บท
ตั้งค่า

3 คู่หมั้น

เย็นวันอาทิตย์ตามปกติแล้วทิวัตถ์ต้องมาทานอาหารเย็นที่บ้านกับครอบครัวแต่ที่แปลกจากเดิมก็คงจะเป็นสมาชิกบนโต๊ะอาหารที่มีเพิ่มมาถึงสองคนนั่นก็คือคุณทรงภพและภรรยาซึ่งทิวัตถ์คิดว่ามันต้องมีอะไรมากกว่าการทานอาหารธรรมดาแน่ๆ

แล้วชายหนุ่มก็คิดถูกเพราะหลังทานอาหารแล้วทุกคนก็มานั่งคุยกันที่ห้องรับแขกซึ่งเขาก็ถูกมารดาสั่งให้นั่งฟังด้วย

“วัตถ์จำได้ใช่ไหม ที่เราเคยคุยกันว่าถ้าวัตถ์อายุ 30 แล้วยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนวัตถ์จะต้องหมั้นกับผู้หญิงที่พ่อกับแม่หาให้”

“แต่ผมมีแฟนแล้วนะครับแม่”

“นั่นไม่เรียกว่าแฟนหรอกนะ แม่รู้ว่าลูกชายของแม่ฉลาดพอที่จะไม่คว้าผู้หญิงแบบนั้นมาเป็นแม่ของลูก”

“แต่ผมกับเธอก็ยังคบกันอยู่”

“แม่จะไม่พูดถึงเรนนี่อีกแต่แม่คิดว่าไม่นานเธอคงออกไปจากชีวิตของวัตถ์ แต่เรื่องที่แม่จะพูดต่อจากนี้คือเรื่องของวัตถ์กับหนูแพร”

“ผมกับน้องแพรทำไมเหรอครับ” เขาพูดพลางหันไปมองคุณอาทั้งสองอย่างไม่เข้าใจ

“วัตถ์จะต้องหมั้นกับหนูแพร”

“เราสองคนแทบไม่รู้จักเนะครับ ไม่ได้เจอกันสิบกว่าปีแล้ว จะให้หมั้นกันยังไง ขอโทษนะครับคุณอาที่ผมพูดตรงๆ”

“ไม่เป็นไร อาไม่บังคับก็แค่อยากฟังคำตอบเพราะเรื่องนี้อากับพ่อแม่ของวัตถ์คุยกันไว้ตั้งแต่หนูแพรเกิด ถ้าวัตถ์ไม่อยากหมั้นอาก็เข้าใจ”

“ขอบคุณครับคุณอา”

“ถึงอาภพจะเข้าใจหรือไม่โกรธแต่ยังไงพ่อก็อยากให้เรากับลูกสาวอาภพหมั้นกันจริงๆ วัตถ์จะไม่ลองทำความรู้จักน้องก่อนเหรอ เราสองคนน่ะเหมาะสมกันมากนะ”

“อย่าบังคับลูกเลยค่ะพี่ดิลก ณีกับภพเข้าใจหนุ่มสาวสมัยนี้ดี ยายแพรเองก็คงไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ วันนี้นัดกันแล้วว่าพามากราบพี่ทั้งสองยายแพรยังเบี้ยวนัดเลย”

“น้องแพรก็ไม่อยากหมั้นกับผมเหมือนกันใช่ไหมครับคุณอา”

“ยายแพรยังไม่รู้เรื่องหมั้นหรอกจ้ะ แต่ถ้ารู้ก็คงไม่ยอมง่ายๆ เหมือนกัน ลูกสาวอาน่ะชอบเอาชนะ ถ้าเราไปบังคับให้เขาทำอะไรเขาจะทำตรงข้าม อาสองคนถึงไม่โกรธที่วัตถ์จะปฏิเสธเรื่องหมั้น แล้วเรื่องนั้นเราก็คุยกันไว้ตั้ง 20 กว่าปีแล้ว”

“แต่พี่อยากให้เราเป็นครอบครัวเดียวกันจริงๆ นะ” คุณกัลยาพูดด้วยความเสียดาย

“พี่กัลยาคะ เราเป็นพี่เป็นน้องกันได้นี่ค่ะ เอาไว้มากรุงเทพครั้งหน้าณีจะพายายแพรมากราบคุณพี่ทั้งสองและพามาเจอวัถต์ วัตถ์คงไม่ว่าอะไรใช่ไหม”

“ไม่หรอกครับ ผมไม่ได้เจอน้องมานาน ได้เจอได้คุยกันเราสองคนอาจจะเป็นพี่เป็นน้องที่ดีต่อกันได้”

“อาก็อยากให้รู้จักกันไว้ ยิ่งตอนนี้น้องมาอยู่กรุงเทพคนเดียวอาก็เป็นห่วง”

“ผมคิดว่าน้องช่วยงานคุณอาที่สมุทรสาครเสียอีก”

“น้องอยากหาประสบการณ์ก่อนน่ะ แล้วค่อยกลับไปทำงานที่บ้าน อาอยากจะขอเบอร์โทรศัพท์วัตถ์ไว้หน่อยได้ไหม เผื่อน้องมีปัญหา เพราะกว่าอาจะขับรถมาถึงก็เกือบชั่วโมง”

“ได้ครับ”

กลับมาจากบ้านของคุณดิลกแล้วคุณทรงภพและภรรยาก็แวะหาลูกสาวที่คอนโดมิเนียมอีกครั้งก่อนกลับสมุทรสาคร

“ทำไมพ่อกับแม่ไปนานจัง หรือแอบแวะไปที่ไหนมาคะ”

“ไม่ได้แวะที่ไหนหรอกลูก เราก็แค่มีเรื่องคุยกันนิดหน่อย”

“คุณลุงคุณป้าสบายดีใช่ไหมคะ”

“ท่านสองคนสบายดี เอาไว้ครั้งหน้าแม่จะพาเราไปหาท่านนะ กลับมาตั้งหลายอาทิตย์แล้วยังไม่ไปเจอท่านเลย”

“ก็ได้ค่ะ แล้วแม่คุยธุระอะไรกับคุณลุงคุณป้าเหรอคะถึงได้กลับช้าขนาดนี้”

“ก็คุยเรื่องหมั้นของเขากับพี่วัตถ์ไงล่ะ”

“หมั้นเหรอคะ”

“ใช่สิ”

“หนูไม่หมั้นนะคะ จู่ๆ จะให้หมั้นกับใครที่ไหนก็ไม่รู้หนูไม่เอาด้วยหรอกนะคะแม่”

“หนูก็รู้จักพี่วัตถ์ดีนี่ ไม่ใช่ใครที่ไหนที่ไม่รู้จัก”

“แต่หนูไม่อยากหมั้นค่ะ พี่เขามีแฟนแล้ว”

“นั้นไม่ใช่แฟนสักหน่อย เขาก็แค่คบฆ่าเวลา ป้ากัลยาไม่มีทางให้เธอมาเป็นสะใภ้หรอก”

“ถึงเขาจะไม่มีแฟนหนูก็ไม่หมั้นหรอกค่ะแม่”

“หนูมั่นใจนะว่าไม่อยากจะหมั้นกับพี่เขาจริงๆ”

“ทำไมแม่ถามอย่างนั้นล่ะคะ”

“ก็แม่รู้ว่าหนูเคยแอบชอบพี่เขา”

