5 ก่อนลงสนามก็ต้องเตรียมพร้อม
ทิวัตถ์พูดกับนางแบบสาวว่าถูกมารดาบังคับให้หมั้นกับลูกสาวของเพื่อนแต่เขาไม่อยากจะหมั้นเลยสักนิดจึงปฏิเสธฝ่ายนั้นไปแล้ว
“เรนนี่ดีใจที่ได้ยินแบบนี้ ว่าแต่ทำไมคุณถึงไม่อยากจะหมั้นล่ะคะ” หญิงสาวถามเพราะถ้าเขาตัดสินใจจะหมั้นเธอก็จะใช้โอกาสนี้บอกเลิกเขา
“ก็ผมมีคุณอยู่แล้วไง อีกอย่างน้องแพรอะไรนั้นไม่ใช่สเปกผมเลย”
“เคยเจอกันแล้วเหรอคะ”
“เคยเจอเมื่อนานมาแล้ว ตอนนั้นเธอยังเป็นเด็กกะโปโลตัวคล้ำๆ ผอมเก้งก้าง สิวก็เขรอะใส่เหล็กดัดฟันสีชมพูดูยังไงก็ตลก”
“แต่ตอนนี้เธออาจจะสวยขึ้นก็ได้นะคะ”
“คนเราไม่น่าจะเปลี่ยนได้มากขนาดนั้น อยากมาก็คงดูดีในระดับหนึ่งแต่ความสวยคงสู้คุณไม่ได้หรอกเรนนี่”
อารมณ์ของแพรรดาเดือดปุดๆ เมื่อได้ยินคำพูดของผู้ชายที่ตนเองแอบชอบมาตั้งหลายปี และมันยิ่งกระตุ้นให้หญิงสาวอยากจะเอาชนะมากขึ้น
“พัดได้ยินที่เขาว่าแพรใช่ไหม”
“อือ ฟังแล้วมันน่าโมโห พัดว่าถ้าเขารู้ว่าตอนนี้แพรไม่เหมือนเมื่อก่อนเขาจะต้องเปลี่ยนใจและยอมหมั้นกับแพรแน่ๆ”
“แต่แพรว่าถ้าเราแสดงตัวตอนนี้มันก็ไม่สนุกสิ แพรอยากให้เขาหลงแพรจนโงหัวไม่ขึ้น”
“แพรสวยกว่าผู้หญิงคนนั้นอีกนะ แต่ยังขาดอะไรไปอย่าง”
“อะไรเหรอพัด”
“ก็มารยาหญิงไงล่ะ แพรสู้เธอคนนั้นไม่ได้เลย มันต้องยั่วหน่อยๆ เขาจะได้สนใจ” ภัทรานิษฐ์บอกเพื่อนไปอย่างที่ตนเองคิด
เรื่องหน้าตาเสื้อผ้าหน้าผมเธอก็คงพอสู้ได้แต่เรื่องยั่วยวนนี่สิ หญิงสาวคิดหนัก แล้วเธอก็ยิ้มออกเมื่อนึกได้ว่าเรื่องนี้ควรจะปรึกษากับใคร
“แพร พัดว่าเรารีบกินเถอะ” เมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวเอาแต่มองไปทางทิวัตถ์ เธอก็รู้สึกว่าอาการของเพื่อนคงจะหนักเอาการ
“แพรกินไม่ลงหรอกพัด” ก็เพราะภาพตรงหน้านั้นบาดตาบาดใจเธอเหลือเกิน
“วันนี้กินให้เต็มที่ก่อน จะได้มีแรง”
“กินก่อนก็ได้” ใบหน้าเธอยิ้มหากแต่แววตานั้นช่างดูไม่สดใสเลยสักนิด
พอแยกจากเพื่อนที่หน้าห้างใหญ่ใจกลางกรุง แพรรดาก็ขับรถไปหาเพื่อนสาวสุดจี๊ดคนหนึ่งที่เปิดคลาสสอนการแสดงอยู่อีกมุมเมือง
“ลมอะไรหอบมาไกลถึงนี่ยะ คุณหนูแพร” เสียงที่พยายามบีบให้เล็กของเพื่อนทำให้แพรรดายิ้มออก
