บทที่ 2
"อีซี มึงนี่จะก่อความฉิบหายให้กูไปถึงไหน อีลูกเลว อีระยำ ครูบอกว่ามึงหนีเรียน เข้าม่านรูด สุมหัวทำเหี้ยกัน นี่แนะ! อี..."
คำผรุสวาทดังลั่นชนิดสามซอยแปดซอย ทำให้ชาวบ้านข้างๆ อดมองมายังต้นเสียง ที่เป็นบ้านไม้เก่าซอมซ่อ อายุการใช้งานของมันยาวนานหลายสิบปี สีเคลือบทาลอกล่อน หน้าต่างบางบานแตกและซ่อมง่ายๆ โดยใช้กล่องกระดาษแข็ง แทนกระจก บริเวณบ้านรกไปด้วยวัชพืช มีขยะพวกถุงพลาสติก ขวด ถูกกวาดสุมๆ กันไว้ที่รั้วบ้าน เจ้าของเสียงด่ากำลังไล่ตี สาวน้อยนางหนึ่งไปรอบๆ บริเวณบ้าน ที่ไม่หนีอย่างเดียวเจ้าหล่อนเถียงมารดาเสียงแจ๋วดังพอๆ กับเสียงด่า
"ไม่ฉิบหาย ไม่ท้องหรอกแม่ ไม่โดนไล่ออกด้วย เพราะแฟนหนูมันก็เป็นลูก ผอ โอ๊ย! พอ พอแล้วแม่ หนูเจ็บ"
"อีเวร โอย กูเหนื่อย โอย" นางครวญ แล้วทรุดลงนั่งอย่างหมดเรี่ยวแรง แต่ปากก็ยังด่าลูกสาวแจ้วๆ
"มึง มึง"
"ไม่ต้องด่ามากหรอกแม่ หนูเอาตัวรอดน่า หนูขอโทษก็ได้ วันหลังจะไม่ให้เกิดเรื่องอีก"
ยกมือไหว้มารดาเหมือนเสียไม่ได้ อาการหอบถี่ของนางสมศรี ทำเอาเธอใจคอไม่ดี ถึงจะก๋ากั่น เลวเกวยังไง แต่ซี หรือสุรัตนา ก็ยังรักแม่ของเธอ อาการจากโรคประจำตัวของท่านนั่นแหละที่เธอห่วง เธอล้วงกระเป๋ากางเกงยีนตัวสั้นจู๋ แล้วล้วงเอายาดมที่พกประจำส่งให้แม่
"แล้วกับแฟนมึง จะเอายังไง มันจะมาขอขมาไหม ตบแต่งไหม?"
นางถามพลางสูดยาดมพลาง บุตรสาวนางเม้มริมฝีปาก ก่อนจะยักไหล่
"แม่รอแป๊บหนึ่งนะ ก่อนตอบคำถามหนูมีอะไรจะให้"
สาววัยรุ่นวิ่งหายเข้าไปในบ้าน สักพักก็กลับออกมาพร้อมกับซองสีน้ำตาลหนาปึก พลางยื่นมันให้มารดา
"เอ้า เปิดดู"
"แหก!"
สิ่งที่อยู่ด้านในทำให้นางอุทานลั่น คนยื่นให้ยิ้มน้อยๆ พร้อมกับทำหน้าเชิด
"นี่ถือว่าเป็นค่าตัวหนู แล้วแม่ก็อย่าไปโวยวายอะไรทางนั้นล่ะ เดือนหน้าไม้มันก็จะไปเมืองนอกละ แม่มันส่งไป"
นางถึงกับมือสั่น นับเงินทีละใบ ละใบ อย่างช้าๆ แม่เจ้าโว้ย! เกิดมาไม่เคยจับเงินสดเป็นหมื่นแบบนี้มาก่อน
"หะ ห้าหมื่น"
"หายโมโหแล้วนะแม่ หนูไปล่ะ"
ลูกสาวตัวแสบยักคิ้วให้ ก่อนจะเดินแกมวิ่งออกไปจากบ้านอย่างว่องไว
"เดี๋ยวสิ อี โอ๊ย!อีลูกคนนี้"
นางส่ายหัว ก่อนจะมองเงินในมือแล้วยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่ จริงอยู่ที่โกรธบุตรสาวคนเดียวมาก ที่ทำตัวแบบนั้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ ว่าเงินมันช่างหอมเหลือเกิน
"เอาว่ะ ดีกว่าเสียฟรี ไม่รู้จะทำยังไงกะมันแล้วอีลูกคนนี้ ห้าหมื่น โอย มีเงินใช้หนี้ค่าแชร์ ค่าหวย แถมได้ทองมาใส่เล่นเส้นโตๆ มีลูกสาวเหมือนมีส้วมเหม็นๆ ก็จริง แต่อีซีมันก็เหมือนส้วมทองละวะ"
นางผิวปากเป็นเพลงลูกทุ่งเพลงโปรด เดินไปเต้นไปเข้าไปอาบน้ำแต่งตัว เงินได้มาง่ายแบบนี้ก็มีวี่แววจะหมดเร็ว ถ้าคนได้ คิดบริหารไม่เป็น
................
"ดีนะจิ๊กไว้เองครึ่งหนึ่ง จะได้ใช้ไอโฟนกับเค้าล่ะงานนี้ เสื้อผ้า กระเป๋าดีๆ อีก คอยซีก่อนนะ ปราด้า ของก็อป aaa พอนะนังซี ไม้แขวนอย่างเรา คนมองของแท้ชัวร์"
สุรัตนาทำวางท่าราวนางแบบ เธอมองเงาสะท้อนของตัวเองหน้ากระจกของร้านสะดวกซื้อ ที่เธอมากดเงินซึ่งนำไปฝากธนาคารไว้ ก่อนนำอีกครึ่งหนึ่งให้มารดา
หญิงสาววัยขบเผาะ ผิวขาว ตาโต หน้าตาน่ารักที่มองกลับมา ทำให้เธอยิ้มนิดๆ อย่างภาคภูมิในรูปโฉมของตน เรือนร่างเพรียว สัดส่วนสมวัย ยังมีอก เอว สะโพกไม่มากนักเพราะเพิ่งเริ่มแตกเนื้อสาว แม้จะวัยเพียงสิบหกปี แต่สุรัตนาก็กร้านโลกผ่านสังเวียนมาตั้งแต่อายุสิบสาม
ภาพที่เห็นบ่อยๆ ในห้องนอนรวมของเธอและพ่อเลี้ยงกับมารดา คือภาพการร่วมรัก คนทั้งสองนึกว่าเธอหลับแล้วนั่นเองจึงได้พากันท่องฉิมพลี แต่ไม่รู้ว่าเธอแอบมองอยู่ใต้ผ้าห่มบ่อยๆ หนแรก อับอาย หนต่อๆ ไปเริ่มชิน แล้วเริ่มอยากริลองเลียนแบบ สภาพแวดล้อมในละแวกบ้านที่เกือบเรียกได้ว่าสลัม มีทั้งขี้ยา โสเภณี คนหาเช้ากินค่ำปะปนกัน คำด่าหยาบคาย คนตบตีแย่งผัวเมียกัน วงเหล้า คนนั่งเล่นยา ไม่ใช่ของแปลกสำหรับเด็กสาว มันค่อยหล่อหลอมเธอทีละนิด ทีละหน่อย มารดาที่มัวแต่ทำงาน ว่างก็แอบแวะเข้าบ่อนกับสามีใหม่ ที่เข้าบ่อนเป็นอาชีพ ไม่มีเวลาอบรมลูกสาวคนเดียว ที่เติบโตมาในสภาพแวดล้อมซึ่งเป็นมุมสีเทาของสังคม
สุรัตนาใช้ถุงเซเว่นใส่เงินที่เธอกดมา เธอเหลือบางส่วนไว้ในธนาคารเผื่อไว้ใช้ยามต้องการ เงินเยอะๆ แบบนี้มันไม่ได้มีกันได้บ่อยๆ นัก สาววัยรุ่นเดินเข้าไปในตรอก ปากซอยมีขี้เมาสองสามคนผิวปากแซวแต่สาวน้อยเพียงเดินเร็วๆ หนี
