9 จะติดกับไหม
“ขอบคุณท่านรองมากนะคะที่มาส่ง” พูดจบหญิงสาวก็ปลดเข็มขัดนิรภัยก่อนจะชะโงกหน้าเขามาใกล้แล้วหอมไปที่แก้มของเขาแล้วจะลงจากรถไปโดยที่ชายหนุ่มไม่ทันได้พูดอะไร
ทิวัตถ์ยิ้มมุมปากและคิดว่าที่เธอทำก็คงเป็นไปตามธรรมเนียมฝรั่ง แต่ในใจก็รู้สึกแปลกๆ หลายวันมานี้ท่าทางของแพรรดาเปลี่ยนไปจากช่วงแรกที่มาทำงานจนเขาอดแปลกใจไม่ได้
แต่คนอย่างเขาเคยพูดไว้แล้วว่าจะไม่เป็นสมภารกินไก่วัดก็จะพยายามรักษาคำพูดถึงแม้เริ่มจะเอนเอียงไปทีละนิด ทิวัตถ์คิดว่าอาจจะเป็นเพราะตอนนี้ตนเองกำลังผิดหวังจากเรนนี่ก็เป็นได้
เขากลับมาถึงคอนโดมิเนียมของตนเองแล้วหยิบเหล้ามาดื่ม จากนั้นก็อ่านข่าวของเรนนี่ ดูสีหน้าของเธอเวลาให้สัมภาษณ์แล้วก็รู้สึกว่าตนเองโชคดีมากที่วันนี้เรนนี่เป็นคนออกไปจากชีวิตเขา ทิวัตถ์รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก
บ่ายวันอาทิตย์รองประธานหนุ่มมารับประทานอาหารเย็นกับครอบครัวอย่างเคย วันนี้มารดาของเขาดูจะยิ้มแย้มและมีความสุขมากเป็นพิเศษเขาเดาว่าน่าจะเป็นเพราะข่าวของเรนนี่ที่ตอนนี้มีหลายคนกำลังพูดถึง
“แม่บอกแล้วว่าลูกกับหล่อนไม่มีทางไปด้วยกันได้หรอก อย่างนี้จะยอมหมั้นกับหนูแพรไหม”
“ถึงผมไม่มีใครก็ใช่ว่าผมจะยอมหมั้นกับใครง่ายๆ นะ”
“ท่าทางของวัตถ์ทำให้แม่รู้สึกเหมือนตอนนี้เรากำลังสนใจใครอยู่”
“แม่ครับ ผมเพิ่งรู้ข่าวเรนนี่เมื่อวันก่อนเองนะครับ ผมจะมีเวลาไปมองใครที่ไหนได้”
“ก็แม่เห็นว่าเราไม่ได้เสียใจเลย หรือตอนนี้มีคนอื่นแล้วจริงๆ” คุณกัลยาคาดคั้นคำตอบจากลูกชาย
“น่าเสียดายนะที่วันนั้นลูกปฏิเสธเรื่องหมั้นกับหนูแพรไปแล้ว” บิดาเขาพูดขึ้นบ้าง
“พ่อกับแม่ยังไม่เลิกคิกเรื่องนี้อีกเหรอครับ”
“ก็มันน่าเสียดายนี่ แม่เห็นวัตถ์เอาแต่ทำงานไม่ค่อยมีเวลาก็เลยอยากจะช่วยหาสาวๆ ให้ แม่กลัวว่าวัตถ์จะไปคว้าลูกน้องในบริษัทมาทำเมียน่ะสิ”
“แม่ก็รู้ว่าผมไม่มีทางทำแบบนั้น”
“แต่พ่อว่าบางทีความใกล้ชิดอาจจะทำให้คนเราเปลี่ยนใจได้นะ ยิ่งเลขาคนใหม่ของวัตถ์สวยขนาดนั้น พ่อล่ะกลัวจริงๆ”
“นั่นสิ แม่ขอสั่งห้ามเลยนะ อย่าเอาลูกน้องของตนเองมาทำเมียเด็ดขาดมันจะทำให้เสียการปกครอง โดยเฉพาะเลขาหน้าห้อง ถึงเธอจะสวยจะทำงานเก่งแค่ไหนลูกก็ห้ามยุ่งเด็ดขาด”
“แม่ทำเหมือนไม่รู้จักผม”
“ก็เพราะแม่รู้จักดีน่ะสิถึงได้ห้าม วัตถ์น่ะเป็นคนหน้าตาดี ทำงานก็เก่ง ฐานะก็ไม่น้อยหน้าใครผู้หญิงที่ได้อยู่ใกล้คงมีหวั่นไหวบ้าง แล้วแม่ก็รู้อีกด้วยว่าลูกชายของแม่แพ้ทางผู้หญิงสวย”
“ผมไม่ทำให้แม่ผิดหวังหรอกครับ” ทิวัตถ์ให้คำมั่นกับมารดา แต่คนอย่างเขาก็มีนิสัยเสียอย่างหนึ่งที่แก้ไม่หายนั่นคือยิ่งมารดาห้ามอะไรเขาก็จะทำตรงกันข้าม ก็เหมือนอย่างตอนที่เขาเริ่มสนิทสนมกับเรนนี่แล้วมารดาต่อต้าน มันเลยทำให้เขาทำตรงกันข้าม
แล้วครั้งนี้มารดาห้ามเขากับเลขาซึ่งเขายังไม่ได้คิดอะไรกับแพรรดามากกว่าเจ้านายกับลูกน้อง แต่พอมารดาพูดมาแบบนี้ชายหนุ่มก็เลยอยากจะลองท้าทายท่านสักนิด อีกอย่างเท่าที่ดูเลขาของเขาก็ท่าทางร้ายใช่เล่น ถ้าเขาอยากจะนึกสนุกกับเธอขึ้นมามันก็คงไม่ยากเท่าไหร่ เรื่องเสียการปกครองที่มารดาพูดนั้นทิวัตถ์คิดว่าตนเองรับมือไหว เขารู้ใจผู้หญิงดีว่ามีไม่กี่อย่างที่พวกเธอต้องการ
เช้าวันจันทร์ทิวัตถ์ก็มาทำงานเวลาเดิม พอมาถึงเขาก็มองหาเลขาแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา
“คุณอรเห็นเลขาผมไหมครับ” เขาเดินไปถามอรดีซึ่งโต๊ะทำของเธออยู่ตรงเยื้องหน้าห้องเขาไปเล็กน้อย
“น้องรดาโทรมาบอกว่าจะเข้ามาช้าหน่อยค่ะ เห็นว่ารถยังซ่อมไม่เสร็จก็เลยกะเวลามาทำงานผิดนิดหน่อย ถ้าท่านรองมีอะไรใช้งานด่วนก็เรียกใช้อรก่อนก็ได้นะคะ วันนี้ท่านประธานจะเข้ามาช่วงบ่ายค่ะ เช้านี้อรเลยว่าง”
“ผมไม่มีอะไรใช้หรอกครับ ก็แค่แปลกใจเท่านั้นเอง” ชายหนุ่มเดินกลับเข้าห้องของตนเองตาก็มองผ่านกระจกที่มองเห็นแค่จากทางด้านในออกมา คอยดูว่าเลขาของตนจะมาทำงานตอนไหน
ผ่านไปครึ่งชั่วโมงคนที่เขารอก็มาถึง วันนี้แพรรดาสวมสูทพอดีตัวสีครีมกับกระโปรงสั้นเหนือเข่าอย่างเคยและคงมีแค่เขาคนเดียวที่รู้ว่าภายใต้สูทที่ดูเรียบร้อยนั้นเธอมักจะสวมเกาะอกซีทรูไว้ด้านใน
เขาทำทีเป็นอ่านรายงานการประชุมขณะที่เห็นว่าหญิงสาวกำลังเดินถือแก้วกาแฟตรงมายังหน้าห้อง เธอเคาะประตูเป็นสัญญาณก่อนจะเดินเข้ามาโดยไม่ต้องรอให้เขาอนุญาตเพราะเวลานี้เป็นเวลาที่หญิงสาวจะเอากาแฟมาให้เขาเป็นประจำทุกวัน
“ขอโทษนะคะท่านรอง วันนี้รดามาทำงานสายไปหน่อย”
“อือ”
“แต่ไม่ต้องห่วงค่ะเดี๋ยวเย็นนี้รดาจะกลับช้าหนึ่งชั่วโมง”
“กลับเวลาปกติก็ได้”
“ไม่เป็นไรค่ะ รดาไม่อยากเอาเปรียบบริษัท อีกอย่างเวลาเลิกงานพร้อมกันรถไฟฟ้าก็คงคนเยอะ รดาไม่ค่อยถนัดถ้าจะต้องขึ้นไปยืดเบียดกับคนอื่น รดาขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”
แพรรดาเดินออกไปแล้วแต่คำพูดของหญิงสาวทำให้ทิวัตถ์นึกไปถึงการไปยืดเบียดกันบนรถไฟฟ้าซึ่งเขาก็เคยใช้บริการอยู่หลายครั้งซึ่งมันไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ อีกทั้งชุดที่เธอสวมมันก็ไม่เหมาะเลยที่จะไปยืดเบียดเสียดแบบนั้น
พอถึงเวลาเลิกงานของทุกคนทิวัตถ์ก็มองออกมานอกห้องเห็นว่าตอนนี้หน้าห้องของเขานั้นมีแค่แพรรดากำลังนั่งทำงานอยู่คนเดียว ถ้าเดาไม่ผิดเธอก็คงจะรอให้ครบเวลาหนึ่งชั่วโมงตามที่เธอบอกเมื่อช่วงสาย
แพรรดามองนาฬิกาที่มุมจอคอมพิวเตอร์เมื่อเห็นว่าครบกำหนดหนึ่งชั่วโมงตามที่บอกกับทิวัตถ์แล้วหญิงสาวจึงรีบเก็บของเตรียมตัวกลับ แล้วประตูห้องทำงานของเจ้านายก็เปิดออก
“จะกลับแล้วเหรอ”
“ค่ะ ท่านรองล่ะคะ”
“ผมก็กำลังจะกลับเหมือนกัน แล้วนี่จะกลับยังไง”
“รดาจะกลับแท็กซี่ค่ะ”
“อือ” เขาเดินผ่านหน้าเธอไปโดยไม่หันมามองสักนิดทำให้แพรรดาหน้าเสียเพราะคิดว่าเขาจะชวนเธอกลับด้วย
อันที่จริงแล้วรถของแพรรดาไม่ได้เสียแต่เธอจะใช้เป็นข้ออ้างเพื่อขอติดรถเขากลับด้วย แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปากเจ้านายก็กลับไปแล้ว
หญิงสาวเดินออกมาจากลิฟต์ก็เห็นว่าตอนนี้ที่หน้าบริษัทรถของเจ้านายกำลังขับมาจอด
“คุณเรียกรถแล้วเหรอ” เขาเปิดกระจกมาถาม
“เรียกแล้วค่ะ แต่รอคิวอีกนานเลย รดาเลยว่าจะนั่งวินมอเตอร์ไซค์ดีกว่า”
“จะติดรถผมไปก็ได้นะ ไหนๆ ก็ทางผ่านอยู่แล้ว”
“ขอบคุณค่ะท่านรอง” แพรรดาไม่รอให้เขาชวนเป็นครั้งที่สองหญิงสาวรีบเดินมาเปิดประตูรถและเข้าไปนั่งคู่กับเขาพร้อมกับแอบยิ้มให้กับตัวเอง
“รถคุณยังซ่อมไม่เสร็จอีกเหรอ”
“ค่ะ ช่างบอกว่ารออะไหล่ ช่วงนี้รดาก็เลยต้องใช้บริการรถสาธารณะแต่พรุ่งนี้รดาสัญญาค่ะว่าจะไม่ทำงานสาย”
“อือ” เขาพยักหน้ารับรู้ เพราะเรื่องนี้มันเป็นเหตุสุดวิสัย
“แต่ไหนๆ ท่านรองก็ต้องผ่านคอนโดของรดาอยู่แล้ว ท่านรองก็แวะรับรดาเลยสิคะ” แพรรดาตัดสินใจพูดออกไปแล้วก็รอลุ้นกับคำตอบด้วยความคาดหวัง