EP : 1 ความทรงจำ
เรือนไม้หลังเล็กๆ และดูเก่าทรุดโทรมแห่งหนึ่ง ข้างในนั้นมีเสียงร้องไห้ของเด็กทั้งสาม เมื่อรู้ว่าผู้เป็นแม่นั้นป่วยหนัก และไม่สามารถลุกจากที่นอนได้ จะไปตามหมอมารักษาก็ไม่ได้
เนื่องจากเป็นหมู่บ้านร้างมีคนอาศัยอยู่ไม่กี่คน เพราะที่นี่มันแห้งแล้ง ไม่สามารถปลุกอะไรได้ ผู้คนก็เคยย้ายไปอยู่ที่อื่น ผู้คนต่างหวาดกลัวที่แห่งนี้ เลยไม่มีใครมาที่หมู่บ้านร้างนี้เลย แม้กระทั้งหมอ
หญิงสาวร่างกายผอมแห้ง เหม่อมองคานไม้ผุๆ อย่างเหม่อลอย
อ่า นี่มันก็ผ่านสามปีแล้วสินะ ที่ข้าถูกลงโทษให้มาอยู่ที่ไกลแสนไกลแบบนี้กับลูกชายทั้งสาม
ข้าไม่เข้าใจเลย ทำไมเขาถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้
เขากล้าเชื่อข่าวลือไร้สาระเช่นนั้นได้อย่างไร
เขาคิดว่าลูกๆ ของเขาเป็นลูกของชู้งั้นหรือ
หึ เขามันโง่
และข้าเองก็โง่ ที่ตอนนี้ข้าก็ยังคงคิดถึงเขาตลอด
ข้าทำอะไรผิดกัน ทำไมเขาต้องทำกับข้าเช่นนี้
ทั้งที่ตอนนั้นเขาสัญญากับข้าแล้วว่าจะมีแค่ข้าคนเดียว แต่เขากลับพาผู้หญิงคนนั้นกลับมา แถมยังบอกว่าทำนางท้อง เลยจะแต่งเข้ามาเป็นอนุ
เขาก็เหมือนกับผู้ชายคนอื่นแหละนั้น ไม่มีทางที่จะมีเมียแค่คนเดียวหรอก ข้าหวังอะไรกับแค่ลมปากของเขากัน
ข้ามันโง่ แต่มาคิดได้ตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้ว ถ้าข้าไม่มัวแต่ตรอมใจเพราะเขาจนไม่เป็นอันทำอะไรเลย แม้กระทั้งลูกๆ ของตัวเอง ข้าก็ยังไม่สนใจ มัวแต่จมอยู่กับความเสียใจ ที่ถูกทำแบบนี้
“ท่านแม่ อย่าเป็นอะไรไปนะขอรับ”
ข้าได้แต่มองลูกชายทั้งสาม ที่นั่งร้องไห้อย่างน่าสงสาร อยากจะเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้กับพวกเขา แต่ข้านั้นไม่มีแรงพอที่จะขยับร่างกาย ข้าได้แต่มองพวกเขานิ่งๆ ก่อนจะขยับปากเพื่อบอกพวกเขา เพราะข้ารู้ดีว่าตอนนี้ข้านั้นไม่รอดแล้ว
“ขอโทษ”
เมื่อข้าพูดจบ ลูกชายทั้งสามของข้าก็พากันร้องไห้เสียงดัง จากนั้นเสียงร้องไห้พวกนั้นมันก็ค่อยๆ เบาลง พร้อมกับตาของข้าที่ค่อยๆ หลับลงไป พร้อมกับนึกเสียใจ ที่ไม่มีโอกาสได้ดูวันที่ลูกทั้งสามของตัวเองได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่
“ท่านแม่ทัพ ฮูหยินเสียแล้วขอรับ” ชายหนุ่มเอ่ยรายงานทันทีด้วยสีหน้าเป็นกังวล เพราะรู้เรื่องทั้งหมดดี
“อะไรนะ!” เฉินฮุ่ยเฟินหันมามองลูกน้องด้วยสีหน้าตกใจ ก่อนจะเอ่ยถามเสียงดัง ด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
ชายหนุ่มผู้เป็นมือขวาไม่ตอบ ได้แต่ก้มหน้าลง เพราะรู้สึกเสียใจ หากไม่เป็นเพราะองค์รัชทายาท วางแผนที่จะหักหลังพวกเขา นายท่านคงไม่ใช้วิธีนี้ เพื่อกันฮูหยินและคุณชายทั้งสามให้ออกห่างจากตระกูล เพราะกลัวว่าหากตัวเองได้รับโทษ ทั้งสี่คนจะปลอดภัย
แต่ตอนนี้มันไม่เป็นแบบที่คิดเอาไว้
เฉินฮุ่ยเฟินตกใจจนหัวขาวโพลนไปหมด เขาคิดอะไรไม่ออกเลย ได้แต่นึกเสียใจ ที่ไว้ใจคนผิด พร้อมกับโกรธแค้นองค์รัชทายาทที่ต้องการจะจัดการกับตระกูลของเขา
