บทที่ 2 ตอนที่ 3
เมื่อทักทายผู้หลักผู้ใหญ่อย่างเป็นทางการแล้ว กันหาและเนื้อทองก็หาที่นั่งเหมาะๆ ชมการแสดงบนเวที สักพักเมื่อเหล่าแขกผู้มีเกียรติกลับไปแล้ว อัศเวทย์ก็มาคอยดูแลด้วยอีกที
"พี่แทนไม่ดื่มเหล้าเหรอคะ..." กันหาเอ่ยปากถามในขณะที่เธอและเนื้อทองมีเพียงน้ำผลไม้และขนมนิดๆ หน่อยๆ นั่งกินเพลินๆ
"ทำไมเหรอ หืม..."
"งานประจำปีทั้งที หม่อนอยากให้พี่แทนได้ผ่อนคลายบ้างค่ะ เครียดมาเป็นปีๆ เจ้านายก็ต้องการฟื้นฟูสภาพจิตใจและร่างกายด้วยเหมือนกันนะคะ ไม่ใช่แค่ลูกน้อง"
"พี่ดื่มมาแล้วนิดๆ หน่อยๆ กับกำนันแล้วก็ท่านปลัดน่ะ"
"อ่อค่ะ..."
"หม่อนเหนื่อยไหม...อยากกลับไปพักหรือยัง" ชายหนุ่มจับมือภรรยาสาว ลูบไล้เบาๆ ด้วยความอ่อนโยน
"ยังค่ะ คงนั่งฟังเพลงอีกสักพัก พี่แทนไม่ต้องห่วงหม่อนหรอกค่ะ ไปสนุกกับพวกคนงานเถอะ"
"ไม่เป็นไร พี่อยู่นี่แหละดีแล้ว..."
ทั้งคู่พูดคุยกันราวมีกันอยู่เพียงสองคน เหตุการณ์แบบนี้เนื้อทองค่อนข้างชินเสียแล้ว หล่อนรู้สึกโหวงเหวงชอบกลเช่นกัน อาจเพราะอยู่ในช่วงวัยที่อยากจะเรียนรู้เรื่องรักๆ ใคร่ๆ แต่ไม่เคยได้เปิดโอกาสให้กับตัวเองเลย
"พี่แทนดูนี่สิคะ..." จู่ๆ กันหาก็ยกขวดโหลใบหนึ่งขึ้นมาวางบนโต๊ะ พร้อมแก้วเรียบร้อย อัศเดชย์ยิ้ม ก่อนจะเอ่ยถามหล่อน
"นี่เมียพี่พกยาดองด้วยแล้วรึ...เห็นหน้าสวยๆ นึกว่าชอบจิบไวน์ที่ไหนได้..."
"พี่แทนบ้า! นี่ไร่ฝั่งโน้นเขาฝากพี่ยะมาให้ค่ะ หม่อนก็บอกพี่ยะให้เอามาให้พี่แทน แกลืมซะงั้นเพิ่งจะเอามาให้หม่อนเมื่อกี้เองค่ะ ตอนที่พี่แทนคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่อยู่ เห็นว่าดองสมุนไพรร้อยแปด สรรพคุณนี้เกินเทพเชียว" พูดพลางกันหาก็หัวเราะเบาๆ กึ่งขำกึ่งเย้าผู้เป็นสามี
"งั้นหม่อนก็ดื่มเป็นเพื่อนพี่สิ...หืม..."
"ถ้าหม่อนดื่มได้คงไม่เหลือถึงพี่แทนหรอกค่ะ" หล่อนยังหัวร่อต่อกระซิก ไม่ทันมองว่าอีกฝ่ายกำลังจ้องเนื้อทองซึ่งนั่งก้มหน้าไม่พูดไม่จาอย่างมีเลศนัย
"เนื้อทอง!"
"คะ!! นาย คือนายมีอะไรจะใช้เนื้อทองเหรอคะ" เด็กสาวเลิ่กลั่กรีบเงยหน้าขึ้นมาตอบ กะพริบตาถี่ๆ จนน่าขัน
"เอานี่หน่อยไหม..." เขาชูขวดโหลบรรจุแอลกอฮอล์ที่รสเผ็ดเข้มข้นกว่าเหล้าเพียวๆ ด้วยซ้ำไป เนื้อทองเห็นเช่นนั้นก็เบ้หน้า กลืนน้ำลายเหนียวลงคอฝืนๆ ทันที หล่อนคงตายแน่...ถ้าต้องดื่มมันเข้าไปแม้เพียงสักหยดเดียว เพราะตั้งแต่เกิดมาของพรรค์นี้ไม่เคยแตะต้องเลยด้วยซ้ำไป
"ไม่เอาค่ะ เนื้อทองไม่เคยดื่ม...มันเหม็น..."
"เอาหน่อยน่า...นิดเดียวเอง ไม่ถึงตายหรอก ไหนบอกโตเป็นสาวแล้วของพวกนี้ก็ต้องหัดเอาไว้บ้าง เวลาออกสังคมไปกับเพื่อนกับฝูงได้ทันเขา" ว่าแล้วชายหนุ่มก็โบกมือเรียกคนงานให้นำแก้วเหล้ามาให้ เขารินน้ำสีน้ำตาลเข้มใส่แก้วใบเล็กนั้นและส่งยื่นให้เนื้อทองอย่างไม่รีรอ
"เอาสิ..."
"..." หล่อนหันไปมองกันหาเผื่อจะพอเป็นที่พึ่งได้บ้าง
"เอาเถอะจ้ะ นิดเดียวนานทีพี่แทนจะใจดีกับเนื้อทองแบบนี้นะ" คนนั่งข้างที่คอยลุ้นอดที่จะแขวะสามีไม่ได้ คงตั้งใจจะแกล้งเด็กสาวนั่นแหละ ส่วนจุดประสงค์อื่นหล่อนแทบจะมองไม่เห็น
อัศเวทย์จับแก้วเหล้ายัดใส่มือเล็กโดยไม่ลังเลเมื่อเห็นเจ้าหล่อนยังไม่ยอมยินดีไปกับคำเชิญของเขา ในที่สุดเนื้อทองก็ต้องจำใจยกน้ำสีเข้มนั้นเข้าปากดื่มมันเข้าไปอย่างฝืนๆ
"แค่กๆๆๆ" สิ่งแรกที่รู้สึกเมื่อกระดกจนหมดแก้ว คือความร้อนของน้ำค่อยๆ ไหลเข้าสู่ร่างกายของหล่อนเป็นทางจนรับรู้ได้ชัดเจน จากนั้นก็แสบร้อนในลำคอพะอืดพะอมพิกล กลิ่นเหล้าฉุนขึ้นจมูกจนเหม็นเหียน...
"เนื้อทอง! เป็นยังไงบ้าง พี่แทนพอแล้วค่ะ..."
"พี่ยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย แค่ให้ลองจิบ เอาล่ะ...ถ้าแค่นี้จะเป็นจะตายก็กลับไปนอนกินนมซะ อย่างมาวุ่นวายในงานให้รกตาพี่เลย" อัศเวทย์รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันทีเมื่อฝ่ายภรรยามีท่าทีตำหนิเขา กับเนื้อทองแล้วกันหามันจะเข้าข้างถือหางเสียจนเคยตัว
"พี่แทนร้ายกาจที่สุด"
"เอาล่ะ...พี่พาไปดื่มกับคนงานฝั่งโน้นดีกว่า หม่อนอยากกลับบ้านหรือยังพี่จะได้ไปส่งก่อนแล้วค่อยกลับมา หืม"
"เดี๋ยวหม่อนนั่งสักพักดีกว่าค่ะ ให้เนื้อทองได้ตากลมสักหน่อยคงดีขึ้น เรากลับกันเองได้พี่แทนไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ คนของเราเยอะแยะเต็มไปหมด"
"ก็ได้...ถ้ายังไงก็เรียกใครไปเรียกตามพี่ได้นะ"
"พี่แทนไปเถอะ...หม่อนขอให้พี่แทนมีความสุขนะคะ" หล่อนยิ้มเศร้า...จนอีกฝ่ายสะกิดใจ แต่ก็ไม่ได้นึกคาดการณ์ยืดยาว ชายหนุ่มหอมแก้มขาวหอมกรุ่นนั้นด้วยความรักใช้สัมผัสแทนคำพูดเป็นหมื่นเป็นแสน ก่อนจะกอดขวดโหลเดินจากไปยังกลุ่มคนงานที่คุ้นเคย
"เนื้อทอง...เป็นยังไงบ้างจ้ะ ไหวไหม..."
"จะ...อ๊วกค่ะพี่...เหม็น แล้วก็ร้อนด้วย" ฤทธิ์สุราแล่นพล่านไปตามกระแสเลือด ทำให้เด็กสาวรู้สึกร้อนวูบวาบไปหมด หัวใจสั่นระทุก แต่ผิวเนื้อเย็นเฉียบชื้นเหงื่อ
"ถ้างั้นกลับบ้านกันเถอะ เดินได้หรือเปล่า มา...พี่ช่วย"
"เนื้อทองไหวค่ะ แต่พี่หม่อนอย่าเดินเร็วนะคะ เวียนหัวจังเลย"
กันหาประคองร่างเล็กสะโอดสะองค่อยๆ พากันเดินกลับไปยังเส้นทางเดิม ปริมาณของยาดองที่เนื้อทองดื่มเข้าไปนั้นไม่ได้มากมาย แต่เป็นเพราะหล่อนไม่เคยแตะต้องของมึนเมาจึงทำให้มันทำปฏิกิริยากับหล่อนได้ง่ายขึ้น สิ่งเดียวที่อยากทำตอนนี้ก็คือนอนให้เร็วที่สุด กลิ่นฉุนๆ บาดจมูกนั้นยังคงสำแดงเดชไม่เจือจางทุกครั้งที่หายใจ รู้สึกทรมานเหลือเกินจริงๆ
เพียงเล็กน้อยยังเป็นขนาดนี้...แล้วถ้าเป็นคนที่ดื่มเก่งๆ เวลาเมามันจะมากมายขนาดไหน เคยเห็นเคยรับรู้ว่าถึงขั้นเสียชีวิตเสียผู้เสียคนไปเลยก็มี
แต่ทำไมน้ำเมา...ถึงได้ยังเป็นที่นิยมชมชอบกันนัก
