ปฐมบท
“จินเฉิงอู่ วันนี้ข้าเห็นสมควรเลือกหญิงงามที่ผ่านการคัดเลือกและฝึกฝนการเป็นนางในเรียบร้อยแล้ว ประทานให้เจ้ารับนางเป็นชายารอง”
สิ่งที่ฮ่องเต้พระราชทานให้ไม่รับไม่ได้ ใครกันกล่าวไว้หากไม่รับก็เพียงแค่บ่ายเบี่ยงหรือยืดเวลาไว้ก็เท่านั้น แต่จินเฉิงอู่กลับไม่แยแส
“นางเป็นเพียงลูกนอกสมรสของใต้เท้าเจิ้งประทานให้เป็นชายารองของอ๋องห้าแห่งแคว้นซ่ง มิสูงศักดิ์ไปหน่อยหรือ”
ใต้เท้าเจิ้งยืนอยู่ที่นั่นด้วยถึงกับหนวดกระตุกไปเลยทีเดียว
เจิ้งเหมยเพียงแต่ยิ้มที่มุมปากมิได้กล่าวคำใด เมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว จะไปที่ใดไม่ต่างกันจะเป็นสนมกุ้ยเหรินกุ้ยเฟยนางในหรือสาวใช้ ไม่มีสิ่งใดมาโยกคลอนจิตใจของเจิ้งเหมยได้อีกแล้ว
“เช่นนั้นจะให้ข้าบังคับเจ้าหาได้ไม่ ข้าประทานให้เจ้าแล้วจะนำนางไปไว้ในตำแหน่งไหนข้าก็มิอาจยุ่งเกี่ยวได้อีกต่อไปแต่นางมิใช่ไร้ฐานันดรโดยแท้ เป็นถึงบุตรสาวของใต้เท้าเจิ้งของสี่ตระกูลใหญ่ เจ้าใจคอจะไม่ให้เกียรติใต้เท้าเจิ้งหน่อยหรือ”
คำพูดเหมือนกับลองใจ จินเฉินอู๋ประสานมือขึ้นเบื้องหน้า เหลือบตาคมกริบ บนใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติ คิ้วเข้มเป็นลักษณะของผู้ห้าวหาญขึ้นมองเจิ้งเหมยเพียบแว๊บเดียว
“ขอบพระทัยฝ่าบาท ข้าให้นางเป็นสาวใช้ข้างกาย หวังว่าท่านเจิ้งจะไม่เคืองโกรธ”
ต่อหน้าฮ่องเต้แม้ ฝืนใจเพียงใดต้องกลำกลืนไว้ค่อยแก้ไขทีหลัง เป็นการใช้จิตวิทยาโต้ตอบกันไปมา อย่างนั้นหรือ
ใต้เท้าเจิ้ง ก้าวเท้าออกมาข้างหน้า
“ท่านอ๋องเมตตา เจิ้งเหวยขอบพระทัยท่านอ๋อง”
รอยยิ้มเย้ยหยันบนใบหน้าของ จินเฉิงอู่
เกี้ยวถูกหามเดินนำไป เจิ้งเหมยเดินเกือบวิ่งตามเกี้ยวไปยังจวนอ๋องกับห่อผ้า บนไหล่และของใช้ส่วนตัว
จินเฉิงอู่ลงจากเกี้ยว สาวเท้าเข้าไปบนจวน ชายาอ๋องรูปร่างอรชรยืนรอรับที่หน้าจวนด้วยสีหน้าสดใสข้างๆ กายมีสาวใช้คอยพยุงอยู่ถึงสองคน
“ท่านกลับมาแล้ว โยวเสวี่ยนเตรียมน้ำให้ท่านอาบ”
มือใหญ่กุมมือบอบบาง
“ลำบากเจ้าแล้ว”
เดินจูงมือเข้าไปข้างใน เจิ้งเหมยถูกไล่ให้ไปเข้าประตูเล็กอีกฝั่งหนึ่ง เมื่อคนเฝ้าประตูปิดประตูตามหลังท่านอ๋องและชายา
“ห้องพักของเจ้าอยู่ติดกับห้องครัว ต่อนี้ไปเจ้ามีหน้าที่ดูแลห้องทำงานท่านอ๋อง ไม่จำเป็นอย่าได้เข้าไปในห้องนอนเพราะชายาท่านอ๋องไม่โปรดให้ใครไปยุ่งที่นั่น ชายานางจะเป็นคนดูแล ทุกอย่างในห้องนอนท่านอ๋องเอง”
