บท
ตั้งค่า

6.เหตุที่คาดไว้

หลังจากตงโฉแนะนำให้ทั้งสองฝึกเพิ่มในส่วนที่ยังด้อยอยู่พวกนางทั้งสองต่างตั้งใจฝึกจนถึงช่วงบ่าย

ซีเหมยยังต้องฝึกเพิ่มในส่วนของวิชาตัวเบาเพราะเพลงดาบบางท่าเธอต้องใช้ความพริ้งไหวแต่นี่เธอกลับต้องใช้แรงกระโดดเข้าช่วยทำให้กำลังกายเธอเสียอย่างสูญเปล่า

ซีซีฝึกเพิ่มในส่วนการความคุมแรงดันของลมปราณเธอใช้ปราณไปในทุกท่าของเพลงดาบมันทำให้ได้รับผลเสียมากกว่าผลดี

"วันนี้พอแค่นี้ก่อนเถอะพรุ่งนี้ค่อยฝึกต่อที่จวน"

ท่านเจ้าเมืองตงโฉรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆหวังว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นในระหว่างที่ตนไม่อยู่ในเมืองหรอกนะ

"ขออภัยท่านเจ้าเมืองมีคนของหน่วยลับมาส่งข่าวขอรับ"

"ให้เข้ามาได้"

สถานการณ์ตอนนี้คงมีการเคลื่อนไหวแล้วซินะตั้งแต่ที่เขาประกาศรับบุตรบุญธรรมตระกูลรองก็ออกมาคัดค้านไม่ยอมรับแต่พอรู้ว่าเป็นบุตรีก็หาทางเข้ามาใกล้ชิดพวกนางเพื่อหวังผลประโยชน์ ช่างหน้าไม่อายเสียเลยมุ่งหวังในอำนาจที่ไม่ใช่ของตน

"ท่านพ่อมีเรื่องอะไรหรือเจ้าค่ะ"พวงนางทั้งสองหยุดมือแล้วเดินมาหาตงโฉด้วยความเป็นห่วง

"พวกเจ้าไปรอพ่อที่รถม้าก่อนเดี๋ยวพ่อจะตามไป"ตงโฉไม่อยากให้พวกนางต้องเป็นกังวลหากพวกนางรู้ว่าสาเหตุมาจากตนคงรู้สึกผิดไม่น้อย

ถึงจะไม่เข้าใจในการกระทำของท่านพ่อแต่ซีซีและซีเหมยก็มุ่งหน้าไปรอที่รถม้าตามคำสั่งของเจ้าเมืองตงโฉ

"ท่านพี่ซีซีคิดว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือไม่" อยู่ข้างนอกพวกเธอต้องพูดเหมือนคนในภพนี้เพื่อไม่ให้ใครสงสัยและจะได้ชินจนติดปาก

"คงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่ท่านพ่อคงไม่อยากให้เรารับรู้ คาดว่าเรื่องนี้คงมีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเราไม่น้อยก็มาก"

เธอพอจะทราบเรื่องมาบ้างหลังจากที่ให้สาวใช้ไปสอดแนมมาใครจะคิดว่าพวกสาวใช้สืบเรื่องเก่งกว่านักสืบทุกสำนักเสียอีกแถมยังมีข่าววงในเรื่องลับๆมาให้แซ่บตลอดๆ

"พวกเรากลับจวนกันได้แล้วข้ามีงานต้องรีบไปสะสาง"

เขาจะไม่ยอมให้เรื่องแค่นี้ต้องทำให้บุตรสาวทั้งสองลำบากใจพวกอาวุโสที่เหลืออยู่ก็มีแต่คนของตระกูลรองแก่แล้วก็ไม่ยอมอยู่เฉยๆ คอยชักใยให้เรื่องวุ่นวายตลอดชอบอ้างกฎที่น่ารำคาญ เห็นทีเขาต้องสำแดงอำนาจให้ตระหนักสักหน่อยไม่งั้นข้าคงไม่ปกครองเมืองมาอย่าสงบเป็นยี่สิบปีหรอก

ตงโฉเผลอปล่อยแรงกดดันออกมาก่อนจะควบม้านำขบวนไปอย่างรวดเร็วเพราะตนกลัวจะแสดงอาการที่มากไปแต่มีหรือที่สองสาวที่คอยลอบสังเกตการณ์จะดูไม่ออกแค่มองดูสีหน้าของท่านพ่อไม่ถึงนาทีแต่ก็ทำให้นางทั้งสองรับรู้ได้