ที่เธอเลือกขับรถมาหาชาญวุฒิหรือชาช่าเพราะว่าอยากให้เพื่อนคนนี้สอนเธอเรื่องจริตจะกร้าน รวมไปถึงท่าทางยั่วยวนที่เธอไม่ค่อยถนัด
หญิงสาวบอกถึงความต้องการของตัวเองกับเพื่อนสาวในร่างชายอย่างไม่ปิดบัง
“แกมาหาถูกคนแล้วล่ะ ฉันชาช่าคนนี้จะให้คุณหนูแพรแสนธรรมดาอย่างแกกลายเป็นแพรรดาสาวเปรี้ยวจี๊ดจนพ่อพระเอกของเธอยอมสยบแทบเท้า ไม่ต้องถึง 3 เดือนหรอก แค่ 1 อาทิตย์ก็พอ” เสียงนั้นฟังดูมั่นใจ
“ฉันก็หวังอย่างนั้น”
“แต่ฉันขอถามแกก่อนนะแพร ว่าถ้ามันเกิดเกินเลยไปไกลกว่าที่แกคิด แกจะรีบมันไหวแน่นะ”
“สำหรับฉันมันก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้วนี่ ถ้าฉันทำให้พี่วัตถ์หันมาชอบฉันภายในเวลา 3 เดือนไม่ได้ ฉันก็จะลาออกแล้วกลับไปทำงานกับพ่อ”
“แกชอบผู้ชายคนนี้มากขนาดนั้นเลยเหรอ”
“แต่ก่อนนะใช่ ฉันชอบเขามาก อาจจะเรียกว่ารักเลยก็ได้ แต่ตอนนี้ฉันก็แค่อยากจะเอาชนะ”
“แต่ดูแกลงทุนมากเลยนะแพร”
“แกก็รู้ว่าคนอย่างฉันไม่ชอบให้ใครมาเมินใส่ อีกอย่างฉันก็อยากให้เขารู้ว่าฉันในตอนนี้ไม่ใช่เด็กกะโปโลคนเดิมอีกต่อไปแล้ว”
“แกจะทำให้มันยุ่งยากไปหรือเปล่า ทำไมถึงไม่บอกเขาไปตรงๆ ล่ะว่าแกก็คือแพรรดาที่เขาเคยเจอหลายปีก่อน”
“ถ้าบอกมันก็ไม่สนุกสิชาช่า”
“แกนี้เจ้าคิดเจ้าแค้นเหมือนกันนะ”
“ใช่สิ ฉันต้องให้เขารู้ว่าอย่ามาดูถูกคนอย่างฉัน แล้วอะไรที่ฉันอยากได้ก็ต้องได้ ยิ่งเขาไม่อยากหมั้นฉันก็จะทำให้เขารู้ว่าไม่ควรปฏิเสธฉันตั้งแต่แรก”
“ก็จริงนะแก สมัยนี้อยากได้อะไรก็ต้องไขว่คว้า ตราบใดที่คนนั้นของแกยังไม่แต่งงานแกก็ไม่ผิดที่จะรุกหนักใส่เขาอย่างนี้”
“ชาช่าแกเป็นคนที่เข้าใจฉันจริงๆ” แพรรดากอดร่างหนาของเพื่อนแน่น เพื่อเป็นกำลังใจให้กับตัวเองในการรุกครั้งนี้ หญิงสาวมั่นใจว่าทิวัตถ์จะต้องเปลี่ยนใจและถึงตอนนั้นเธอจะทำให้เขาเจ็บให้สมกับที่เขากล้าปฏิเสธ
เมื่อเห็นความตั้งใจของเพื่อนชาญวุฒิก็เริ่มป้อนข้อมูลให้กับแพรรดาซึ่งหญิงสาวบันทึกทุกคำพูดและกิริยาท่าทางนั้นลงในโทรศัพท์เพื่อเอาไว้ทบทวนก่อนออกสนามจริงในวันพุธที่จะถึงนี้
