เจ็บปวด
เสียงหนั่นเนื้อกระทบกันส่งเสียงอันน่าอายดังลั่นไปทั่วทั้งห้องนอน “ปั่ก ปั่ก ปั่ก”
แรงขยับของเขาหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ หลี่เจ๋อเปลี่ยนท่าทาง เขาจับขาทั้งสองข้างของหานหยางขึ้นมาพาดกับลำตัว จากนั้นจึงยกสะโพกสอบ จัดท่าทางให้เข้าที่แล้วกระทั้นใส่หานหยางเน้นๆ ด้วยความปรารถนาในใจผสมกับฤทธิ์ของสุรานั้นทำให้เขาขาดสติและเผลอทำรุนแรง
เสียงสอดประสานของสองอวัยวะที่เน้นไปทางบอกรัก แรงที่เขากระทั้นถี่ กระแทกเร็วแรง เป็นไปตามจังหวะของความสุขที่ก่อปะทุจนเกินจะห้ามปราม สองมือของเขาจับเอวคอดของนางเอาไว้ เร่งส่งความเป็นบุรุษเข้าใส่ดังสนั่น
จนในที่สุดเลือดลมทั่วร่างไหลกระจุกลงมาอยู่ในตำแหน่งเดียวก่อนจะกระตุกเกร็งปลดปล่อยความต้องการออกมา หยาดน้ำสีขาวร้อนได้ทะลักเข้ามาภายในช่องทางรักจนล้น
หลังจากเสร็จกิจกามย์ หลี่เจ๋อก็ทิ้งตัวลงนอนเคียงข้างหานหยางที่สลบไสลไปแล้ว ดึงผ้าห่มหนีม่วงอ่อนซึ่งเป็นสีที่เจ้าตัวนั้นชื่นชอบห่มให้กับร่างเปลือยเปล่า ต่อให้อยากทำต่อสักแค่ไหนแต่เขาก็หักหาญน้ำใจของนางมากกว่านี้ไม่ได้ ด้วยตอนนี้เขาได้สร่างจากฤทธิ์ของสุราแล้ว
แรกเริ่มเดิมทีนั้นหลี่เจ๋อไม่ได้มีความคิดชั่วร้ายนี้เลยสักนิด แต่ด้วยฤทธิ์แรงของสุราประกอบกับใบหน้าของคนที่ห่วงหาอาวรณ์ จึงทำให้เขาตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่ควรลงไป
หลี่เจ๋อสูดลมหายใจลึกเพื่อสงบจิตใจก่อนจะหันหลังเดินก้าวออกจากห้องนอนที่เขาจัดเตรียมไว้สำหรับหานหยาง ทิ้งความรู้สึกสับสนและสิ่งที่เกิดขึ้นไว้เบื้องหลัง เขากลับไปสู่หน้าที่สำคัญที่ยังคั่งค้างนั่นคือการสะสางงานปราบกบฏในส่วนที่เหลือ
ยามเช้าของเหมันต์ฤดู แม้จะยังไม่ถึงคราที่หิมะแรกจะโปรยปรายก็ตาม แต่มันกลับสามารถเยือกหัวใจของหานหยางได้เป็นอย่างดี
โฉมสะคราญค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ทุกข้อต่อของร่างกายนั้นปวดร้าวราวกับถูกบีบคั้นด้วยโซ่ตรวนที่มองไม่เห็น เรื่องเมื่อคืนยังคงเด่นชัดอยู่ในความทรงจำ
ในความเงียบงันของห้องนอนหรูหราของหานหยาง เสียงฝีเท้าหนึ่งกลับทำลายความสงบลงเมื่อสตรีวัยกลางคนได้ย่างเท้าเข้ามาในห้อง
“ดื่มน้ำแกงนี่เสีย นางคณิกาชั้นต่ำอย่างเจ้าไม่สมควรได้ร่วมเตียงกับองค์ชายของข้า!” พูดจบนางก็วางน้ำแกงกระแทกลงบนโต๊ะด้วยความเดือดดาล พร้อมกับแววตาที่จ้องมองมาที่หานหยางด้วยท่าทางรังเกียจ
“ท่านคิดว่าท่านสูงส่งนักหรือถึงเที่ยวมาด่ากราดว่าผู้อื่นเป็นคนชั้นต่ำ” แม้จะถูกซื้อตัวมาจริงแต่นางก็เป็นถึงบุตรสาวของคณบดีหาใช่คนที่โตมากับหอนางโลม ถูกเหยียดหยามขนาดนี้ก็ย่อมต้องมีโทสะเป็นธรรมดา
“ข้าพูดผิดตรงไหน เจ้าเป็นเพียงคณิกาชั้นต่ำมาจากหอคณิกา ไม่คู่ควรแม้แต่จะอยู่ในจวนของเป่ยอ๋อง เจ้าอย่าหวังเลยว่าจะได้ให้กำเนิดบุตรของเขา!”
คำพูดเหล่านั้นทำให้หัวใจของหานหยางเหมือนถูกกรีดด้วยมีดคม นางกัดฟันแน่นเพื่อสะกดกลั้นน้ำตาที่พร้อมจะไหลริน แต่ความเจ็บปวดกลับล้นท้นอยู่ในใจ
“แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ไม่ใช่สิ่งที่ข้าปรารถนาเลยสักนิด หากต้องมีใครคนใดคนหนึ่งที่ไม่คู่ควร...มันคือท่านอ๋องต่างหาก ไม่ใช่ตัวข้า!”
“บังอาจนัก! ข้าเลี้ยงท่านอ๋องมาตั้งแต่เยาว์วัย องค์ชายไม่ลดตัวลงมาเล่นกับของสกปรกอย่างเจ้าหรอก!” แม่นมอิงฮวากล่าวด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น
“ธุระของข้าจบลงแล้ว ที่นี่สกปรกเกินไปจนข้าไม่อยากอยู่นาน” หลังจากที่น้ำแกงถูกทานจนหมดถ้วย แม่นมอิงฮวาจึงหมุนตัวเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วพร้อมถ้วยน้ำแกงถ้วยนั้น ทิ้งไว้เพียงบรรยากาศที่ชวนดูอึดอัดไว้แทน
จากนั้นไม่นานบ่าวสองคนก็เข้ามาจัดแจงอาบน้ำแต่งกายให้กับหานหยาง สอบถามจึงรู้พวกนางมีชื่อว่าว่าจินเป่ยและหงหลัน พวกนางบอกว่าเป็นคำสั่งของท่านเป่ยอ๋อง เห็นว่าเขาต้องการพาหานหยางออกไปเดินเที่ยวนอกจวน