สาวใช้วัยไล่เลี่ยกัน จัดแจงช่วย เจิ้งเหมยจัดห้องหับ
“ข้าย่าหนาน เจ้าชื่อแช่ว่าอย่างไร”
เจิ้งเหมยยิ้มเพื่อสานความสัมพันธ์
“เจิ้งเหมยขอบใจเจ้าที่ช่วย ดูแล”
“ไม่ต้องเกรงใจ ข้าอยู่ห้องข้างๆ ห้องแม้จะเล็กแต่ที่นี่เงียบสงบที่สุด ไม่วุ่นวาย ด้านในจวนวุ่นวายสิ้นดีที่นั่นต่างต้องช่วยกันดูแลพระชายา”
“ท่านอ๋องคงจะรักพระชายามากแน่ๆ ”
“พระชายา ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ท่านอ๋องเอาใจใส่ดูแลเหมือนไข่ในหิน ไม่น่าแปลก ฝ่าบาทเคยคิดจะประทานชายารองมาหลายครั้งแต่ท่านอ๋องกลับปฏิเสธ ได้ข่าวว่าเจ้าเป็นคนเดียวที่ท่านอ๋องยอมรับมา แต่ก็ให้มาเป็นสาวใช้อยู่ดีคงจะเกรงใจฝ่าบาทไม่น้อย”
“พวกเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าถูกประทานมาเป็นชายารอง"
“เรื่องนี้เขารู้กันทั้งจวน ว่าคราวนี้หากฝ่าบาทเลือกนางใน ต้องประทานชายามาแน่เจ้าไม่เห็นหรือว่าพระชายาท่านอ๋องร้อนใจถึงกับต้องออกมารับท่านอ๋องที่หน้าจวนทั้งๆ ที่ไม่สบาย”
เจิ้งเหมยยิ้มแห้งๆ
“แต่ไม่ต้องห่วงนะ พระชายาใจดีที่สุด รับรองว่า.. ไม่ได้โกรธเคืองอะไรเจ้าแน่ท่านอ๋องเองก็รู้ๆกันอยู่ว่ามีสายตาไว้มองเพียงพระชายาเท่านั้น”
"ช่างเป็นอ๋องที่รักมั่นเสียจริง"
น้ำเสียงเหมือนจะเย้ยหยัน แต่รอยยิ้มกลับจริงใจ
"รักมั่น แต่เจ้ากับข้าหรือทุกคนในจวนต่างก็ต้องเกรงกลัวท่านอ๋อง แม้สบตายังไม่มีใครกล้าทำ"
เจื้งเหมยยิ้มน้อยๆจะมีอะไรน่ากลัวไปกว่าการที่ จะถูกเลือกไปเป็นสนม ของฮ่องเต้อีก เจิ้งเหมยผ่านมาได้ถึงเพียงนี้นับว่าดวงดีไม่น้อย ฮ่องเต้ในสายตาของเจิ้งเหมยแม้ใบหน้าจะไม่ได่แก่ชราทว่าการที่เป็นถึงฮ่องเต้ หากขัดใจก็ไม่พ้นตาย อยู่ที่นี่เป็นสาวใช้ ไม่จำเป็นต้องเป็นที่โปรดปรานเพียงแต่อยู่เงียบๆในส่วนของตัวเองก็พอ
"ต่อไปข้าคงต้องอาศัยเจ้าแล้วย่าหนาน"
"ข้าดีใจที่เจ้ามาช่วยดูแลที่นี่ ข้าอยู่คนเดียวมาเสียนาน"
เจิ้งเหมยยิ้ม ไม่ได้แย่เกินไปอย่างน้อยก็มีย่าหนานเป็นสหาย
ค่ำคืนใน จวนอ๋องผ่านไปอย่างเรียบง่าย
เช้าสดใส เจิ้งเหมยจัดการตัวเองและเตรียมพร้อมที่จะปัดกวาดในห้องทำงานที่ได้รับมอบหมายเสื้อผ้าชุดใหม่ไม่ได้มีสีสันมากนัก หน้าผมก็ไม่จำเป็นต้องแต่งเหมือนตอนอยู่ในช่วงคัดนางใน หากแต่ปล่อยให้ใบหน้าสดใสไร้เครื่องแต่งแต้ม
ใบหน้าผุดผาดดุจมู่หลานแรกแย้ม ไม่จำเป็นต้องแต่งแต้มใดๆก็สะดุดตามากพอ
ชายาเอกนั่งชมสวนกับสาวใช้อีกสองคน เจิ้งเหมยกำลังจะเดินผ่าน
"เจ้าใช่ไหม สาวใช้ในจวนคนใหม่"