5
5
ธัญญ์เริ่มมึนงงกับหญิงสาวใต้ร่าง
“คนสวยมาสารภาพรักอะไรตอนนี้”
“รักนายเหลือเกิน รักมานานแล้ว” เธอพูดเสียงสะอื้นแผ่ว จนเขาจับใจความไม่ได้ในตอนท้าย
ธัญญ์นึกเอ็นดูมากกว่าจะรำคาญ แต่เขายังมึนงงกับถ้อยคำของคนใต้ร่าง แต่เพราะไม่คิดผูกมัด ทั้งยังป้องกันด้วยการสวมใส่ถุงยางอนามัยทุกรอบ จึงละความใส่ใจอีกครั้ง
ต้องการให้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในค่ำคืนเสน่หานี้เป็นเพียงแค่ความสนุกชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น หากผิดพลาดไป ปัญหาที่ตามมานั้นมากมายนัก เขาจึงไม่อยากเสี่ยง
ลิ้นหนุ่มเฝ้าวนเวียนบริเวณหน้าท้อง ไซ้ขึ้นไปตามซอกคอ ก่อนวกกลับมาที่อกอวบๆ อีกครั้ง
มือใหญ่ละจากซอกสวาทกลับมาประคองปทุมมาลย์บีบกระชับ ประชิดเข้าหากันจนยอดถันทั้งสองทักทายกันและกัน
ธัญญ์ลงลิ้นหนักๆ ดูดเลียผลเชอร์รี่สีชมพูสดอย่างแรง เรียกแรงสะท้านเสียวทำให้หญิงสาวเกร็งไปทั่วร่างคล้ายระลอกคลื่นใหญ่ ลิ้นหนุ่มทั้งดุน ทั้งวน แล้วตวัดเลียขึ้นลง
ซอกทางรักเริ่มปริ่มน้ำหวานออกมาต้อนรับ ความต้องการเบียดเสียดให้เธอส่ายร่างแล้วจิกมือไปตามผ้าปูที่นอนเนื้อนิ่ม
ยิ่งเธอทรมานเขายิ่งลงลิ้นดูดเลียหนักหน่วงขึ้น ก่อนจะปล่อยมือออกให้เป็นอิสระ วิธาดาถอนใจคล้ายเสียดาย แต่มีความสุขจนเผยยิ้มเต็มใบหน้า
ธัญญ์ยังไม่อยากละจากความอวบสล้างของผลเชอร์รี่ทั้งสอง เหมือนสวนดอกไม้กลางกายที่เขากลืนกินน้ำหวานเสียเหือดแห้ง
แต่ต้องจำใจเพราะไม่ว่าเขาจะสัมผัส สูดดมหรือซุกไซ้ไปทางไหนเธอก็หอมกรุ่นน่าหลงใหลไปหมด
เขากำลังคิดว่าอาจเป็นเพราะความเมา แต่มันก็ไม่ใช่ทั้งหมด เรือนร่างสาวสดดึงดูดให้เขาอยากฝากฝังรอยรักเสียทั้งวันทั้งคืนให้หนำใจ มือใหญ่บีบเคล้นเต้าทรวงสาว ริมฝีปากร้อนสลับดูดดึงซ้ายขวา เธอตอบสนองแอ่นร่างให้ไม่เกี่ยงงอน
ธัญญ์งับเต้าสาวอวบใหญ่เข้าไปในปาก กายสาวเบื้องล่างหยัดขึ้นเสียดสีกับความเป็นชายที่กำลังตื่นตัวจนแข็งกร้าว เส้นไหมอ่อนละมุนเสียดสีกับเส้นขนกระด้าง พัวพันกันอย่างหฤหรรษ์ ดูยุ่งเหยิงแต่ลึกล้ำด้วยไฟเสน่หา
ธัญญ์กดสะโพกตอบรับการกระตุ้นของหญิงสาวใต้ร่าง เขาหมุนสะโพกวนไปโดยรอบขณะกดแก่นกายชายเสียดสีกับบุปผาชาติที่กำลัง ผลิบานเต็มที่
“ได้โปรด รักฉันแบบนี้อีก” วิธาดาร้องครางเสียงสะท้านเมื่อเขาหยุดแล้วกดความแข็งร้อนแช่ไว้ที่ส่วนอ่อนไหวบนเกสรดอกไม้งาม เธออ้อนวอนเสียดสีเรือนกายเข้าหาอย่างเรียกร้อง ดวงตาปรือหยาดเยิ้มชวนฝัน มือบอบบางไขว้คว้ากอดรัดอย่างออดอ้อนน่ารักน่าใคร่
