2.เลือกทางไหนดี
นิดาคิดว่าขาทั้งสองข้างของเธอมันเหมือนจะหมดแรงเลย ส่วนหลังก็ปวดมาก
อ๊าก พี่งเคยขับรถทางไกลครั้งแรก ล้าไปหมดเลย เธอมาถึงโลเกชั่นที่จะใช้ถ่ายพรีราวบ่ายสาม ทั้งที่ออกเดินทางจากออฟฟิตสิบเอ็ดโมง ถึงจะช้าไปหน่อยแต่อย่างน้อยเธอก็พาบอสมาถึงอย่างปลอดภัยก็แล้วกัน
เธอเหลือบมองบอสที่กำลังหลับอย่างสบายก็เลยไม่อยากจะกวนเขา นิดาอ้อมมาด้านหลังมาเอาเอกสารต่างๆ และกล้องถ่ายรูปเพื่อลองถ่ายหามุมที่แสงสวยที่สุด
สวย..จังเลยนะ ทะเลยามเย็นเนี่ยเหมือนความฝันเลย นิดาถ่ายรูปพร้อมกับส่งไปให้พี่เอื้อดู หลังจากนั้นก็ได้รับสติกเกอร์กดไลค์ส่งกลับมา
งานเธอเสร็จไวมากกว่าที่คิดแฮะ แต่เธอแอบเหนื่อยในแบบที่ขับรถกลับ เพราะพรุ่งนี้ก็ต้องมาที่นี่อีก ชวนบอสค้างที่นี่ดีกว่า
เผื่อเขาจะใจดีออกค่าห้องให้เธอ คิดซะว่ามันคือค่าดำเนินการ นิดากำลังจะเดินไปที่รถแต่เสียงแจ้งเตือนข้อความของเธอก็ดังขึ้น
“ผมบอกแล้วไงว่าอย่าส่งผลงานแบบนั้นไป ทำไมถึงยังส่งไปอีก..”
สายลมร้อนๆ พัดผ่านเธอไปพร้อมกับความหนักอึ้งในหัวใจที่ก่อตัวขึ้นมา เขาเป็นคนรักของเธอ
ตินเป็นเจ้าของร้านกาแฟฝั่งตรงข้ามออฟฟิต เราค่อนข้างสนิทกันเพราะว่าเธอไปซื้อกาแฟบ่อย การดื่มกาแฟมันเป็นวิถีของคนที่ไม่ค่อยได้นอน หลังจากพูดคุยกันมาสักพักเราต่างก็พัฒนาความสัมพันธ์มาเป็นคนรัก
เธอคิดว่าเขาคือเพื่อนคุยที่ดีจนได้เปิดเผยความฝันของตัวเองออกไป
“นักเขียนนิยายเนี่ยนะ แถมยังเขียนเรื่องอย่างว่าด้วย นี่เธอจะบ้ารึเปล่า?”