“พาลูกของข้าและร่างของฮูหยินกลับมา” เฉินฮุ่ยเฟินสั่งลูกน้องด้วยน้ำเสียงเย็นชา พร้อมกับไฟแค้นที่อยู่ในอก ก่อนจะตัดสินใจลงมือสังหารองค์รัชทายาท
“ท่านแม่”
หญิงสาวมองเด็กน้อยทั้งสามที่เรียกตัวเองว่าแม่ด้วยความตกใจ ก่อนจะร้องไห้ออกมา เมื่อได้เห็นลูกอีกครั้ง ไม่คิดเลยว่าพอตายแล้วจะได้มาเจอลูกๆ แบบนี้ และได้แต่นึกเสียใจกับสิ่งที่ในช่วงที่มีชีวิตอยู่
ก่อนที่หวังซูลี่จะทันได้อ้าปากพูดอะไรออกไป ร่างบางก็ปวดหัวอย่างรุนแรง จากนั้นก็ล้มลงไปนอนกับพื้นต่อหน้าของเด็กทั้งสาม
พร้อมกับความทรงจำมากมายที่เข้ามาในหัว จนหวังซูลี่สับสนไปหมด เป็นเวลานานพอสมควรที่เธอได้รู้ความจริง ก่อนหน้านี้เธอได้มายังมิติแห่งนี้ โดยไม่มีความทรงจำเก่าๆ จนเธอได้ตายลง และย้อนเวลากลับมาอีกครั้ง ถึงได้ความทรงจำของทั้งสองชาติ
ก่อนหน้านี้ที่เธอตาย เพราะเธอนั้นได้บทเป็นนางร้าย เป็นฮูหยินของแม่ทัพ ซึ่งก็เป็นพระเอกของนิยายนั้นเอง ส่วนนางเอกก็เป็นผู้หญิงที่พระเอกพากลับมา เพื่อเป็นอนุเพราะทำอีกฝ่ายท้อง ทำให้เธอในชาติก่อนที่ถูกบรรยายเอาไว้ในนิยาย ไม่พอใจมากๆ เลยหาทางจัดการนางเอกทุกวิธีทาง
แต่พระเอกก็ช่วยเอาไว้ตลอด จากนั้นเฉินฮุ่ยเฟินก็ลงโทษเธอ โดยการสั่งขังอยู่แต่ในเรือนเป็นเวลาสามเดือน เมื่อออกมาได้ก็ไม่สำนึกอะไร นอกจากคิดหาทางกำจัดซูถิงถิง
แต่เพราะมีข่าวลือว่าลูกๆ ของเธอนั้นเป็นลูกชู้ ทำให้เฉินฮุ่ยเฟินโมโหมาก ก่อนจะสั่งโบยเธอห้าสิบไม้ และลงมือทำลายตันเถียนของเธออย่างเลือดเย็น หลังจากนั้นก็สั่งเธอ และลูกน้อยทั้งสามไปยังชนบทที่ห่างไกลจากเมืองหลวง ซึ่งพวกเธอก็อยู่กันอย่างยากลำบากเป็นอย่างมาก
เธอมีชีวิตอยู่ได้แค่สามปี หลังจากที่ถูกสั่งให้ไปอยู่ที่นั่น เพราะเธอเอาตรอมใจที่ถูกพระเอกทอดทิ้ง โดยไม่ได้สนใจพวกลูกๆ เลยว่าจะใช้ชีวิตอยู่กันอย่างไร ดีที่ลูกๆ ของเธอเป็นเด็กดี รู้จักหาอาหารมาให้ผู้เป็นแม่กำลังตรอมใจอยู่ พอนึกดูแล้วก็อยากจะร้องไห้ หากมีความทรงจำก่อนที่จะมาอยู่ในนิยาย เธอกับลูกก็คงไม่ต้องลำบากแบบนั้น
“ท่านแม่~ อย่าเป็นอะไรไปนะขอรับ~” น้ำเสียงสั่นเครือ พร้อมกับมือเล็กบอบบาง เอื้อมไปจับมือของผู้เป็นแม่
“พี่ใหญ่ เราไม่ใช่ลูกของท่านพ่อจริงๆ หรือขอรับ” เฉินฮุ่ยหวงหันไปเอ่ยถามพี่ใหญ่ของตัวเอง อย่างไม่เข้าใจ
“พวกเราย่อมต้องเป็นลูกของท่านพ่อแน่นอน” เฉินฮุ่ยหมิ่นมองหน้าเศร้าสร้อยของน้องชายคนเล็ก แล้วก็เอ่ยบอกอย่างเชื่อมั่นใจตัวของท่านแม่ของพวกเขา
“เป็นเพราะนาง ท่านแม่ถึงได้เป็นแบบนี้” เฉินฮุ่ยหมิงเอ่ยขึ้น พลางเบ้ปากไปด้วย เนื่องจากสงสารผู้เป็นแม่ที่ต้องถูกท่านพ่อลงโทษ เพราะเชื่อข่าวลือที่ผู้หญิงคนนั้นกล่าวอ้าง
เฉินฮุ่ยหมิ่นมองน้องเล็ก ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบหัวเบาๆ เพื่อปลอบเฉินฮุ่ยหวง แม้ว่าตัวเขาจะเป็นห่วงและกังวลใจ เมื่อเห็นท่านแม่ล้มลงไปต่อหน้าต่อตาเช่นนี้