่อเห็นว่ายังอุ่นๆอยู่จริงๆถึงกับปล่อยโฮ ออกมา
" ฮือๆๆๆคุณหนูของบ่าว ยังไม่ตายจริงๆเจ้าคะ บ่าวเสียใจที่ช่วยคุณหนูไม่ได้ ฮือๆๆๆ! บ่าวสมควรตาย ฮือๆๆๆ "
มิรินตกใจทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าถ้าเป็นเสวี่ยไป๋ นางจะทำยังไง โดยพื้นฐานนางไม่เคยสนใจใครนอกจากตัวเอง เรื่องแค่นี้มีแต่นางจะด่าซ้ำ อาละวาด เอาโทษที่ดูแลนางไม่ดี
แต่มิรินไม่ใช่ เอาไงเอากัน ไหนๆจะเปลี่ยนให้นางร้ายเป็นคนดีแล้ว เป็นตัวของตัวเองแล้วกัน ใครจะสงสัยก็ช่างเถอะ
" ลุกขึ้น เถอะ ฉิงชวน หาใช่ความผิดของเจ้าไม่ แล้วหยุดร้องไห้เสีย ดูสิเนื้อตัวก็มีแต่บาดแผล "
เสวี่ยไป๋คนใหม่พยุงให้บ่าวรับใช้คนสนิทลุกขึ้น ฉิงชวนมองอย่างแปลกใจ
ทันใดนั้นมีชายสองคนวิ่งมาหาพวกเธอ เป็นบ่าวที่ถูกส่งมาดูแลที่นี่นั้นเอง พวกนั้นคุกเข่าลง
" คุณหนูรอง มาทำอะไรที่นี่ขอรับ มีอะไรให้ข้าน้อยรับใช้ ขอรับ "
" พวกเจ้าหายหัวไปไหนหมด คุณหนูเกือบจมน้ำตาย ข้าร้องเรียกให้ช่วย ใยพวกเจ้าไม่มา " ฉิงชวนมองตาเขียว นางอยากเอาเรื่องไอ้พวกนี้ให้ถึงที่สุด
" ข้า ข้าทำงานอยู่ฟากนู้น ไม่ได้ยินเสียงไรเลยขอรับ คุณหนู " พวกมันสบตากัน เดิมทีคิดว่านางตายแล้ว เลยจะเดินมาดู แต่พอมาถึง กับเห็นนางอย่างมีชีวิตอยู่ ถ้าไม่โดนท่านเพ่ยยวิ๋นลงโทษ ก็คงถูกคุณหนูชุนหลันจัดการเป็นแน่แท้ พลางคิดหาทางหนีทีไล่
" เยี่ยงนั้นรึ ข้านึกว่าพวกเจ้ารู้เห็นกับชุนหลัน ที่จะให้ข้าจมน้ำตายเสียอีก "
บ่าวชายสองคนหน้าซีด ตกใจ ไม่คิดว่าคุณหนูรองจะรู้ว่าเป็นแผนการของชุนหลัน ที่ใช้ เงิน ซื้อตัวพวกเขา แต่รีบพากันเปลี่ยนสีหน้าทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
" พวก ข้าน้อย ไม่รู้เรื่องอะไรเลยขอรับ "
" เอาเถิด ข้าจะไม่เอาเรื่องพวกเจ้า ในเรื่องที่เกิดขึ้น ข้ามีงานให้พวกเจ้าทำ จงดำน้ำลงไป เอ่อๆ ไปดูว่ามีอะไรอยู่ในน้ำหรือไม่ "
บ่าวทั้งสองแม้จะงงๆแต่ก็ยอมลงน้ำไป ดำผุดดำว่าย สักครู่หนึ่งก็ขึ้นมารายงานว่า ไม่เจออะไรเลย
" พวกเจ้า ไม่เห็น ร่างของใครจมอยู่ในน้ำรึ "
" ไม่ ขอรับ "
ฉิงชวนกับบ่าวชายทั้งสองมอง เสวี่ยไป๋ที่กำลังเดินกลับไปกลับมา อย่างสงสัย
มิรินกำลังใช้ความคิด ในเมื่อเธออยู่ในร่างของเสวี่ยไป๋ แล้วร่างกายของเธอก็ควรจะอยู่ใต้น้ำสิแต่นี่ไม่มี เกิดอะไรขึ้นกันกับตัวเธอกันแน่
เสวี่ยไป๋เห็นบ่าวพากันมองจึงหยุดเดิน ตอนนี้นางเริ่มรู้สึกหนาว แล้วก็หิวมากด้วย
" เอาล่ะ กลับจวนกันเถอะ ข้าเหมือนจะไม่สบาย ส่วนพวกเจ้าไม่ต้องกลัวว่าข้าจะเล่นงานหรอก แต่จงกลัว คุณหนูชุนหลันของพวกเจ้า นางอาจกลัวว่าจะโดนซัดทอดไปถึงตัวนาง อาจจัดการพวกเจ้าให้พ้นทางก็ได้ "
บ่าวชายพากันสบตากัน คิดตามสิ่งที่คุณหนูรองพูด