บท
ตั้งค่า

10.เข้าใจผิด

ฉันเงยหน้ามองหน้าเขา ใบหน้าฉันแดงก่ำด้วยความอับอาย เมื่อครั้งที่หอวสันต์ส่วนหนึ่งที่ฉันกล้าพูดเช่นนั้นอาจจะเป็นเพราะเมาสุรา แต่ตอนนี้กลางวันแสกๆ แถมสติฉันยังอยู่ครบถ้วนอีกต่างหาก!!

แต่ทว่าใบหน้าของเขาตอนนี้...ไม่มีแววล้อเล่นหรือแกล้งแม้แต่น้อย นัยน์ตาหงส์มองฉันด้วยสายตาจริงจัง เด็ดเดี่ยว เว้าวอน และร้องขอ

เรื่องที่เกิดบนแพเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันมั่นใจ ว่าสายตาของเขาต้องมองฉันอยู่ตลอดแน่นอน เรือสำเภาออกจากจุดแข่งขันไปนานแล้ว การแข่งขันที่เป็นดั่งศึกแห่งศักดิ์ศรีของเขา แต่เขาเลือกจะวนเรือ กลับมาช่วยฉัน...เขาที่ละทิ้งชัยชนะ...เพื่อช่วยฉัน

ราวกับถูกมนต์สะกดเมื่อมองดวงตาหงส์ของเขา..หัวใจฉันเต้นรัวจนฉันควบคุมตัวเองไม่ได้

ถึงแม้จะรู้ว่าเขาเป็นสิ่งต้องห้ามในอุดมคติของฉัน

หากหลวมตัว ปล่อยตัวปล่อยใจไปให้เขา จะเกิดสิ่งที่ยุ่งยากตามมาเป็นแน่นอน

แต่อีกส่วนหนึ่งของใจก็อยากจะปล่อยไปตามความต้องการของตัวเอง บุรุษทุกคนที่ฉันพบเจอ จะต้องมีเงาของท่านอ๋องอู๋ซ้อนอยู่ตลอด...อีกครึ่งใจที่คำนึงคิดถึงแต่เขา

ฉันยกมือขึ้นจับที่ใบหน้าเขาอย่างเบามือ

“หากท่านยังไม่ยอมหยุดยั้งเพียงเท่านี้ท่านจะต้องเดือดร้อนเป็นแน่!!”

ฉันยกมือที่จับใบหน้าเขาเลื่อนไปคล้องลำคอระหงเเล้วขยับเข้าไปใกล้ จนได้ยินเสียงหัวใจที่กำลังเต้นรัวของเขา

“เพราะข้าจะมิยอมให้ท่านอ๋องได้หยุดอีกเลย..”

ท่านอ๋องอู๋เหลียงไม่แสดงท่าทีใดๆ บนสีหน้าของเขาเลย สายตาของเขานิ่งสงบ เขาหลับตาลงช้าๆ ราวกับว่ากำลังต้องการสงบสติอารมณ์

แล้วลืมตามามองดวงหน้างดงามของจื่อเหว่ยด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า

เขาโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ ใกล้เสียจนเธอรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่อุ่นร้อนของเขา

“ถึงเจ้าจะขอร้องให้ข้าหยุดยั้งในตอนนี้...ก็คงจะมิทันแล้วเหว่ยเออร์”

เธอช้อนสายตามองเขา แน่นอนว่าในใจของเธอยังคงชื่นชอบในความงามบนใบหน้าของเขาอยู่ สติจื่อเหว่ยในตอนนี้ถูกความหลงใหลชักจูงไปจนหมดสิ้นแล้ว เธอออกแรงโน้มคอเขาเข้ามาใกล้เธอมากขึ้นจากเดิมที่เราอยู่ใกล้กันอยู่แล้ว

“....ใครจะสั่งให้ท่านหยุดอย่างนั้นหรือ?”