“ขอบใจนะชาช่า” แพรรดาน้ำตารื้นกอดเพื่อนอีกครั้ง
“ส่วนเรื่องนั้น...” หญิงสาวในร่างชายมีสีหน้าวิกตกกังวลจนเห็นได้ชัด เพราะสิ่งที่แพรรดาขอร้องให้ช่วยอีกเรื่องนั้นเธอไม่เห็นด้วย
“ชาช่า แพรแค่อยากรู้ว่าจริงๆ แล้วมันต้องทำยังไงบ้าง”
“แกก็หาดูตามอินเตอร์เน็ตเอาก็ได้”
“มันไม่เหมือนกัน ฉันจะลงสนามทั้งที แกจะให้ความรู้ฉันแบบครึ่งๆ กลางอย่างนั้นเหรอ ถ้าเกิดเรื่องอย่างว่ามันเกิดขึ้นจริงแล้วฉันนอนแข็งเป็นท่อนไม้ขึ้นมา พี่วัตถ์คงได้หัวเราะเยาะฉัน เผลอๆ ได้โดนไล่ออกจากงานกันพอดี”
“เฮ้อ...”
“นะ นะ ชาช่าคนสวยของแพร ได้โปรด ...Please…”
“ก็ได้ย่ะ” แล้วเธอก็ต้องยอมใจอ่อนให้เบอร์โทรศัพท์ของรุ่นพี่คนหนึ่งที่เคยทำงานเป็นหญิงบริการมาหลายปี
“ขอบใจนะ ชาช่าคนสวย”
“ฉันรู้ว่าฉันสวย ไม่ต้องชมบ่อยก็ได้ย่ะ แล้วโทรไปคุยกับพี่เขาดีๆ นะ บอกเหตุผลเขาก่อนว่าทำไมถึงอยากรู้ ไม่ใช่ว่าไปถามเขาตรงๆ ว่าเวลาอยู่บนเตียงต้องทำอะไรบ้างผู้ชายถึงจะติดใจ แล้วเอาไว้แค่เป็นเครื่องประดับสมองนะแก ไม่ใช่ไปหัดทำจริงล่ะ”
“ฉันจะไปหัดทำแบบนั้นกับใครที่ไหนหรือแกจะเป็นคู่ซ้อมล่ะชาช่า”
“ต๊ายตาย.. ขืนฉันทำอย่างนั้นกับแกฟ้าได้ผ่าตายกันพอดี”
พอแยกจากเพื่อนแพรรดาก็สูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะกดโทรศัพท์ไปยังเบอร์โทรที่เพื่อนให้ไว้เมื่อวาน เธอรอสายอยู่ไม่นานก็ได้ยินเสียงรับสาย หญิงสาวแนะนำตัวเองให้คนปลายสายรู้จักก่อนจะบอกถึงจุดประสงค์ที่โทรศัพท์มาหา ปลายสายดูจะไม่แปลกใจเท่าไหร่คงเพราะชาญวุฒิโทรไปเกริ่นเรื่องของเธอก่อนหน้านั้นแล้ว
เพราะการคุยโทรศัพท์มันทำให้หญิงสาวนึกภาพไม่ออกเธอจึงนัดเจอกับผู้หญิงคนนั้นที่ร้านกาแฟซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของเธอนัก
พอแนะนำตัวกันแล้วทั้งสองก็ย้ายมานั่งคุยในรถของหญิงสาวเพื่อนที่จะได้คุยกันให้สะดวกมากขึ้น เธอถามทุกอย่างที่อยากรู้ เวลาผ่านไปนานกว่าแพรรดาจะยอมให้อีกคนลงจากรถ เธอไม่ลืมที่จะโอนเงินค่าเสียเวลาเข้าบัญชีของพี่ลูกตาลคนที่สอนในเรื่องที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน