6 มั่นใจเต็มร้อย
วันนี้ยังคงเป็นหยุดอีกหนึ่งวันแพรรดาเลยมีเวลาสร้างความมั่นใจให้กับตนเองก่อนจะไปเผชิญหน้ากับทิวัตถ์ท่านรองประธานที่มีใบหน้าเย็น หญิงสาวขับรถมาจอดที่หน้าร้านกาแฟแห่งหนึ่ง สายตาคู่สวยมองไปในร้าน ซึ่งในขณะนี้ตอนนี้มีลูกค้าอยู่ไม่กี่คน เธอมองเป้าหมายตรงหน้า อยากรู้เหมือนกันว่าสิ่งที่เรียนมาจากเพื่อนเมื่อวานจะได้ผลจริงหรือเปล่า
เธอเดินเข้าไปร้าน สั่งกาแฟเสร็จก็ไปนั่งรอ จากที่เป็นคนไม่สนใจมองสิ่งรอบข้างแต่วันนี้เธอเลือกที่จะมองไปรอบๆ ร้าน แล้วมันก็ได้ผลเพราะเมื่อมองไปยังโต๊ะตรงกันข้ามก็เห็นว่ามีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองมาทางตัวเอง หญิงสาวยิ้มเล็กน้อย จากนั้นก็หันมาสนใจกับสมาร์ทโฟนของตัวเองต่อ ในใจก็คิดว่าที่ยิ้มให้เขาแบบนั้นคงไม่น่าเกลียดจนเกินไป ก็ใครใช้ให้เขามองมาทางเธอล่ะ แต่แล้วมันก็ได้ผล เพราะตอนนี้เขามายืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว
“ผมขอนั่งด้วยคนได้ไหมครับ” ชายหนุ่มตัวสูงผิวขาวแต่ไม่ถึงกับซีดอายุไม่น่าจะเกิน 30 ปี เขาแต่งตัวสุภาพเสื้อเชิ้ตผ้าเนื้อดีกับกางเกงสแล็กส์สีเข้มดูโดยรวมแล้วถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว
“ค่ะ” เธอขยับกระเป๋าที่วางบนโต๊ะเล็กน้อยเพื่อให้เขาได้มีพื้นที่วางแก้วที่ถือติดมือมาด้วย
“คุณคงพึ่งมาที่นี่ใช่ไหมครับ”
“ค่ะ คุณคงมาบ่อยถึงรู้ว่าฉันไม่เคยมา” ร้านกาแฟแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากคอนโดมิเนียมของเธอก็จริงแต่ก็จริงแต่แพรรดาก็เพิ่งจะมาที่นี่ครั้งแรก เพราะส่วนใหญ่แล้วถ้าเป็นวันหยุดหญิงสาวก็เลือกที่จะนอนพักผ่อนหรือไปเดินห้างมากกว่า
“ครับ ผมมาที่นี่ประจำ แล้วปกติคุณ...”