ความสัมพันธ์มันเริ่มมีปัญหาตรงนั้น เธอไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินทองเพราะว่ามีงานที่มั่นคงทำแถมเงินเดือนที่นี่ก็เยอะมากพอๆ กับที่เธอขายวิญญาณให้บอสเลย
และเพราะแบบนั้นเธอจึงเลือกที่จะเดินตามความฝันในช่วงวัยที่พอจะทำได้ เธออยากจะเป็นนักเขียน มันไม่สำคัญสักหน่อยว่าเราจะเขียนเรื่องแบบไหนออกมา เพราะว่านักอ่านต่างก็ไม่ได้ชื่นชอบสไตล์การอ่านที่เหมือนกัน
เธอชื่นชอบและหลงใหลในความรักที่ร้อนแรงแบบพุ่งเข้าหากันโดยที่ไม่สนใจสิ่งใด มันเป็นเรื่องที่สวยงามมากนะเพราะชีวิตจริงเราไม่ได้พุ่งเข้าหาคนอื่นได้แบบนั้นสักหน่อย
เธอแค่ชอบ และความชอบมันก็บังคับกันไม่ได้ แต่เขากลับไม่เข้าใจ แถมยังมาบอกให้เธอล้มเลิกเรื่องที่กำลังทำอยู่ นิดามองข้อความนั้นเงียบๆ เธอไม่ได้พิมพ์อะไรตอบกลับไป
“สวยมากเลยนะ แสงแบบนี้ภาพจะต้องออกมาดีมากแน่ๆ”
เมื่อนิดาหันไปตามเสียงเธอก็พบกับคุณหนุ่มที่กำลังเดินลงมาจากรถ
“ใช่ไหมล่ะ ฝ่ายหาสถานที่ของเรานี่เก่งมากๆ เลยนะคะ เหมือนกับว่าเขารู้มุมและแสงแดดยังไงอย่างงั้นเลย”
เขามองหน้าเธอนิ่งๆ
“ผมเอง ส่วนใหญ่คนที่กำหนดสถานที่การถ่ายพรี จะเป็นผม”
นิดายกมือขึ้นมาปิดปากด้วยความตกใจ ดีนะที่เธอไม่ได้ด่าออกไป เธอชมเขาขนาดนี้เขาจะต้องพิจารณาการขึ้นเงินเดือนให้เธอแล้วไหม
“แบบนั้นเราค้างที่นี่ดีไหมคะบอส บอสจะได้เดินดูชายหาดรอบๆ เผื่อว่าบอสจะได้พบเจอมุมถ่ายรูปใหม่ๆ ไหนๆ เราก็มาแล้วนี่นา”
นิดาส่งยิ้มให้เขา พร้อมกับจ้องมองใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาด้วยดวงตาเป็นประกาย
นี่เธอรู้ตัวไหมว่าตัวเองกำลังพูดอะไรออกมา เธอกำลังชวนเขานอนด้วยเนี่ยนะ?
“ไม่ใช่ว่าคุณขับรถกลับไม่ไหว..”
“ใช่แบบนั้นซะที่ไหนกันล่ะคะ หนูยังขับกลับไหวแน่นอน เพียงแต่จะขับกลับไปกลับมา หนูกลัวว่าบอสจะเหนื่อยต่างหาก”
หนุ่มหัวเราะเบาๆ
“เอาสิ ลองไปหาโรงแรมที่ติดกับหาดดู ผมจะเดินดูรอบๆ ได้ที่ไหนก็แชทมาบอกแล้วกัน”
นิดาพยักหน้าเป็นเชิงว่าเธอเข้าใจ ดูเหมือนว่าเจ้านายที่แสนเข้มงวดจะมีมุมใจดีเล็กๆ อยู่ด้วยแฮะ
เมื่อตามหาห้องพักที่มีบรรยากาศน่าพึงพอใจได้แล้ว นิดาก็จัดการจองห้องพักสองห้อง เธอเน้นย้ำกับพนักงานแล้วว่าจองสองห้อง ห้ามมีเรื่องผิดพลาดแบบในหนังที่เหลือห้องเพียงห้องเดียวแล้วจะต้องนอนด้วยกัน
แบบนั้นน่าอึดอัดตายเลยเพราะว่าเธอไม่ได้สนิทอะไรกับคุณหนุ่มขนาดนั้น ที่เธอต้องทำดีกับเขาก็เพราะว่าเขาคือเจ้านาย เธอไม่อยากถูกหมายหัวหรอกนะ..