“นอนได้แล้วคุณกานดา” อดิศรบอกภรรยาที่ยังไม่ยอมหลับไม่ยอมนอนเพราะใจจดใจจ่อรอบุตรสาวอยู่
“ฉันนอนไม่หลับค่ะคุณ ยัยวิยังไม่กลับมาเลย นี่ก็หลายคืนแล้ว”
“ยังมีชลันธรอยู่ทั้งคน ลูกเราไม่ได้ไปคนเดียวเสียหน่อย ผมคิดว่าชลันธรคงดูแลยัยวิได้”
“ยัยวิเอาแต่เที่ยวหลังจากเรียนจา ฉันรู้สึกผิด ฉันเป็นสาเหตุ แกประชดฉัน นี่คงเป็นเวรเป็นกรรมที่ฉันทำไว้กับปิยฉัตร”
กานดาปิดหน้าสะอื้นเบาๆ ในห้องโถงของตัวบ้านหลังใหญ่
“อย่าคิดมากเลยคุณกานดา เรื่องมันผ่านมาหลายปีแล้ว ส่วนยัยวิเราค่อยหาทางช่วยในทุกๆ เรื่อง ยังไงยัยวิก็ลูกของเรา”
“ฉันเลวมากใช่ไหมคุณดิษที่ปลูกฝังให้ลูกเกลียดชังคนอื่น มีนิสัยแบบนี้ ตอนนี้ฉันแทบคิดไม่ออกว่าจะทำยังไง แกไม่ฟังอะไรฉันเลย”
“ผมก็ผิด ไม่ใช่คุณคนเดียว ผมเลวกว่าคุณอีก”
อดิศรพูดเสียงโหย ใบหน้าอมทุกข์
“มันเป็นเพราะเรา ลูกถึงเป็นแบบนี้” กานดาพูดเสียงแหบแห้ง ดวงตาแห้งแล้ง
“ผมเชื่อว่ามันต้องมีวิธี เราจะช่วยกัน ผมจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอนะคุณกานดา”
“ถ้าไม่มีคุณ ฉันไม่รู้จะอยู่ยังไง ฉันกลัวว่ายัยวิจะไม่กลับมาอยู่บ้านอีก”
“ไม่หรอก คุณเครียดแล้วนะ ขึ้นนอนเถอะ พรุ่งนี้ผมจะขอให้ ชลันธรเกลี่ยกล่อมให้ยัยวิกลับบ้าน”
“ฉันขอรอลูกอีกหน่อยนะคุณดิษ ถึงขึ้นห้องไปก็นอนไม่หลับอยู่ดี” หัวใจคนเป็นแม่ทุกข์ระทมเหลือคณานับ
“งั้นผมรอเป็นเพื่อน ผมเป็นห่วงคุณ ไม่อยากให้คุณอยู่คนเดียว” อดิศรดึงร่างของภรรยามาสวมกอด เขาถอนใจหนักๆ หลายครั้ง ยังมืดแปดด้าน จะใช้ไม้แข็งก็ไม่กล้า ใช้ไม้อ่อนก็ไม่ได้ผล
ธัญญ์ยิ้มเต็มใบหน้า กดจูบหนักๆ ไม่หยุด วิธาดาควานมือลูบต้นคอหนาแล้วแก้มสากของเขาเพื่อจูบตอบเต็มรัก
ลิ้นทั้งสองดุนดันตวัดรัดกันอย่างบันเทิงเริงใจในโพรงปากร้อนชื้น เขาดูดความหวานครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งหยอกล้อ ถอยหนีแล้วรุกเร้าอย่างมัวเมาในอารมณ์
รสจุมพิตดูดดื่มหวานล้ำปนกับรสสวาทดั่งคู่สามีภรรยาที่กำลังอยู่ในช่วงดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์อันแสนหอมหวานหลังแต่งงาน เหมือนได้ฮันนีมูนกันอย่างเต็มที่
สองมือบอบบางเอื้อมไปกดสะโพกสอบให้แนบชิด เธอพยายามหยัดกายให้เขาสอดเข้าหาเสียที หญิงสาวบีบสะโพกหนุ่มอย่างเร่งเร้า เหมือนคนไม่เคยถูกขัดใจมาก่อน
“เอาแต่ใจจังเลย ความจริงเธอต้องตามใจฉันสิ หึหึ! แม่น้ำผึ้งหวานแสนร้อนแรง แต่ฉันจะอนุโลมให้ เพราะเธอบริการถึงใจมาก”
ธัญญ์พูดกลั้วหัวเราะด้วยน้ำเสียงเอ็นดูมากกว่าจะโกรธเคืองหรือไม่พอใจ มือเรียวเลื่อนขึ้นมายังแผ่นหลังแข็งแกร่งแล้วลูบตามใจคิด เธอกำลังจิตนาการถึงชายหนุ่มที่เธอมีใจให้เขาด้วยความสุขล้ำ
“จูบฉันก่อนสิ จูบทั้งตัวเลย แล้วจะยอมตามใจ” เขาต่อรองอย่างมีชั้นเชิง ไม่ปล่อยให้เธอเรียกร้องเอาตามแต่ใจฝ่ายเดียว หญิงสาวลากริมฝีปากดูดลำคอแกร่ง ผลักอกกว้างให้ร่างสูงนอนหงายหลัง แล้วบดขยี้ริมฝีปากไปทั่วตามหัวใจเรียกร้อง ทั้งสองหลับหูหลับตาแนบชิด ไม่ได้สนใจที่จะมองหน้าอีกฝ่ายให้ชัดเจน
“ธัญญ์...” หล่อนเรียกชื่อชายหนุ่มไม่ขาดปาก ธัญญ์หลงเพริดไปกับอารมณ์หวามจึงมิได้เฉลียวใจเลยสักนิด
เสียงดูดเลียยอดอกสีเข้มทำให้ธัญญ์สะดุ้งเนื่องจากโดนฟันคมๆ มือหนุ่มไม่ว่างเว้นจากการนวดเฟ้นร่างสาว ทั้งเคล้นคลึงสอดแทรก ขยำ แล้วพลิกร่างสาวลงนอนหงายอีกครั้ง
“ปากเธอนี่สุดยอดจริงๆ ดูดเก่ง แล้วก็น่ารักมาก”
เขาบีบปลายคางหญิงสาวไปมาอย่างชื่นชม ขณะกระซิบบอก
“ธัญญ์”
“ชอบจังเวลาเธอเรียกฉันเสียงเซ็กซี่แบบนี้ ฉันอยากกินน้ำหวานเธออีก”
ธัญญ์เอ่ยขอตามตรง ซึ่งความจริงมันไม่จำเป็นสักนิด แต่เขายังติดใจความหวานที่ติดลิ้นเขาอยู่ จึงจับเรียวขาแยกออกแล้วดุนดันลิ้นเข้าไปสอดแทรกซอกซอนเข้าภายในโพรงอิ่มหวาน
ธัญญ์ดื่มกินน้ำหวานจนพอใจ ก่อนแนบมือกับเข่ามน ประคองตัวตนแข็งขันที่เจ็บร้าวทรมานเหลือเกิน ค่อยๆ สอดแทรกเข้าในกลีบเนื้อพฤกษาอ่อนละมุน
เขากดกายเนิบนาบ สูดลมหายใจเข้าปอดหนักๆ ด้วยความกระสันซ่าน ไม่แพ้หญิงสาวใต้ร่างที่หยัดกายรับด้วยความเสียดเสียว ความเจ็บหายไปเหลือแต่ความรัญจวนเมื่อเรือนกายหนุ่มสาวพบกันคล้ายเครื่องจักรที่ทำงานลงล็อก
เขาลืมอะไรบางอย่าง ลืมป้องกันตัวเอง!!!
ชายหนุ่มเบียดกายเข้าออกในโพรงร้อนชื้นที่ดูดรัดเขาทุกจังหวะ จับสะโพกผายพลิกร่างให้เธอคลานเข่า
มือใหญ่จับขาเพรียวทั้งสองถ่างแยกออกอย่างอ่อนโยนเพราะความเสียวซ่านที่ก่อเกิดในจุดเชื่อมประสาน
ธัญญ์ลืมเลือนการป้องกันไปเสียสนิท ความสาวสดฟิตแน่นทำให้เขาหลงลืม ยิ่งความบริสุทธิ์ที่เขาได้รับทำให้ไม่อยากจากร่างหอมกรุ่นนี้ไปไหน ชายหนุ่มสบถลั่นอย่างหวามในอารมณ์...
สะโพกผายลอยเด่นหยัดรับแรงรักทุกครั้งที่เขากดลงมา ธัญญ์คุกเข่าแทรกตรงกลางร่างหญิงสาว มือทั้งสอดเข้ารั้งบั้นท้ายงอนงามเอาไว้
ความคับแน่นที่บีบรัดทำให้ธัญญ์เร่งเร้ามากขึ้น เสียงจังหวะรักรุนแรงกระหน่ำอยู่ในความเงียบของราตรีกาล