เธอหลับตาลงก่อนจะทาบทับริมฝีปากของเธอลงไปบนริมฝีปากของเขา...จื่อเหว่ยดูดดุนริมฝีปากล่างของเขาอย่างมันเขี้ยว เธอขบกัดมันเบาๆ ก่อนจะใช้ลิ้นเลียรอบริมฝีปากที่มีรสหวานปานน้ำผึ้งของเขา

แน่นอนว่าชีวิตเก่าของเธอนั้นผ่านประสบการณ์เรื่องเช่นนี้มาอย่างโชกโชน แตกต่างจากท่านอ๋องที่ดูก็รู้ว่านี่จะต้องเป็นจูบแรกของเขาอย่างแน่นอน

เธอนึกแปลกใจเล็กน้อยที่บุรุษที่ดีพร้อมเช่นเขา..พึ่งจะเสียจูบแรกให้กับเธอ ภายนอกที่หยาบกระด้างนั้น ซุกซ่อนความอ่อนไหวเอาไว้ด้านในได้อย่างมิดชิด

หรือว่าเขาแกล้งทำเป็นเงอะงะเพื่อลองใจเธอ... เพื่อให้เธอตายใจไปกับเขา

เบื้องหน้าใบหน้างดงามนี้คือสุนัขจิ้งจอกหรือว่าลูกแกะน้อยที่ไร้เดียงสากันนะ

เรื่องนี้ต้องขอลองพิสูจน์!!!

ฉันถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่งและเสียดาย ก่อนจะใช้นิ้วมือเช็ดคราบน้ำลายที่ริมฝีปากของเขาช้าๆ แล้วเอื้อมมือไปดึงสายคาดเอวเขาออก

“เหว่ยเออร์....”

เธอเลิกคิ้วมองหน้าเขาเมื่อเขายกมือขึ้นมาจับมือเธอเอาไว้ราวกับจะห้ามปราม

“ท่านห้ามข้าไม่ได้แล้วนะ...”

ใบหน้าเขายิ่งแดงก่ำทันทีที่จื่อเหว่ยกล่าวจบ

หลังจากดึงสายคาดเอวออก เธอก็ลงมือถอดชุดเกราะหนังของเขาออก ในใจหวังอย่างยิ่งว่าหลังจากถอดชุดเกราะหนังพวกนี้ออกจนหมดแล้วจะได้เห็นท่านอ๋องน้อยเสียที!!

แต่ทว่าเธอก็ยังมิได้เห็น เพราะหลังจากที่ถอดชุดเกราะออกจนหมดก็พบเจอชุดด้านในออกอีกสองชั้น....

“ปกติท่านใส่อาภรณ์หลายชั้นเช่นนี้รึเปล่า!!”

เขากระแอมหัวเราะ แล้วยื่นมือมาจับมือของเธอเอาไว้ ราวกับกำลังจะบอกกล่าวให้เธอใจเย็นลง

“เจ้าช่าง...ใจร้อนยิ่ง ข้าว่าตอนนี้เรากำลังสลับหน้าที่กันหรือไม่...?”

เธอปรายตามองหน้าเขา ซึ่งในตอนนี้จื่อเหว่ยยืนอยู่ข้างเตียง ส่วนท่านอ๋องอู๋นอนเสื้อผ้าหลุดลุ่ยอยู่บนเตียง....

อะ..เอ่อ...เขาจะคิดว่าฉันเป็นคนยังไงนะ

“ข้า...เอ่อ...”

เขายกมือมาเกลี่ยพวงแก้มเธอเบาๆ อย่างเอ็นดู

“เจ้าไม่เหมือนสตรีที่ข้าเคยรู้จักมา...”

ฉันยิ้มแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ เขา

“ท่านอ๋องคงจะเคยพบพานสตรีมามากจนนับไม่ถ้วนเลยละมั้ง..”

เขาจับมือของเธอไปพรมจูบเบาๆ แล้วเอาดึงมือเธอไปแนบที่ข้างแก้มของเขา

“ข้าพบเจอสตรีงดงามมามากมาย แต่พึ่งพบเจอสตรีที่อยากใช้ชีวิตด้วย”

หัวใจพลันเต้นแรงไปกันเขา แต่ทว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งเขินอาย...เพราะว่าฉันจะต้องถอดเสื้อผ้าเขาออกให้หมด ยังไงวันนี้ฉันจะต้องได้เห็นท่านอ๋องน้อยให้ได้!!

ฉันส่งยิ้มให้เขาก่อนจะออกแรงดึงสายคาดเอวเสื้อด้านใน

“ผลัวะ!!!!”

เสียงถีบประตูดังลั่นจนจื่อเหว่ยต้องรีบหันกลับไปมอง

บุคคลที่เข้ามาใหม่มองมาที่เธอสลับกับท่านอ๋องด้วยสายตาแห่งความโกรธเคือง ในมือของเขาถือดาบเอาไว้...

และใบหน้าของเขามันพร้อมที่จะฆ่าคนได้ทุกเมื่อ

“ท่านพ่อ!!!!”

“พวกเจ้ากำลังทำสิ่งใดกัน!!!!!!!!”

ฉันนั่งคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าท่านพ่อที่ยามนี้ท่านกำลังโกรธจนบรรยากาศรอบๆ ข้างเย็นยะเยือก จื่อเหว่ยนั่งคุกเข่ามาหนึ่งก้านธูปแล้ว ส่วนท่านอ๋องอู๋นั่งตัวตรงอยู่ข้างๆ ท่านพ่อ ชาที่ถูกรินไว้ในถ้วยไม่มีใครมีอารมณ์สุนทรีพอที่จะยกขึ้นมาดื่ม

“ท่านเสนาบดีทุกสิ่งล้วนแล้วแต่เป็นความผิดของข้าเองขอรับ”

ท่านอ๋องอู๋ตัดสินใจชิงพูดก่อนเพื่อทำลายความเงียบ

“ในชีวิตของข้าสิ่งที่สำคัญที่สุดมิใช่ชื่อเสียงลาภยศ หากแต่เป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของข้า....ท่านอ๋องทำลายเกียรติของนางเช่นนี้ คล้ายท่านกำลังดูถูกตระกูลจื่ออยู่!!”

“ข้าน้อมรับทุกความผิด ทุกการกระทำขอข้า ท่านเสนาบดีต้องการให้ข้าทำเช่นไร โปรดแจ้งมาได้เลยขอรับ”

เอ่อ..อันที่จริงท่านพ่อท่านก็เห็นตอนที่ท่านเข้ามามิใช่รึ เป็นข้าเองที่กำลังถอดสายคาดเอวท่านอ๋องออก ข้าที่ใส่เสื้อผ้าครบถ้วนกับเขาที่นอนเสื้อผ้าหลุดลุ่ยอยู่....ท่านพ่อยังจะไปตำหนิเขาอีก!!

“ท่านพ่อ..เรื่องมันมิได้เป็นอย่างที่ท่านคิด”

“เหว่ยเอ๋อร์...เจ้ารักท่านอ๋องอู๋หรือไม่..”

“เจ้าค่ะลูกผิดเอง...ห๊ะ!!!...อะไรนะเจ้าคะท่านพ่อ”

“พ่อมิใช่คนหัวโบราณอันใด...หากเจ้าคิดจะเล่นสนุกก็ขอให้เลิกแล้วต่อกันเสีย แต่หากเจ้าพึงใจในตัวท่านอ๋อง ข้าจะได้ให้ท่านอ๋องนำเกี้ยวแดงมารับเจ้า ตบแต่งกันไปให้เป็นเรื่องเป็นราว”

พอท่านพ่อพูดจบ ท่านอ๋องก็มองมาที่ฉันอย่างคาดคั้นเอาคำตอบ...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel