บทที่ 8 กฎระเบียบ
คุณหญิงดวงกมลไม่ยอมให้สามีแก้ต่างแทนลูกสาวเช่นทุกครั้ง วิไลรับคำสั่งของคุณหญิงแล้วเดินออกไปแต่ยังไม่ทันพ้นห้องเสียงสดใสของพาขวัญก็ดังมา
“มาแล้วค่ะ” หญิงสาวเดินยิ้มเข้ามานั่งข้างมารดา
“ยัยขวัญ อย่าทำแบบนี้อีกนะแม่ไม่ชอบถึงเวลาอาหารเราต้องเป็นฝ่ายมารอผู้ใหญ่ไม่ใช่ให้ผู้ใหญ่นั่งรอแบบนี้” คุณหญิงเหลียวมองลูกสาวน้ำเสียงดุเล็กน้อย
“ค่ะ จะไม่ทำอีกค่ะคุณหญิงแม่ ขวัญกราบขอประทานโทษค่ะ ขอโทษคุณพ่อ คุณป้าด้วยค่ะ”
หญิงสาวทำเสียงสำนึกผิดซึ่งพรพรรณรู้ดีว่าหลานสาวแกล้งเพื่อให้มารดาอารมณ์ดีขึ้น
“ไม่ต้องมาอ้อนแม่ไม่ชอบ”
“เปล่าอ้อนค่ะ พูดจริงๆนะคะเนี่ย” สาวน้อยของบ้านยิ้มประจบมารดา
“ทานข้าวดีกว่านะคะ วันนี้มีแต่เมนูสุดโปรดทั้งนั้นเลย ไก่อบชานอ้อยอร่อยมากค่ะคุณแม่ ขวัญชิมมาแล้วค่ะเดี๋ยวขวัญตักให้นะคะ” พาขวัญตักชิ้นไก่ในจานให้มารดาพร้อมคำชมในฝีมือของผู้เป็นป้าไม่หยุดปาก
พรพรรณมองหลานสาวด้วยความสงสัย วันนี้พาขวัญแปลกไปจากทุกวันจริงๆ ตั้งแต่เข้าไปในครัวรับอาสาช่วยหล่อนทำอาหาร อรรถพลมองหน้าลูกสาวด้วยสายตาสงสัยเช่นกัน
“วันนี้ลูกสาวพ่อพูดเก่งกว่าทุกวันนะ” อรรถพลมองหน้าลูกสาวพร้อมกับยิ้ม
“ก็เหมือนทุกวันแหละค่ะ คุณพ่อชิมปลาราดพริกนะคะอร่อยมากค่ะ” หล่อนตักอาหารใส่จานให้บิดาอย่างเอาใจ
“หนูยังไม่ได้ชิมแล้วรู้ได้ยังไงว่าอร่อยมากน่ะ” อรรถพลแกล้งดักคอลูกสาว
“ไม่ต้องชิมก็รู้ค่ะว่าอร่อยมาก ฝีมือคุณป้าพรรณของขวัญซะอย่างอร่อยหมดแหละค่ะจริงมั้ยคะคุณป้า”
พรพรรณยิ้มไม่หลงกลกับคำเยินยอของหลานสาว ถ้าสายตาของผู้ที่ผ่านโลกมาก่อนมองไม่ผิดพลาด หลานสาวของหล่อนต้องมีอะไรสักอย่างที่ไม่กล้าเอ่ยปากพูดกับผู้ใหญ่ในบ้าน ไม่เพียงแต่พรพรรณเท่านั้นที่เห็นความผิดปกติในตัวหญิงสาว อรรถพลก็รู้สึกเช่นเดียวกันแต่เขาทำเฉยเสียรอให้
พาขวัญเป็นคนพูดออกมาเอง
อาหารบนโต๊ะเป็นเมนูโปรดของพาขวัญเกือบทุกอย่างแต่หล่อนทานได้เพียงไม่กี่คำก็รู้สึกอิ่มใช่ว่ารสชาติของอาหารเปลี่ยนไปจากเดิม ทุกอย่างเหมือนเดิมแต่หล่อนทานไม่ลงเองไม่ว่าอาหารจะรสชาติอร่อยสักเพียงใดหล่อนก็ทานไม่ลงจนกว่าจะได้พูดในสิ่งที่ตั้งใจไว้สำเร็จเสียก่อน หล่อนหันมาเอาใจมารดาเป็นพิเศษ เพราะมารดาเป็นคนเดียวที่จะชี้ชะตาของหล่อนว่าจะมีโอกาสเข้าไปหาข้อมูลที่หล่อนต้องการได้หรือไม่
“คุณแม่ทานแกงหน่อยนะ อร่อยมากๆ” หญิงสาวตักแกงเขียวหวานชาววังใส่จานให้มารดา
“ขอบใจลูก” คุณหญิงยิ้มกับการเอาใจของลูกสาวแม้จะรู้สึกแปลกไปนิดแต่ก็ไม่สนใจอะไรมากมายนัก
“คุณแม่ขา นี่ก็อร่อยค่ะ นี่ด้วยค่ะ”
“พอแล้วยัยขวัญ ตัวเองน่ะทานบ้างมัวแต่ตักให้คนโน้นคนนี้” คุณหญิงยกมือปรามลูกสาวแล้วชี้ไปที่จานของลูก พาขวัญจึงต้องกลับมาสนใจอาหารในจานของตัวเอง
การรับประทานอาหารสิ้นสุดลงเมื่อสำเนียงกับวิไลเสิร์ฟวุ้นมะพร้าวในน้ำเชื่อมซึ่งพาขวัญก็ทานได้เพียงสามคำเท่านั้น พรพรรณมองอยู่นานพอหลานสาวเลื่อนถ้วยแก้วออกห่างจึงเอ่ยขึ้น
“ทำไมทานน้อยนักล่ะลูก ป้าทำไว้เยอะเลยนะ”
“ไม่ไหวแล้วค่ะคุณป้า อิ่มมากค่ะ” หลานสาวยกมือแตะที่ท้อง ผู้เป็นป้ามองมาแล้วยิ้ม
“วันนี้อิ่มเร็วผิดปกตินะ” อรรถพลเอ่ยขึ้นแล้วมองหน้าลูกสาว พาขวัญยิ้มน่ารักให้บิดาและป้าก่อนจะหันมาที่มารดา
“ไม่ผิดปกติหรอกค่ะคุณพ่อ เป็นปกติทุกอย่างค่ะ ขวัญอิ่มจริงๆ” พาขวัญยืดตัวขึ้นลูบท้องให้บิดาเห็น คุณหญิงดวงกมลมองมาสายตาตำหนิ
“ทำอะไรน่าเกลียดเป็นผู้หญิงนะเราน่ะ”
“ขอโทษค่ะคุณแม่” พาขวัญไม่เถียงมารดาเพราะหล่อนไม่อยากให้มารดาอารมณ์เสียงเพราะคำพูดเล็กๆ น้อยๆ ของหล่อน สิ่งที่หล่อนอยากพูดยังไม่ได้เริ่มขึ้นก็จะพาลจบลงเสียก่อน ดังนั้นหล่อนจึงพยายามเอาใจมารดาทุกอย่างเท่าที่จะเอาใจได้เพื่อให้การเจรจาของหล่อนสำเร็จไปด้วยดี
ทั้งหมดย้ายจากโต๊ะอาหารมาที่ห้องนั่งเล่น พาขวัญเปิดทีวีให้มารดา กดปุ่มไปที่ช่องละครก่อนข่าวซึ่งกำลังดำเนินเรื่องอย่างสนุกสนาน คุณหญิงไม่สนใจอะไรนอกจากตัวละครในจอทีวี พาขวัญมองมารดาอย่างตัดสินใจ หล่อนต้องกล้าแล้วล่ะถ้ามัวแต่กลัวอยู่อย่างนี้งานที่ตั้งใจจะทำคงไม่สำเร็จอย่างแน่นอน หล่อนสูดลมหายใจแล้วเอ่ยขึ้น
“คุณแม่คะ”