4
4
รู้สึกว่ารอบกายชวนตื่นเต้นให้ค้นหา ความปรารถนาที่ซุกซ่อนในกาย ถูกแสดงออกอย่างเร่าร้อนเติมเต็มกันและกัน
ลิ้นเปียกร้อนชื้นเข้าแตะส่วนปลายของเกสรสวาท ดูดหนักๆ ตามยอดดอกรักที่ผลิบานเต็มตึงสีชมพูสด วิธาดาครางเสียงสั่นสะดุ้งเฮือก ยิ่งเมื่อปลายลิ้นสากกดเข้าบดขยี้เนินเนื้อล่วงล้ำอย่างหนักไร้ความปรานี
หญิงสาวรู้สึกร้อนซู่ซ่าไปทั้งร่าง ความเสียวซ่านรัญจวนเข้าโจมตีเธออย่างหนัก จนสมองซ่านซ่าไปด้วยไฟเสน่หาที่ถูกจุดขึ้นในค่ำคืนที่แสนยาวนานอีกครั้ง หน่วงหนักในห้วงอารมณ์เสน่หา
แรงลิ้นชำนาญที่บดขยี้ดูดเม้มระรัว ทำให้เสียงหวานเริ่มครางไม่เป็นส่ำ ยิ่งครางหนักขึ้นเท่าไหร่ ธัญญ์ยิ่งเร่งลิ้นมากขึ้น เสียงครางของเธอช่างร้อนแรงเร่งเร้า บ่งบอกถึงอารมณ์พิศวาสที่ชวนหลงใหลยิ่ง
ยอดเกสรสั่นระริกเพราะแรงบดเบียดที่หนักหน่วงทบทวี ผิวเนื้อสาวสั่นระริกกล้ามเนื้อทุกส่วนตื่นตัวเกร็งยะเยือก เท้าและมือของเธอเกร็งจิกบนที่นอนหนาเพื่อระบายความซ่านกระสัน
ธัญญ์ช้อนสะโพกงอนงามขึ้นจากเตียงนอนนุ่ม กดเข่ามนแนบกับอกอิ่ม สะโพกผายกระดกขึ้นจากพื้นเตียง ริมฝีปากร้อนลามเลียหยาดน้ำหวานที่ค่อยๆ หลั่งรินออกมา
ลิ้นหนาบดละเลงตามร่องรักหวานล้ำด้วยความหิวกระหาย ความเสียวซ่านวาบไปตามร่างทำให้ริมฝีปากอิ่มร้องครางรุนแรงเพื่อลดทอนความร้อนในกายที่ก่อเกิดขึ้นมา
วิธาดาพยายามปรือตามอง แต่ในห้องกลับมีเพียงแสงสลัวจนมองไม่เห็นอะไร สมองของเธอยังรู้สึกหนักอึ้งจนแทบไม่มีแรงยกแขนยกขาหรือหลีกหนีสถานการณ์ที่เผชิญอยู่
... แต่เธอบอกตัวเองว่าไม่ได้รู้สึกรังเกียจสัมผัสสยิวซ่านที่ได้รับอยู่เลยแม้แต่น้อย
ความสากร้อนฉ่ำชื้นลากเลียขึ้นมายังสองฟากฝั่งสวนกุหลาบแล้วตวัดลิ้นกวาดไล้ไปทั่วจนเส้นไหมอ่อนนุ่มเปียกแนบกับเนินอวบอูมที่ลอยเด่นอยู่ตรงหน้า
เขาเข้าฉกดูดช่อบุหงา ยิ่งเสียงครางดังเท่าไหร่ ยิ่งกระตุ้นเลือดหนุ่มในกายให้ร้อนระอุ
มือทั้งสองกดแนบหน้าขาให้แยกออกมากกว่าเดิม นิ้วแกร่งแหวกกลีบกุหลาบออกจากกันจนลิ้นร้อนสามารถเข้าสัมผัสกับเนื้อนางอ่อนหวานภายใน
ความตึงแน่นทำให้หญิงสาวยินยอมไม่ดิ้นหนี แต่อยากเบี่ยงตัวนอนตะแคงให้สบายตัวไม่ใช่นอนท่าที่ทำให้รู้สึกว่าเมื่อยแบบนี้
เธอไม่มีแรงพอ จึงต้องยอมให้ใครบางคนยกสะโพกผายขึ้นจากเตียงเอาไว้ในท่วงท่านั้น กลืนกินเธออย่างกระหายดั่งคนอดหยากหิวโซ ได้เชยชิมกับขนมหวานแสนอร่อย
ยอดเกสรอ่อนหวานยังคงเป็นอาหารรสเลิศสำหรับชายหนุ่ม เมื่อเขายังไม่อยากละใบหน้าจากส่วนนี้ไปเลยแม้แต่น้อย
เขาควานหาน้ำหวานทุกตารางนิ้วของกลีบกุหลาบไม่ให้เล็ดลอดผ่านพ้นไปได้ง่ายๆ
หล่อนรับสัมผัสซ่านลึกที่ซอกซอนไปทั่วจนร้อนฉ่า เสียงแห่งความกระสันหลุดออกมาจากริมฝีปากอิ่มเหมือนจะขาดใจ เธอกำลังรู้สึกว่าจะขาดใจแล้วจริงๆ ขนในกายลุกชันรับการสัมผัสแสนสยิว
“เชอร์รี่ ไม่ไหวแล้ว ตัวเองทำอะไรกับเค้าอ่ะ เค้าสะ... เสียว พะ... พอเถอะ กำลังจะขาดใจแล้ว”
อารมณ์แห่งเพศเสน่หาปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรง วิธาดาแอ่นหยัดกายตอบสนองส่ายสะโพกไปมาแนบกับลิ้นหนุ่มที่ระรัวเพิ่มความสุขให้เธอต่อเนื่อง
ธัญญ์กำลังงุนงงว่าหญิงสาวพูดอะไร แต่เพราะฟังไม่ได้ศัพท์เช่นเดิม เขาจึงละความใส่ใจนั้นเสีย
มือบอบบางเลื่อนไปจับศีรษะของอีกฝ่ายเอาไว้ แล้วสิ่งที่เธอไม่คิดว่าจะทำมาก่อนคือการกดศรีษะของเขาให้แนบชิด เพราะอารมณ์พิศวาสพาไป ทำให้หล่อนเสียการควบคุมตัวเอง อีกทั้งแอลกอฮอล์ดีกรีสูงในกระแสเลือดที่ฉุดสติทั้งหมดให้ดิ่งลงสู่ห้วงดำฤษณา
หล่อนอยากให้ความร้อนสากที่ลามเลียเติมเต็มในช่อบุปผาไม่ห่างหายไปไหน
ยิ่งเขาสอดลึกเท่าไหร่ ช่อดอกไม้ยิ่งบิดเป็นเกลียวตอดรัดลิ้นหนุ่มที่สอดแทรกเข้าดูดกลืนหยาดน้ำผึ้งรวงแสนหวาน
ธัญญ์ดื่มกินหยาดความหวานอย่างกระหายเหมือนไม่เคยได้พานพบมาก่อน
เยื่ออ่อนละมุนภายในถูกความร้อนไล้เลียแทบหลุดติดออกมาคาปากที่ลุ่มหลง
“อื้อ... ไม่ไหว” วิธาดาส่ายหน้าไปมา ขนในกายลุกชันไปหมดทั้งร่างจนสั่นเยือก
“ต้องไหวสิ เธอรสชาติดีเสียจริง” ธัญญ์เอ่ยชมด้วยความเมา
“อื้อ” เธอครางอืออาคล้ายตอบรับ
“ถ้าพรุ่งนี้ฉันจะซื้อเธออีกวันจะว่ายังไง” เขาพูดแต่ไม่ได้ต้องการความเห็น คิดว่าหญิงสาวคงไม่ปฏิเสธ
ธัญญ์กลืนกินน้ำผึ้งหวานจนหยดสุดท้าย แล้วเคลื่อนกายทาบทับร่างอรชร
“อื้อ... ใครอ่ะ ไม่ใช่เชอร์รี่เหรอ” วิธาดาพูดอย่างสลึมสลือ สัมผัสได้ว่าเรือนร่างที่แนบชิดไม่ใช่เพื่อนสาวอย่างเชอร์รี่
“ใครกันเชอร์รี่ เมาหนักเหมือนกันนะ”
เขาเอ่ยถามเมื่อแนบหูกับริมฝีปากสวยที่ขยับพูดเรียกชื่อใครบางคน เขาทำท่าจะปัดผมที่ปรกหน้าออก แต่เธอปัดมือเขาออกจนชายหนุ่มล่าถอย
“เชอร์รี่ไปหนาย.... ไปหนาย” เธอลากเสียงก่อนจะสะดุ้งเมื่อมือของคนที่กำลังคุกคามเธออยู่จับมือเธอเองไปสัมผัสกับส่วนของความเป็นชายแข็งร้อน