หลังจากนั้นนิดาก็จัดการส่งข้อความไปหาเขาเพื่อแจ้งชื่อโรงแรมและเลขห้อง ที่นี่มีห้องพักที่แยกเป็นหลังๆ ติดริมทะเล ซึ่งราคาก็แพงเอาเรื่องเลยแต่เรื่องนั้นเธอไม่สนใจเพราะว่าเธอไม่ได้จ่าย
เมื่อได้เข้ามาอยู่ห้องเงียบๆ คนเดียว นิดาก็เลื่อนไปอ่านแชทของตินอีกครั้ง
จะตอบเขาดีไหมนะ หรือว่าจะเงียบต่อไปแบบนี้ดี
ไม่เอาดีกว่าเธอควรจะตอบสิ ปล่อยค้างคาแบบนี้มันไม่สมกับเป็นเธอเลย
“นี่คือความฝันของหนูเลยนะ มันเลวร้ายในสายตาของพี่มากขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
หลังจากนั้นนิดาก็รีบคว่ำโทรศัพท์ในทันที เธอกำลังหวาดกลัวแชทที่เขาจะส่งกลับมา
ถ้าเขาบอกเลิกจะทำยังไงดีนะ บอกเลิกกับเรื่องแค่นี้เนี่ยนะ! ไม่ใช่หรอกมั้ง ไม่มีใครเขาบอกเลิกกันเพราะเป็นนักเขียนนิยายอีโรติกหรอกจริงไหม..
หรือว่าเธอจะเป็นคนแรกของโลกใบนี้ที่ถูกบอกเลิกเพราะเรื่องนั้น โอ้ย..กังวลจัง ความฝันก็ต้องทำ แฟนก็ต้องมี
แต่ถ้าเธอได้ทำตามความฝัน ไม่ต้องมีแฟนก็ได้..
แล้วตอนเช้าใครจะโทรมาปลุกล่ะ ตอนที่เธอทำงานโต้รุ่งใครจะทักมาบอกให้เธอพักผ่อนบ้าง..
บ้าชะมัดเลย..นี่เธอกำลังเสียใจอยู่นะ!!
เสียงแจ้งเตือนข้อความดังขึ้นมาพร้อมกับชื่อของ “คุณแฟน”
อ่านเลยดีไหมนะ เขาจะคิดว่าเธอขาดเขาไม่ได้รึเปล่า แบบนั่งรอข้อความเขาตลอดอะไรแบบนี้ รอสักพักค่อยอ่านดีกว่า..แต่มันอยากรู้นี่
เขาจะส่งมาว่าอะไรกันนะ
สุดท้ายนิดาก็ไม่สามารถห้ามใจให้รอได้ เธอเปิดอ่านข้อความของเขา..
“เอาไว้กลับมาค่อยคุยกัน พี่ไม่อยากทะเลาะแต่อยากจะคุยให้เคลียร์กันว่าพี่ไม่ชอบอะไรแบบนี้ หากว่าเราชอบพี่ทำไมเราไม่เลือกจะรักษาพี่ไว้ล่ะ..”
“....”
เพราะว่าที่บ้านเอาแต่หัวเราะตอนที่เธอเป็นเด็กแล้วบอกว่าอยากจะโตขึ้นไปเป็นนักเขียน
พ่อและแม่มองว่ามันคือเรื่องไร้สาระ ทั้งที่นั่นคือความฝันของเธอ หลังจากถูกพ่อและแม่หยิบยกเรื่องความฝันของเธอมาล้อเล่นบ่อยๆ ราวกับว่ามันคือเรื่องตลก นิดาก็เลือกที่จะไม่บอกใครอีกเลยว่าความฝันของเธอคือการเป็นนักเขียนนิยาย เธอตั้งใจเรียนและทำงานตามที่พ่อแม่ต้องการ ได้เข้างานในบริษัทระดับประเทศ และเมื่อชีวิตมันเริ่มเข้าที่เข้าทางเธอจึงมาตามหาความฝันที่เคยทิ้งเอาไว้ในวัยเด็กอีกครั้ง
แต่กลับมาเจอแฟนบอกให้เธอเลือกเขา แทนที่จะเป็นความฝันที่เธอตั้งใจเขียนเรื่องนี้มาแรมปีเพราะว่าจะต้องเอาเวลาหลังเลิกงานมาเขียนทีละเล็กละน้อย..
เธอควรจะเลือกอะไรดีล่ะ ความฝันที่กำลังจะเป็นความจริงหรือว่าคนรักที่บอกให้เธอละทิ้งความฝันเพื่อเขา