มีคนสอนเธอว่ามีปากบางทีพูดมากไปกับคนบางประเภท จะนำภัยมาสู่ตน เธอเดินเข้าไปลึกเรื่อยๆ จนถึงบ้านสีชมพูหลังหนึ่ง รั้วบ้านมีต้นสร้อยทองปลูกไว้มันกำลังออกดอกเป็นสายสวยงาม บริเวณบ้านสะอาดสะอ้าน รถยนต์คันเล็กจอดไว้ติดป้ายแดง สุรัตนาถึงกับทำตาโตเมื่อมองลอดรั้วไปเห็นเข้า มือเรียวกดกริ่ง เหมือนจะไม่ทันใจเธอตะโกนเรียกเจ้าของบ้านเสียงลั่น
"พี่ฟ้าใส พี่ฟ้าใสจ๋า"
ได้ยินแล้วจ้า มาแล้ว"
ร่างเพรียวเล็กของหญิงสาวเจ้าของบ้าน ที่ยังอยู่ในชุดนอนลายคิตตี้ ผมยาวยุ่งรุ่ยร่าย เดินแกมวิ่งออกมาเปิดประตูให้สาวน้อยพร้อมกับรอยยิ้มยินดี เธอเป็นหญิงสาวหน้าตาน่ารัก ผิวขาวใสเนียน ตัวเล็ก หากแต่มีทรวงอกอวบใหญ่เกินตัว ใบหน้านั้นงดงามจิ้มลิ้ม แบบที่นิยมกันในสมัยนี้ว่าสวย คือหน้าเรียว ตาโต จมูกโด่ง แน่นอนว่ากว่าจะได้มาซึ่งความงามนี้ ฟ้าใสก็เจ็บตัวทำศัลยกรรมมาหลายหน
"รถใหม่เหรอพี่ ว้าว เสี่ยใจดีจัง ของขวัญวันเกิดพี่เหรอ"
เมื่อเข้ามาในรั้วบ้านได้ สุรัตนาก็วิ่งตรงไปลูบๆ คลำๆ รถคันสวย นัยน์ตากลมโตเป็นประกาย มองอย่างชื่นชม
"อือ ทั้งของขวัญ ทั้งของง้อ"
คนพูดยักไหล่ แล้วเดินนำเข้าไปในบ้านหลังเล็กของตน สุรัตนาชื่นชมรถใหม่ของฟ้าใสจนพอใจแล้ว จึงเดินตามเข้าไป ได้กลิ่นหอมๆ ในครัวขนาดย่อม จนต้องสูดจมูกฟุตฟิต พลางตะโกนถามเสียงแจ้ว
"ทำอะไรอะ พี่ฟ้าใสคนสวย ถ้าเป็นของกินละก็ หยุดเลยนะ วันนี้ซีจะพาพี่ไปกินฟูจิ"
"หา!"
ฟ้าใสโผล่หน้าออกมาจากครัว ทำหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อ สุรัตนาล้วงเอาเงินจากในถุงเซเว่นออกมาปึกหนึ่ง แล้วโบกไปมา หญิงสาวก้าวยาวๆ มาทรุดนั่งข้างสาวน้อย พลางจ้องเงินในมือที่โบกไปมาตาโต
"ไปเอาเงินมาจากไหนกัน ซี โห... กี่หมื่นละนั่น"
"ก็ไม่เท่าไหร่หรอกนะ" เจ้าหล่อนทำหน้าเชิดจนน่าหมั่นไส้
"แค่สี่ห้าหมื่นเอ๊งงงง"
"ไปเอามาจากไหนซี หรือว่า..."
ฟ้าใสหน้าซีด เมื่อคิดไปไกลว่าสุรัตนาไปเอาเงินมากมายมาด้วยวิธีไหน "ซีไป..."
"แหม...เปล่าไปขายไอซ์ หรือไปปล้นใครมาหรอกน่า ค่าเสียจิ้นอย่างเป็นทางการของซีน่ะพี่ ได้มาตั้งแสน คิดถูกนะ ที่ยอมไอ้ไม้ แถมมันก็จิ้น มั่วๆ ไปว่าไม่เคย มันติดซีหนึบเลย แม่มันที่เป็น ผอ โรงเรียนซี ไปเจอะซีมั่วกันในม่านรูด เลยให้มาเป็นค่าเสียหาย ค่าเสียใจ และค่าเสียตัว แลกกับที่ยอมเลิกกับลูกชายแก และไม่แจ้งความ"
"โอ"
ฟ้าใสอ้าปากหวอ กะพริบตาปริบๆ แม่สาวน้อยข้างๆ เธอนี่ ไม่ได้ไร้เดียงสา เอาแต่สนุก แต่มีสมองฉลาดแกมโกงเอาเสียมากๆ เธอเพิ่งรู้จักกับสุรัตนาเมื่อปีก่อน สนิทรักใคร่เหมือนน้องสาว ฟ้าใสจากบ้านที่ ตจว มาหากินในเมืองกรุง ความอ่อนโลกและหน้าตาดี ทำให้เธอพลัดเข้าไปในธุรกิจค้าน้ำกาม หญิงสาวทะเยอทะยานและไม่คิดจะเป็นอีตัวแก่ๆ ที่ขายตัวไปจนหมดสภาพ เธอจับอาเสี่ยได้คนหนึ่ง และขอให้เขารับเลี้ยงเธอจริงจัง เสี่ยทิวหลงสาวคราวลูก เช่าบ้านให้ ให้เงินเดือนใช้ทุกเดือน ฟ้าใสทำตัวดีน่ารักจนเขาเริ่มซื้อรถให้อีกคัน และต่อไปในวันข้างหน้า ถ้าเธอยังประพฤติตัวดีสม่ำเสมอ เขาอาจจะมอบบ้านให้เธออีกสักหลัง เพราะเสี่ยทิวเริ่มผูกพันและรักเธอ จนอยากจะมาใช้ชีวิตบั้นปลายด้วย ถ้าตกลงกับเมียแต่งได้
"พาซีไปซื้อไอโฟนหน่อยสิพี่ฟ้าใส ซีอยากได้ แล้วก็พวกเสื้อผ้า กระเป๋าสวยๆ เดี๋ยวซีเลี้ยง"
"ได้สิ แต่เก็บไว้บ้างก็ดีนะ"
ฟ้าใสเตือนกลายๆ แต่ก็ตามใจสาวน้อยด้วยการพาเธอไปช้อปปิ้ง ซื้อข้าวของ สองสาวหอบของกันพะรุงพะรังเลยทีเดียว
"ซีชักจะติดใจ กับการได้เงินง่ายๆ แบบนี้แล้วสิพี่ฟ้าใส ไม่ต้องทำงานให้เหนื่อย หาคนเลี้ยงแบบพี่ฟ้าใสยังไงละ"
สาวน้อยว่าขณะที่มานั่งพักขากันที่ร้านค็อปฟี่ชอปในห้างสรรพสินค้า เธอเห่อข้าวของใหม่ๆ ที่ซื้อมา รื้อออกมาดูอย่างชื่นชม
"ไม่ดีหรอกซี"
สาวรุ่นพี่หลุบตาลง แล้วเม้มริมฝีปาก พลางเอ่ยเสียงแผ่ว
"บางทีสิ่งที่ซีคิด มันอาจจะไม่ดีขนาดนั้นก็เป็นได้ บางอย่างถ้าเราก้าวพลาดลงไปแล้ว เราก็ต้องตกอยู่ในนั้นไปจนตาย"
"พี่ฟ้าใสดูสิ แอพนี้เริดมากเลย ถ่ายออกมาแล้วสวยกว่าตัวจริงอีกอะ"
เสียงกรี๊ดกร๊าดจากคนข้างหน้าดังขึ้น พร้อมกับอวดรูปภาพในโทรศัพท์ให้เธอดู ฟ้าใสพยักหน้า แล้วลอบถอนหายใจเมื่อมองหน้าสวยใสของเด็กสาว
วัยที่ควรจะสดใส คร่ำเคร่งกับการเล่าเรียนเพื่อสร้างอนาคต แต่กลับเลือกที่จะไปเมามัวกับสิ่งอื่น ที่ถ้าพลาดแล้วอาจจะพานดับอนาคตตนได้ง่ายๆ เธอแสนเสียดายสาวน้อยเสียจริงๆ ที่มาหลงไหลในสิ่งอื่นที่ไม่เหมาะสมกับวัยของตนที่ควรจะเป็น
ความใคร่ ความรัก เปรียบเสมือนอาหารรสชาติน่าชิม ที่ถ้าเผลอไปลิ้มลองเข้า บางทีรสชาติของมันก็ทำให้เสพติด และยากนักที่จะถอนตัว