2 เหตุใดจึงเป็นเวลานี้
เมื่อผ้าห่มถูกกระชากออก พบว่าเป็นอันเนี่ยนฉี สตรีที่เขารังเกียจที่สุดอันดับหนึ่ง เท่ากับว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา เขาไม่ได้ร่วมหอกับนางคณิกา แต่เป็นนางงั้นหรือ คุณหนูเก้าแห่งจวนอัครเสนาบดีผู้มักใหญ่ใฝ่สูง โง่เง่าไร้การอบรม มีดีแค่หน้าตางดงามเท่านั้น
“ทำไมถึงเป็นเจ้า” เขากระชากแขนเล็กของนางตั้งใจสอบถามเอาเรื่อง “แล้วนี่ถึงขั้น ขโมยชุดของคุณหนูใหญ่รวมถึงเครื่องประดับของนาง มาใช้เพื่อยกระดับสถานะของตนเอง ถ้าไม่มีปัญญาก็ไม่ต้องทำถึงขั้นก็ได้หรอกมั้ง”
“...” อันเนี่ยนฉีไม่ได้ตอบ ตั้งใจฟังคำหยามเหยียดของเขาอย่างอดทน
ความจริงของเรื่องนี้คือนางต้องอยู่บนเตียงของจิ้นอ๋อง หลี่หยวนเหอ แต่กลายเป็นว่านางต้องมาอยู่บนเตียงของเขา ได้ย้อนกลับมาทั้งที เหตุใดจึงไม่มาให้เร็วกว่านี้สักหน่อย อย่างน้อยก็ควรจะเป็นก่อนที่นางคิดลงมือกระทำเรื่องโง่ ๆ เช่นนี้
“ข้าถามว่าทำไมเป็นเจ้า” หนานกงหว่านเฉียนตะคอกใส่นางเสียงดัง
ครานี้อันเนี่ยนฉีก็ยังเลือกที่จะไม่ตอบ ครั้งที่แล้วนางทะเลาะกับเขาแล้วบอกความจริงเขาไปทั้งหมด ว่าความจริงแล้วเตียงของบุรุษที่นางต้องการจะปีนจริง ๆ เป็นของจิ้นอ๋องที่อยู่ถัดไปอีกสองสามห้อง แต่เพราะความเมา บวกกับความมืดนางจึงมาโผล่อยู่ในห้องของเขา นั่นจึงทำให้เขาและนางเกลียดชังกันมาตั้งแต่บัดนั้น
“พอเถอะ ข้าจะกลับแล้ว” นางแกะมือที่แข็งแกร่งราวกับคีมเหล็กออก เขาตั้งใจจะหักแขนของนางหรืออย่างไร รู้ไหมกว่านางจะรักษาผิวของตนเองให้ขาวเนียนเช่นนี้ มันยากลำบากขนาดไหนกับสถานการณ์ที่นางเป็นอยู่
“คุณหนูเก้าข้าให้เจ้าตอบ เจ้าต้องตอบคำถามของข้า” เขายังคงบีบคั้นนางไม่เลิก ใบหน้าของนางขาวซีดริมฝีปากเม้มเข้าหากัน “หรือนี่เป็นวิธีการหาสามีของเจ้าอย่างหนึ่ง ในเมื่อท่านอ๋องไม่ได้เป็นข้าก็ได้งั้นสิ เป็นแค่อีกาแต่คิดจะเป็นหงส์ไม่ดูสารรูปของตนเอง”
มาถึงประโยคนี้อันเนี่ยนฉีที่เอาแต่เงียบตลอดเผยยิ้มมุมปากร้ายกาจ ใบหน้างดงาม เคลือบรอยยิ้มน่าหลงใหล
“แล้วอย่างไร ที่ท่านไม่ปล่อยให้ข้ากลับไปเสียที หรือเป็นเพราะว่าท่านแม่ทัพอยากได้คุณหนูเก้าคนนี้เป็นภรรยาอย่างนั้นหรือ ถ้าหากไม่ ก็รีบปล่อยให้ข้ากลับจวนอัครเสนาบดีก่อนที่ฟ้าสาง เพราะมันคงไม่ส่งผลดีต่อท่านเท่าไหร่ เพราะหากฟ้าสว่างแล้ว ซึ่งถึงเวลานั้นข้าจะเดินออกไปจากจวนแห่งนี้ทางประตูหน้าและประกาศให้ผู้คนทั้งแผ่นดินรับรู้ ว่าท่านและข้ามีสัมพันธ์กัน” นางรู้ว่าหนานกงหว่านเฉียนก็ไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น จึงเลือกใช้คำขู่ที่เขามิอาจปฏิเสธได้
แน่นอนว่าหนานกงหว่านเฉียนที่ตั้งปณิธานเอาไว้ว่าจะไม่แต่งานไปตลอดชีวิตจ ไม่ต้องการให้ผู้ใดหรือใครก็แล้วแต่ รับรู้ถึงความสัมพันธ์นี้ระหว่างเขาและนาง จึงปล่อยมือออกจากแขนเล็กของนางอย่างเป็นไปเอง ที่แขนของนางเป็นรอยบวมช้ำที่เกิดจากมือของเขา รวมถึงมีร่องรอยอื่น ๆ ที่เกิดจากเขาอยู่บนกายของนาง แต่สุดท้ายแล้วเขาก็มิได้ใส่ใจ
“งั้นก็...เชิญคุณหนูเก้ารีบแต่งตัวแล้วก็...รีบไสหัวออกไปจากจวนข้าซะ”
“อ้อ...แล้วอีกอย่าง...อย่าลืมว่าเรื่องของความสัมพันธ์นี้ข้าไม่พูดท่านไม่พูดก็ไม่มีใครรู้” นางชี้หน้าเขา รอจนเขาเดินออกไปจากห้องนอนที่เป็นของเขาเอง อันเนี่ยนฉีจึงรีบลุกขึ้นมาแต่งตัวอย่างเร่งด่วน
แต่เดิมในอดีตนั้นนางผูกใจอยู่กับจิ้นอ๋อง หลี่หยวนเหอ บุรุษหนุ่มรูปงามอันดับหนึ่งในแผ่นดิน อันเนี่ยนฉีพยายามไล่ตามไขว่คว้า หมายจะให้เขาสนใจ แต่นางก็เป็นเพียงคุณหนูในจวนหลัง ไม่มีมารดาและครอบครัวสนับสนุน แม้จะงดงามล่มเมือง แต่จะมีประโยชน์อันใดเล่า หากไม่สามารถส่งเสริมใครได้ ชาติกำเนิดของมารดาก็คลุมเครือเดาว่าคงเป็นนางคณิกาที่บิดารับมาเลี้ยงเป็นอนุภรรยา ตอนแรกก็คงรักใคร่กันดี แต่พอคลอดนางออกมามารดาก็ตายจากไป ท่านอัครเสนาบดีผู้เป็นบิดาของนางคงรังเกียจนางมาก ที่เป็นสาเหตุทำให้อนุภรรยาสุดที่รักตายไป
ในค่ำคืนงานเลี้ยงฉลองกลับมาจากชายแดนของหนานกงหว่านเฉียน อันเนี่ยนฉีอยากพลิกสถานะของตนเอง จึงอาศัยโอกาสนี้ขโมยชุดและกำไลหยกม่วงมาจากห้องของอันรั่วหลัน ปลอมตัวเป็นพี่สาว หมายจะเข้าไปเปลี่ยนข้าวสารให้กลายเป็นข้าวสุก แต่ผิดคาดไปเสียหมด อันเนี่ยนฉีเข้าห้องวางยาผิดคน กลายเป็นหนานกงหว่านเฉียนที่ถูกยาพิษหนอนไหมกามารมณ์
เมื่อผู้ใดที่ถูกยาพิษชนิดนี้จะต้องหลับนอนกับคู่นอนเดิมในทุก ๆ สิบสี่วัน ในชีวิตที่แล้วนางไม่อยากพบเขาอีก จึงปล่อยให้หนานกงหว่านเฉียนทนทุกข์ทรมานเพราะอาการต้องยาพิษ กว่าจะแก้พิษนั้นได้เห็นว่าเกือบเอาชีวิตไม่รอด มารู้ในภายหลังก่อนที่นางจะถูกส่งตัวไปเป็นทาส ว่าเขาพยายามจะช่วยเหลือนางออกมาจากขบวนการค้าทาสผิดกฎหมาย ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่คงเป็นเพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์ในค่ำคืนนั้นกระมัง
พบหน้ากันก่อนจากลาในชาติที่แล้ว จำได้ว่าเขาอุ้มนางออกมาจากกรงค้าทาส แต่ก็มิอาจยื้อชีวิตของนางเอาไว้ได้ ก่อนจะหมดลมหายใจ นางเห็นเขานำร่างที่จวนเจียนจะหมดลมหายใจออกมาจากรง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาทำไปเพราะเหตุใด นางในชาติที่แล้วไม่รู้อะไรเลย ทั้งที่นางกระทำเรื่องที่ผิดต่อเขามากมายแท้ ๆ ทั้งที่เขาเองก็แสดงออกชัด ว่าเกลียดนางมาโดยตลอด เหตุใดเขาจึงเป็นผู้เดียวที่อยู่กับนางในวาระสุดท้ายของชีวิต
อันเนี่ยนฉีไม่ได้สวมเสื้อผ้าชุดเดิมกับที่สวมมา นางเตรียมการสำหรับเป็นทางรอดให้กับตนเองเอาไว้แล้ว ชุดสาวชาวบ้านธรรมดา จึงถูกนางนำมาสวมใส่ เดิมทีหากนางทำเรื่องนี้สำเร็จ ก็คงจะสวมเสื้อผ้าราคาแพงชุดนี้เดินออกไปป่าวประกาศให้ผู้คนรับรู้ว่าเมื่อคืนนางมีสัมพันธ์กับชินอ๋อง แต่เมื่อไม่เป็นเช่นนั้นนางจึงต้องใช้แผนสำรอง ครั้งที่แล้วนางไม่ละเอียดรอบคอบ ครั้งนี้จะต้องดำเนินไม่เหมือนกัน
ออกมาจากห้องนอน พบว่าเขายืนรอนางอยู่ อันเนี่ยนฉีไม่ได้สนทนาสิ่งใด นางมีสิ่งที่ต้องทำ จึงเดินผ่านหน้าเขาทำเหมือนกับอีกฝ่ายเป็นอากาศธาตุ
“ไม่คิดจะล่ำลากันสักหน่อยเหรอ” เขากล่าวตามหลัง
อันเนี่ยนฉีหยุดอยู่กับที่ ที่จริงก็มีเรื่องต้องคุยกับเขา แต่พอมองท้องฟ้าแล้วแสงสีทองของดวงตะวันเริ่มทอประกาย นางจะต้องกลับไปจุดไฟหุงข้าวให้ทันเวลา
“อีกสามวัน เจอกันที่ตีนเขานอกเมืองหลังตะวันตกดิน ข้ามีเรื่องจะต้องคุยกับท่าน วันนี้ไม่ได้ ต้องไปแล้ว” จบประโยคนางก็รีบร้อนจากไปทันที