"เห็นที่เรื่องนี้คงใหญ่พอตัวพวกเราคงต้องรอให้วรยุทธ์ดีกว่านี้ถึงจะช่วยท่านพ่อได้"พวกนางไม่อยากเป็นภาระของใครมีแต่อยากปกป้องครอบครัวของเธอมากกว่า ซีซีกล่าวเตือนตัวเองและน้องสาวพวกนางจะต้องแข็งแกร่งกว่านี้

พวกนางรีบขึ้นรถม้าก่อนที่ทหารจะควบให้เร็วกว่าขามานักแสดงให้เห็นว่ารีบกลับเพียงใดพวกนางได้แต่ภาวนาให้ทุกอย่างไม่แย่เกินไปก่อนที่จะสายเกินแก้

บรรยากาศที่ห้องรับรองแขกเหล่าผู้อาวุโสและผู้นำตระกูลรองรุ่นใหม่ต่างนั่งรอคอยการกลับมาของท่านเจ้าเมือง ทุกคนในที่นี้ต่างหวังผลประโยชน์ที่ตนจะได้รับหากการที่มาครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

"เรียนเหลียนฮูหยินท่านเจ้าเมืองได้กลับมาถึงแล้วขอรับ"พ่อบ้านรีบมารายงานทันทีที่ท่านเจ้าเมืองกลับมาเขาหวังว่าท่านเจ้าเมืองจะแก้ไขเรื่องในตระกูลให้จบสิ้นเสียที

"คารวะท่านพี่"

"คารวะท่านเจ้าเมือง"

พอก้าวมาถึงห้องรับรองก็รู้สึกถึงบรรยากาศตึงเครียดและแรงกดดันที่มี ช่างน่าขันยิ่งนักเป็นแค่ตระกูลรองกลับมาเรียกร้องอยากได้ทุกสิ่งเป็นของตัวเขาคงต้องจัดการขั้นเด็ดขาดเสียแล้ว

"เจ้าไปพักผ่อนเถอะฮูหยิน"

เจ้าเมืองตงโฉรีบหาทางให้ฮูหยินตนออกไปให้ห่างจากพวกอสรพิษร้ายพวกนี้และรู้สึกคิดถูกที่ไม่ได้ให้บุตรสาวทั้งสองติดตามเข้ามาด้วยเมื่อเห็นสายตาที่สอดส่องของพวกตระกูลรองยิ่งเจ้าชั่วหลี่เหม่าที่หวังสูงอยากจะได้แต่งกับบุตรสาวตนยิ่งน่ารังเกียจนัก

"เจ้าค่ะ"

นางแย้มยิ้มส่งให้สามีก่อนจะกลับเรือนเพื่อให้สามีของตนได้สะดวกต่อการสะสางเรื่องราว

"พวกท่านมีความเรื่องใดถึงได้ลำบากมาถึงที่นี่กัน" ถึงจะยังไงตงโฉก็คงความสุภาพไว้เฉกเช่นเดิมยิ่งทำให้พวกนั้นได้ใจและแสดงท่าทีถือดีออกมา

"ท่านพ่อไม่น่าไปพูดดีกับพวกปลิงนั้นเลยน่าจะไล่ไปให้หมด"ซีเหมยพูดอย่างเหลืออดพวกนางได้แต่แอบฟังอยู่ห้องข้างๆก็ท่านพ่อไม่ยอมให้พวกนางเข้าไปด้วยนี่ ถึงการแอบฟังเช่นนี้จะเป็นการเสียมารยาทก็ทีเถอะ

"พวกข้าต้องขออภัยที่มารบกวนเพียงแต่ข้าได้ยินเรื่องที่ไม่สมควรจึงอยากมาถามให้แน่ชัด"

หลี่เสี่ยวหลางตาเฒ่าอสรพิษเมื่อครั้งก่อนก็ให้แม่สื่อมาทาบทามบุตรีของเขาให้หลี่เหม่าลูกชายของตนเพียงเพื่อหวังการสืบทอดตำแหน่งเจ้าเมืองในกาลข้างหน้าแม้ว่าลูกชายของตนจะแต่งฮูหยินเข้าบ้านถึงสี่นางแล้ว

พอเขาปฏิเสธไปก็หันมาหาทางเล่นงานเขาเสียช่างเป็นบุคคลที่ไม่น่าเข้าใกล้แม้แต่น้อย

"ท่านหลี่ได้ยินสิ่งใดมาหรือจงบอกข้ามาเถิดหาได้เกรงใจกัน"

คงเป็นเรื่องไร้สาระที่ทำให้เขาปวดหัวเช่นเคยตงโฉได้แต่โครงศีรษะเบาๆ

"เรื่องที่ท่านยอมให้บุตรีของท่านเลือกคู่ครองเองท่านจะทำเช่นนี้ไม่ได้นะท่านเจ้าเมืองจะให้ใครคนอื่นมารับช่วงต่อจากท่านได้ยังไงตระกูลของเราจะต้องแปดเปื้อนมีมลทินก็คราวนี้"

"ท่านอย่าได้กังวลถึงข้อนี้เลยคนที่จะสามารถมัดใจบุตรีของข้าได้นั้นต้องมีความดีและความสามารถอย่างมาก"

นี่คงเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ตงโฉอารมณ์ดีขึ้นสักเล็กน้อยเขาเชื่อมั่นอย่างนั้นถ้าไม่ดีและไม่มีความสามารถคงไม่มีทางที่จะมัดใจบุตรีทั้งสองของตนได้ ก็พวกนางช่างซุกซนและมีความคิดที่แปลกไปบ้างแต่ก็บ่งบอกถึงตัวตนได้ยิ่งนัก

"ท่านควรคิดทบทวนให้ดีรวมถึงเรื่องแต่งงานระหว่างบุตรชายข้าและบุตรีท่านอีกครั้งก็ได้ ถึงอย่างไรตระกูลเราก็ใกล้ชิดกันไม่ถือว่าเป็นคนอื่นคนไกล"

หลี่เสี่ยวหลางไม่ยอมให้สิ่งที่เขาควรจะได้หลุดมือไปให้คนอื่นได้โอกาสนั้นหรอก เขารอแค่เวลาที่ได้มันมาอยู่ในมือแค่นั้นอีกนิดเดียวเขาจะได้ยืนบนหัวของพวกตระกูลหลักที่เคยมองดูแคลนคนอย่างเขามาตลอด ส่วนบุตรสาวทั้งสองของเจ้าเมืองถ้าบุตรชายตนจะอยากรับมาเป็นอนุก็ถือว่าเป็นเกียรติแกพวกนาง หญิงที่ไร้หัวนอนปลายเท้าได้แค่นี้ก็ถือว่าข้าเมตตามากแล้ว

"ที่ท่านมามีแค่สิ่งนี้หรอกหรือ"

ตงโฉยกยิ้มมุมปากทำไมเขาจะไม่รู้จุดประสงค์ที่แท้จริงการที่ยกขบวนมาที่นี่คงไม่ใช่แค่มาถามเรื่องไม่เป็นเรื่องแค่นี้อย่างแน่นอน

หลี่เสี่ยวหลางถึงกับหน้าตึงและด้วยความระแวงถึงสิ่งที่ตนทำอยู่จะแตกออกมา

‘เป็นไปไม่ได้ข้าวางแผนอย่างรอบคอบแล้วไอ้ตงโฉคงจะยั่วอารมณ์หยั่งเชิงของข้าเป็นแน่นฝันไปเสียเถอะว่าข้าจะเสียอาการให้เห็น’

"ข้าเปล่าหาได้มาแค่การนี้ไม่ นี่ก็ใกล้ถึงวันไหว้ศาลหลักเมืองแล้วเลยจะมาขออาศัยที่นี่เพื่อรอวันเพียงเท่านั้น"

เฒ่าอสรพิษพลิกลิ้นอย่างรวดเร็ว ปกติตระกูลรองจะได้แค่พักที่โรงเตี๊ยมของตระกูลเท่านั้นไม่มีสิทธิ์เข้ามาในจวนก่อนเขาจึงฉวยโอกาสนี้เพื่อดูท่าทีของอีกฝ่ายและมันก็ทำให้เขาสะใจนัก

"ถ้างั้นข้าจะให้คนจัดที่พักให้ทุกคนเลยละกัน พ่อบ้านจัดที่พักทางฝั่งซ้ายให้คนตระกูลรองที รับรองให้ดีด้วยละ"

คนที่หัวเสียกลับเป็นหลี่เสี่ยวหลางเสียเองเมื่อเห็นตงโฉไม่ได้มีอารมณ์หรือแสดงอาการอะไรออกมา

‘อยากจะเห็นข้าอารมณ์เสียหรือเจ้าเฒ่า เหอะ อย่าได้หวังว่าจะสมใจ’

ทุกคนในตระกูลรองต่างดีใจที่จะได้เข้าพักที่จวนเจ้าเมืองโดยเฉพาะเหล่าคุณหนูทั้งหลายที่คิดว่าพักที่นี่คงจะสบายกว่าโรงเตี๊ยมเป็นไหนๆ

"ดูหน้าพวกนั้นซิท่านพี่ดีใจมากที่ได้พักที่นี่ ขนาดนั้นเชียว"

ซีเหมยที่แอบมองดูอยู่ข้างนอกเมื่อเห็นสีหน้าของพวกนั้นก็แอบหมั่นไส้เล็กน้อย

"เจ้าอย่าได้เสียงดังไปความคิดคนยากแท้หยั่งถึง เราอาจมองว่าธรรมดาแต่สำหรับพวกละโมบมันอาจเป็นสิ่งที่พวกเขาไข่วคว้าทั้งชีวิตเพื่อที่จะได้มา"

ซีเหมยพยักหน้าอย่างเข้าใจ เธอเข้าใจดีที่ๆจากมานั้นก็มีให้เห็นอยู่มากเธอคงไม่ยอมให้คนเหล่านั้นมาทำในสิ่งที่โหดร้ายที่นี่หรอก

"พวกเรากลับก่อนเถอะ"ซีซีพยักหน้าให้ซีเหมยก่อนจะใช้วิชาตัวเบากลับห้องการฝึกจริงจังในวันนี้ทำให้พัฒนาการทั้งสองก้าวหน้าอย่างมากนี่คงเป็นส่วนหนึ่งของพรที่ท่านเทพให้มา

เช้านี้ที่จวนเจ้าเมืองช่างคึกคักเสียงเจื้อยแจ้วของเหล่าบุตรีตระกูลรองช่างส่งเสียงมาไกลถึงห้องฝั่งขวา ทำไมพวกคุณหนูพวกนี้หาได้มีความเกรงใจไม่ นึกว่าอยู่จวนตัวเองหรืออย่างไรถึงได้ส่งเสียงดังกันแต่เช้ามืด

หลังจากที่ทั้งสองกลับถึงห้องก็ต่างเร่งฝึกลมปราณและวรยุทธ์ของตนเพื่อความก้าวหน้าและไม่ต้องการเป็นภาระให้ท่านพ่อต้องคอยห่วงพวกเธออีกหลังจากฝึกจนค่อนคืนพวกนางทั้งสองค่อยนอนแต่เสียงรบกวนพวกนี้คืออะไรซีเหมยที่ว่าขี้เซาปลุกยากก็ต้องลุกจากเตียง

"น้องจะลอบวางยาถ่ายพวกนั้นโทษฐานที่ทำเสียงรบกวนแต่เช้า"

ความอาฆาตของซีเหมยช่างรุนแรงนักเธอมักจะหงุดหงิดเมื่อนอนไม่เต็มอิ่ม

"เจ้าจะสนใจไปทำไมวันนี้เราก็ออกไปเที่ยวกันแล้ว"

ซีซีพูดจบซีเหมยก็กลับมาคึกคักทันทีใช่ซิเมื่อวานท่านพ่อให้พ่อบ้านมาบอกว่าวันนี้อนุญาตให้พวกนางออกไปเที่ยวได้จนกว่าท่านพ่อจะให้คนไปตามกลับถึงจะสงสัยแต่พวกเธอก็เชื่อในการตัดสินใจของท่านพ่อทุกอย่าง

"วันนี้จะใส่ชุดสีไหนดีน๊าาา"ซีเหมยหยิบชุดออกมาเลือกอย่างอารมณ์ดีเธอหยิบชุดนั้นชุดนี้มาลองทาบตัวอย่างพอใจ

"เดี๋ยวก่อนวันนี้เราจะไม่ไปแบบปกติกัน"

ซีซีพูดพลางยิ้มเจ้าเล่ห์จนซีเหมยเห็นภาพลวงตาว่าตัวพี่สาวตัวเองมีหางและเขางอกออกมา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel