บทที่ 14
วิชาหมัดพยัคฆ์เป็นสายแข็ง จื่อเฉินคิดว่าตนเองคุ้นเคยกับ3กระบวนท่านี้แล้ว และสามารถใช้ออกมาได้ แต่พอเห็นหนุ่มสายฟ้าออกกระบวนท่ามาในครั้งนี้ จื่อเฉินถึงรู้ได้ว่า ความคิดของตนเองก่อนหน้านี้ มันช่างน่าขำสิ้นดี
หมัดพยัคฆ์มีแค่3กระบวนท่า แต่ละท่าเน้นการพลิกแพลง และกระบวนท่าที่สามเสือกระโจนเป็นการรวมตัวของกระบวนท่าที่หนึ่งและสอง
ถ้าหากว่าใช้สลับกัน มันจะน่าตลก และบ้ามาก
และจื่อเฉินก็เพิ่งได้รู้ครั้งแรก ว่าทักษะการต่อสู้ก็มีธาตุแท้ด้วยเหมือนกัน
ไม่นาน จื่อเฉินก็ลุกขึ้น เขากำสองมือ ในหัวก็คิดแต่ภาพที่ได้เห็นหนุ่มสายฟ้าคนนั้น ชี่แท้ในตัวก็เริ่มเคลื่อนไหว ในใจก็คิดแต่ท่าทางที่เป็นขอพยัคฆ์ร้าย
แต่ไม่ได้รีบลงมือ เขาทำให้กระบวนท่าร่ายวิชาถึงขีดสุด
ในตอนนี้ จื่อเฉินก็เหมือนจะรู้สึกได้ว่า ตนเองได้หลายร่างเป็นพยัคฆ์ร้ายแล้ว
ในตอนที่เกิดความรู้สึกนี้ จื่อเฉินก็ต่อยกระบวนท่าแรกของงหมัดพยัคฆ์ออกมา เสือลงเขา องอาจรุนแรง แฝงไปด้วยพลังแห่งผู้เป็นใหญ่
กระบวนท่าแรกต่อยออกไป ท่วงท่ายังไม่จบ ตามด้วยกระบวนท่าที่สอง เสือคำราม พยัคฆ์คำรามสนั่นป่า หมื่นสัตว์ยอมจำนน ท่วงท่าของเจ้าป่า ก็ร่ายออกมาถึงขีดสุด และในตอนนี้ กระบวนท่าที่สามก็ถูกร่ายออกมา
ท่าเสือกระโจน
กระบวนท่าสุดท้าย ปรากฏออกมา แฝงไปด้วยท่วงท่าอันรุนแรง พุ่งออกไปข้างหน้า
“ตูม!”
ด้านหน้า หมัดสุดท้ายของจื่อเฉิน ต่อยใส่หินก้อนใหญ่
บนหินก้อนนั้นก็เป็นรอบรูปกำปั้น แล้วก็เกิดรอยแตกร้าวกระจายออกไปรอบๆ รอยก้ำปั้น สุดท้ายเสียงดังตูม หินก้อนใหญ่แตกออกเป็นเสี่ยงๆ
“นี่คือสิ่งที่ข้าทำอย่างนั้นหรือ?”
มองดูหินที่แตกด้านหน้า จื่อเฉินก็ลืมตาโต ไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง
ลองวิชาหมัดพยัคฆ์ครั้งแรก สามกระบวนท่าร่ายออกมาต่อกัน แต่ยังไม่ผสานกันมากเท่าไรนัก แต่ตอนที่ต่อยกระบวนท่าสุดท้ายออกมา ก็พอมีพลังออกมาแล้ว จื่อเฉินดีใจมาก
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เขาถือว่าลืมกระบวนท่าทั้งหมด แล้วเริ่มที่จะเข้าใจธาตุแท้ของกระบวนท่า เน้นสิ่งที่ที่จะสื่อของทักษะวิชา
“การโจมตีนี้รุนแรงจริงๆ แต่ก็เสียแรงไปไม่น้อย ชี่แท้ขั้นสอง ถูกใช้หมดเลย” จื่อเฉินส่ายหัวถอนหายใจ ในสายตาก็เต็มไปด้วยความดีใจ
ตอนนี้เขามีพลังระดับชี่แท้ชั้นสอง พลังการโจมตีได้รุนแรงเกินกว่าตอนที่มีพลังชี่แท้ชั้นสี่ก่อนหน้านี้เสียอีก ร่างกายกับทักษะการต่อสู้ผสานเข้าด้วยกันแล้วโจมตีออกมา เทียบได้กับศิษย์สำนักในระดับชี่แท้ชั้นห้าได้เลย
“รอดตายมาได้ จะต้องมีโชค คำพูดของคนโบราณ ไม่ผิดเลยจริงๆ !” จื่อเฉินชื่นชมในใจ เหมือนเขาจะได้เห็นประตูที่เปิดออกเพื่อนำพาไปสู่เส้นทางผู้แข็งแกร่งได้
“ไม่ว่าหนุ่มสายฟ้าคนนั้นจะเป็นใคร และไม่สนว่าปริภูมิสายฟ้าแห่งนั้นจะเป็นที่ไหน ขอเพียงช่วยเหลือเราก็พอแล้ว ส่วนตอนนี้ ได้เวลาที่จะต้องจัดการกับจ้าวช่านแล้ว!” ความดีใจในสายตาหายไป จื่อเฉินมีรังสีอาฆาตแพร่ออกมารอบตัว
ตอนนี้ไม่ใช่จ้าวช่านที่เป็นคนอยากจะฆ่าเขาแล้ว แต่เป็นเขาเองที่จะฆ่าจ้าวช่าน ได้โชคปาฏิหาริย์แบบนี้ จะให้คนอื่นรู้ไม่ได้ มีดีอย่าให้ใครรู้ จื่อเฉินผ่านเป็นตายมาได้เลยเข้าใจหลักการนี้
เพื่อโสมหิมะ500ปีต้นเดียว จ้าวช่านถึงกับต้องฆ่าตนเอง แล้วก็เรื่องพิสดารอะไรนี่อีก ถึงแม้จื่อเฉินจะยังคงไม่รู้ว่าในหัวใจตนเองนั้นมันมีอะไรอยู่ แต่มันจะต้องไม่ใช่ของธรรมดาแน่นอน ของแบบนี้ถ้าพูดออกมา ไม่ต้องพูดถึงพวกศิษย์สำนักในของสำนักหลิงอู่หรอก แม้แต่ผู้อาวุโสกับเจ้าสำนักก็คงอยากจะฆ่าเขาแล้วควักหัวใจเขาออกมาเหมือนกัน
บนโลกใบนี้ จะเชื่อใจใครไม่ได้ นอกจากตนเอง
หลังจากใช้วิธีที่เร็วที่สุดฟื้นฟูชี่แท้ จื่อเฉินก็เดินกลับไปทางเดิม เพื่อไปหาจ้าวช่าน
......
จ้าวช่านก็แทบจะเป็นบ้า จื่อเฉินเหมือนจะกลายเป็นตัวประหลาดไปแล้ว ถูกการโจมตีเข้าที่จุดตายแต่ก็ยังรอดมาได้ และก่อนหน้านี้เขาก็ยังแทงเข้าไปที่หัวใจของจื่อเฉินด้วย แต่ต่อมาก็ยังไม่ตาย
“หรือว่าหัวใจของมัน จะไม่ได้อยู่ที่ข้างซ้าย?” จ้าวช่านขมวดคิ้วคิด ได้ยินกันว่าบางคนเกิดมามีพลังพิเศษ มีพรสวรรค์สูงส่ง บางคนก็มีร่างกายพิเศษ หัวใจไม่ไอยู่ข้างซ้าย แต่อยู่ข้างขวา
“อาจจะเป็นไปได้ ครั้งหน้าจะลองโจมตีหน้าแกขวาของมันดู” จ้าวช่านพูดอย่างมั่นใจ เขาอดกลั้นกับอาการบาดเจ็บ เพื่อที่จะได้ตามตัวจื่อเฉินได้ทัน แล้วฆ่าจื่อเฉินให้ตาย
แต่จื่อเฉินแข็งแกร่งกว่าที่เขาคิดไว้มาก จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เป็นอะไรเลย ถึงขนาดไม่มีรอยเลือดที่พื้นเลย ได้แต่ตามรอยเท้าไปเท่านั้น
จ้าวช่านก็เริ่มปวดใจ แต่ไม่ได้รู้สึกเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่รู้สึกโมโห “จื่อเฉิน ข้าจะไม่ให้เจ้ารอดไปได้อย่างแน่นอน ต่อให้เจ้าจะมีปาฏิหาริย์อะไรก็ตาม แล้วทำให้เจ้ารอดมาได้ ฟื้นฟูตันเถียนได้!แต่ในเวลาสั้นๆ ไม่กี่วัน พลังของเจ้าก็เพิ่มได้ไม่ถึงไหนหรอก ขอเพียงฆ่าเจ้าได้ ทุกอย่างมันก็จะเป็นของข้า”
“อย่างนั้นหรือ?” ตอนที่จ้าวช่านกำลังพูดกับตัวเองอยู่นั้น ก็มีเสียงเย็นชา ดังขึ้นมาจากด้านหน้า
จ้าวช่านสีหน้าเปลี่ยน แล้วก็มองไปด้านหน้า
จื่อเฉินเดินขึ้นมาจากส่วนที่ลาดต่ำลงไป เสียงฝีเท้าเหยียบย่ำหิมะดังสึบๆ
“เจ้านี่เอง อาการบาดเจ็บหายดีแล้วหรือไง?” พอเห็นจื่อเฉินเดินเข้ามา บนตัวไม่มีบาดแผล และดูมีสติอย่างมาก ใบหน้าของจ้าวช่านก็เผยใบหน้าที่อึ้งๆ ออกมา
ในขณะเดียวกัน อารมณ์ของเขาก็นิ่งลงไป เย็นชาขึ้นมา