“แบบนั้นแหละ” ธัญญ์ขยับมือหญิงสาวถี่เร็วขึ้นตามอารมณ์ ยิ่งมือนุ่มนิ่มกำแน่นขึ้น ยิ่งทำให้เขาใกล้ถึงจุดหมายโดยเร็วขึ้น
แต่ยังก่อน... ชายหนุ่มกัดฟันข่มอารมณ์พิศวาสแรงลึกที่จะปลดปล่อยออกมาอย่างสุดกั้น
“พอแล้วแม่น้ำผึ้งหวานสุดร้อนแรง” เขากระซิบบอก ปลดมือน้อยออกจากตัวตนแข็งกร้าวของตัวเอง เลื่อนใบหน้าลากปลายลิ้นเลียรังผึ้งหอมหวานด้านล่างอย่างตัดใจไม่ขาด ก่อนวนลิ้นขึ้นมาดูดเม้มยอดดอกรักส่วนบน แล้วเคลื่อนใบหน้าผ่านแผ่นท้องเรียบตึงเพื่อวนลิ้นรอบสะดือสาว
“อื้อ” เธอบิดกายส่ายไปมาบนเตียง
ลิ้นหนุ่มสากร้อนวนไล้เปียกชุ่มไปรอบสะดือสาว มือทั้งสองบีบเคล้นสะโพกหนักๆ เลื่อนไปยังปทุมถันอวบอัดทั้งสองแล้วฟอนเฟ้นอย่างได้อารมณ์
วิธาดาผวาหยัดกายตอบสนอง ครางอืออาไม่หยุดปาก เธอเสียดเสียวบิดกายส่ายไปมาตามที่นอนด้วยความกระสันซ่าน
มือใหญ่เคล้นคลึงอย่างไร้ความปรานี เลื่อนปลายนิ้วไปสะกิดยอดถันสีสดที่ตื่นตัวแข็งขันรับสัมผัสอย่างน่าเอ็นดู
ยอดอกสีหวานถูกบีบบี้ขยี้มากเข้า ทำให้เสียงหวานครางสะท้านด้วยความเสียวซ่านดังลั่นห้อง เขาทั้งคลึงทั้งถูไถเหยียดฝ่ามือลากสัมผัสจนเธอขนลุกซู่อยู่ตลอดเวลา
“อ๊า... อย่าทรมานกันอีกเลย” วิธาดาส่ายหน้าไปมาร่ำร้องอย่างลืมอาย เธออยากให้เขาเติมเต็มความต้องการทั้งร่างกายและจิตใจ สอดลึกในกายที่ต้องการ... การแนบชิดที่แสนหวาม
“เดี๋ยวฉันจะทำให้หายทรมานเอง” ธัญญ์สอดนิ้วเข้าหยั่งน้ำผึ้งหวานในกลีบดอกไม้จนหญิงสาวสะดุ้ง หยัดกายขึ้นรับอย่างสุดกลั้น พร้อมเสียงหวีดร้องติดกันหลายครั้งด้วยความกระสันซ่าน
ไฟราคะในร่างดูจะพุ่งสูงขึ้นเมื่อเรือนกายเปลือยเปล่าแนบชิดเสียดสี ความร้อนระอุแห่งเพลิงเสน่หาก่อเกิด จนร่างสาวสั่นสะท้านเหมือนจะเป็นไข้ อาการค่อนข้างสาหัสสากรรจ์
เธอยกมือที่อ่อนแรงวางบนมือใหญ่ที่เฝ้าเคล้นคลึงเต้าอวบอิ่มเหมือนเป็นการช่วยอีกแรง น้ำเสียงหวานเรียกชื่อชายหนุ่มที่เธอแอบมีใจให้ด้วยความเผลอไผล
“ธัญญ์ อ๊า...” เสียงเรียกชื่อทำให้ธัญญ์ชะงักไปเพียงครู่ แต่เพียงครู่เท่านั้น เขาคิดว่าหญิงสาวคงรู้ชื่อเขาจากณัฐ จึงเรียกชื่อถูก เขารู้สึกดีเมื่อเวลาอารมณ์พิศวาสก่อเกิดแล้วหญิงสาวใต้ร่างเรียกชื่อเขาทุกลมหายใจเข้าออก ทำให้ความฮึกเหิมเพิ่มแรงในการขับเคลื่อนทางเพศมากขึ้น
“เรียกอีกสิ ฉันชอบให้เธอเรียกชื่อฉันตอนที่เรารักกันแบบนี้”
เขากระซิบบอกกดจูบริมฝีปากที่เผยอร้องไม่ขาดสายด้วยความต้องการที่ซ่านอยู่ในกาย
“ธัญญ์ ฉันรักนายนะ”
“เธอว่าอะไรนะ”