“รดาค่ะ” เธอไม่ได้ใส่ซื่อจนไม่รู้ว่ากำลังถามชื่อ
“ผมกวินทร์ครับ เรียกวินก็ได้ แล้วปกติคุณรดาชอบไปดื่มกาแฟร้านไหนครับ”
“ไม่แน่นอนหรอกค่ะ แต่ถ้าไหนถูกใจก็จะแวะมาบ่อยหน่อยค่ะ”
“ผมหวังว่าคุณจะถูกใจร้านนี้นะครับ เราจะได้เจอกันบ่อยๆ” ชายหนุ่มอยากรู้จักกับเธอให้มากขึ้นเพราะนอกจากเธอจะสวยแล้วยังดูฉลาดทันคนอย่างที่เขาชอบ
“รดาก็หวังอย่างนั้นค่ะ”เธอยิ้มเล็กน้อยอย่างที่ชาช่าสอน
‘เวลาจะยิ้มให้ใครก็ไม่ต้องแหกปากจนเห็นฟันครบอย่างจูเลีย โรเบิร์ตหรอกนะ ยิ้มแบบนั้นหล่อนทำได้คนเดียว คนธรรมดาอย่างเราต้องยิ้มน้อยๆ ยิ้มทั้งใบหน้าและสายตา ถ้าจะให้ดีก็มองไปที่เขาแค่เพียงนิดเดียวพอ แล้วก็หลบสายตาประมาณว่าเขินอาย แม้ในใจแกกำลังคิดว่าจะอยากจะลากเขาเข้าห้องก็ตาม’
‘แค่ยิ้มทำไมมันยากจัง’
‘มันไม่ได้ยากอะไรเลย แค่ใส่จริตลงไปนิดหน่อย ไอ้ที่เห็นแล้วฉีกยิ้มจนตาหยีน่ะ เขาเอาไว้ใช้กับพวกวัยรุ่นย่ะ คนทำงานอย่างแก ต้องรู้จักใช้มารยา’ นี่คือสิ่งที่ชาช่าสอนเธอเมื่อวาน แล้วก็เหมือนว่าการยิ้มของเธอจะได้ผล
กวินทร์มองผู้หญิงตรงหน้าด้วยท่าทีสนใจเธออย่างเปิดเผย แม้จะเจอผู้หญิงมามากแต่ก็ไม่เคยมีใครที่มองแล้วไม่รู้สึกเบื่อเหมือนคนตรงหน้ามาก่อน หญิงสาวมีใบหน้าที่สวย เฉี่ยวดูเปรี้ยวหากแต่ดวงตานั้นกลับสวยหวาน ผิวของเธอขาวดูสุขภาพดีไม่ขาวซีดเหมือนสาวๆ ที่เขาเคยคบหามาก่อนหน้านี้ จมูกเชิดเล็กน้อยรับกับปากสีสวยมองทีเดียวก็รู้ว่าเธอไม่ได้ผ่านมีดหมอมาเลยสักนิด ความงามตามธรรมชาติที่ดูช่างลงตัวจนอดชื่นชมไม่ได้
“จะรังเกียจไหมถ้าผมจะขอช่องทางติดต่อไว้ เผื่อครั้งหน้าเราจะได้นัดมาดื่มกาแฟกันอีก”ผู้ชายอย่างเขาไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไปง่ายๆ
แพรรดานิ่งไปครู่ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นให้เขาสแกน QR Code จากนั้นเธอก็นั่งคุยกับเขาอีกพักใหญ่ก่อนจะขอตัวกลับ เธอยังไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวชายหนุ่มมากนักรู้แต่เพียงว่าเป็นหมอด้านศัลยกรรมความงามที่มาเปิดคลินิกอยู่ถัดจากร้านกาแฟไปอีกสองช่วงตึก เธอหวังว่าที่เขามาทำความรู้จักนั้นคงไม่ใช่ว่ากำลังหาลูกค้าอยู่หรอกนะ
เมื่อกลับถึงคอนโดมิเนียมก็รีบโทรศัพท์ไปเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ให้กับกุนซืออย่างชาช่าฟัง ดูฝ่ายนั้นจะดีใจไม่น้อย เสียงชื่นชมของเพื่อนทำให้แพรรดามีกำลังใจที่จะไปทำงานในวันพรุ่งนี้
เช้าวันนี้คงมีหลายคนที่ไม่อยากจะตื่นไปทำงานเพราะหยุดยาวติดกันถึงสี่วันแต่ แต่ผิดกับแพรรดาเพราะวันนี้นอกจากจะตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวตั้งแต่เช้าแล้วเธอยังไปถึงที่ทำงานก่อนเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง
“คุณรดา วันนี้แต่งตัวสวยจังเลยนะคะ” พนักงานต้อนรับเป็นคนแรกที่เธอเจอแล้วคำทักทายก็เสริมให้หญิงสาวยิ่งมั่นใจในตัวเองมากขึ้น เธอก้มมองตัวเองแล้วยิ้ม ชุดเดรสเข้ารูปสีดำความยาวเหนือเข่าเล็กน้อย สวมทับด้วยสูทสีครีมขลิบดำขนาดพอดีตัว ต่างจากวันทุกวันที่ใส่กระโปรงทรงเอยาวคลุมเขากับเสื้อเชิ้ตแขนยาวตามอย่างรุ่นพี่อย่างอรดี
“ขอบใจจ้ะน้องฟ้า” น้องฟ้าเป็นพนักงานต้อนรับของตึกสูงกว่า 30 ชั้นซึ่งบริษัทของเธอเช่าอยู่ที่ชั้น 18
พอมาถึงชั้น 18 เธอก็พบกับภาพที่คุ้นตาคือพี่อรดีเลขาของท่านประธานซึ่งทำงานที่นี่มาตั้งแต่เรียนจบ พี่อรดีเป็นหญิงวัยกลางคนที่รูปร่างค่อนข้างอวบอิ่ม ใบหน้ายิ้มแย้มอยู่เสมอ แม้กระทั่งเวลาที่เจ้านายหงุดหงิดจนใครเข้าหน้าไม่ติดก็มีพี่อรดีคนเดียวเท่านั้นที่ยังยิ้มอยู่ตลอดเวลา และพี่อรดียังช่วยสอนงานเธออย่างใจเย็นจนตอนนี้เธอเรียนรู้ได้มากกว่าที่คิดไว้
“สวัสดีค่ะพี่อร” เธอยกมือไหว้รุ่นพี่อย่างทุกครั้ง
“สวัสดีจ้ะ เอ๊ะ! วันนี้ทำไมรดาดูสวยเป็นเศษคะ” อีกคนที่เอ่ยชมทำให้แพรรดามั่นใจมากขึ้นว่ายังไงเสียวันนี้ทิวัตถ์ก็คงจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของเธอบ้าง
“ขอบคุณค่ะพี่อร รดาอยากเปลี่ยนตัวเอง พี่ว่ามันน่าเกลียดไหมคะ” เธอหมุนไปรอบตัวให้กับรุ่นพี่ดู
“ไม่น่าเกลียดเลยค่ะ พี่ว่าดูสดใสดีออก วัยอย่างน้องรดาต้องแต่งแบบนี้แหละ”
“พี่พูดจริงใช่ไหมคะ”
“พี่จะโกหกทำไมคะ แต่งแบบนี้รับรองว่าท่านได้หันมามองเลขาก็คราวนี้แหละ” คนไม่รู้ก็พูดไปตามที่คิด ส่วนคนที่ตั้งใจแต่งตัวมาอวดก็เอาแต่ยิ้ม สายตาก็ชะเง้อว่าเมื่อไหร่คนที่รอคอยจะมาทำงานสักที
ปกติแล้วทิวัตถ์จะไม่เคยเข้ามาทำงานสายเลยสักวัน แม้ว่ากลางคืนเขาจะเที่ยวดึกดื่นแค่ไหนแต่ก็ไม่เคยเสียงานเลยสักครั้ง
เสียงทักทายพนักงานทำให้คนที่กำลังนั่งทำงานอยู่รู้สึกใจเต้น เพราะนั่นหมายถึงเป้าหมายของเธอกำลังจะมาถึงห้องทำงานในอีกไม่ช้า
“คุณรดา ตามผมมาที่ห้องด้วย” เขาหันมาบอกผู้ช่วยแล้วเดินเข้าห้องไปโดยไม่สนในเลยสักนิดว่าวันนี้เธอแต่งตัวสวยแค่ไหน ทำเอาคนที่มั่นใจเมื่อครู่รู้สึกห่อเหี่ยวขึ้นมาทันที