“นั่นมันตอนที่หนูยังเด็กค่ะ แต่ตอนนี้หนูโตแล้วและพี่วัตถ์ก็ไม่ใช่ผู้ชายในสเปกหนูเลย” เป็นความจริงที่ว่าแพรรดาเคยชอบเขามากถึงตอนนี้ก็ยังคงชอบอยู่เธอถึงได้ไปสมัครงานที่บริษัทของเขาตามที่บิดามารดาของเธอของเขาแนะนำ แต่การเจอกันครั้งนี้ก็ทำให้หญิงสาวรู้สึกเสียความมั่นใจไปมากเพราะเขาจำเธอไม่ได้เลยสักนิด ทั้งที่แต่ก่อนเขาและเธอก็คุ้นเคยกันดีเพราะนอกจากบิดามารดาของทั้งสองจะเป็นเพื่อนกันแล้วพี่ชายของเธอกับเขาก็เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันและเขาก็มักไปนอนค้างที่บ้านของเธออยู่บ่อยครั้ง

“แม่ได้ยินแบบนี้ค่อยสบายใจหน่อย”

“สบายใจเหรอคะ หนูคิดว่าพ่อกับแม่จะโกรธหนูเสียอีก”

“แม่กับพ่อจะโกรธทำไม ในเมื่อที่คุยกันวันนี้พี่เขาก็ไม่อยากหมั้นกับหนูเหมือนกัน”

“เหรอคะ แล้วเขาบอกเหตุผลไหมว่าทำไมถึงไม่ยอมหมั้นกับหนู”

“แม่ก็ลืมถามเลย ว่าแต่หนูไม่โกรธใช่ไหมที่พี่เขาปฏิเสธแบบนั้น”

“ไม่หรอกค่ะ หนูเข้าใจ คนเราก็ไม่ชอบให้ใครมาบังคับ หนูเองยังไม่ชอบเลยพี่เขาก็คงไม่ชอบเหมือนกัน”

“ก็ดีนะที่บอกกันตรงๆ ไม่ใช่ว่ายอมหมั้นแล้วสุดท้ายมาเลิกกันทีหลังแบบนั้นจะมองหน้ากันไม่ติด”

“แต่ทำไมพ่อกับแม่ดูผิดหวังล่ะคะ”

“นิดหน่อยจ้ะ เพราะพี่เขาเหมาะสมกับหนูมากเลยนะ ดูท่าทางเป็นผู้ใหญ่ ทำงานก็เก่งแต่เมื่อทั้งสองคนไม่อยากจะหมั้นพ่อกับแม่ก็ไม่บังคับหรอก แล้วหนูจะเอายังไงต่อล่ะ จะทำงานที่บริษัทเขาต่อไปหรือจะกลับบ้านไปทำงานกับพ่อกับพี่ดีล่ะ”

“หนูจะทำงานที่เดิมว่าแต่หนูขอถามอะไรอย่างหนึ่งได้ไหมคะ” แพรรดามองหน้าบิดาด้วยสีหน้าจริงจัง

“ถามมาสิลูก” คุณทรงภพเห็นท่าทางของลูกสาวแล้วก็เริ่มคิดหนักเพราะท่าทางแบบนี้หมายความว่าหญิงสาวคงกำลังคิดจะทำอะไรบางอย่างซึ่งมันต้องเป็นอะไรที่ไม่เหมือนคนทั่วไปทำแน่ๆ

“พ่อกับแม่อยากได้พี่วัตถ์เป็นลูกเขยมากไหมคะ”

“อยากได้สิ ไม่ใช่แค่พ่อกับแม่ที่อยากได้เขาเป็นลูกเขยแต่ลุงดิลกกับป้ากัลยาก็อยากจะได้หนูเป็นสะใภ้ ว่าแต่หนูถามแม่ทำไมในเมื่อหนูเองก็ไม่อยากจะหมั้น”

“หนูว่าหนูเปลี่ยนใจแล้วค่ะ”

“แพรคิดจะทำอะไร”

“ก็ทำให้พ่อ แม่และลุงกับป้าสมหวังไงคะ”

ดรุณีมองหน้าสามีแล้วแอบยิ้ม เธอรู้ว่าลูกสาวเป็นคนชอบเอาชนะยิ่งได้ยินว่าอีกฝ่ายไม่อยากจะหมั้นก็ยิ่งกระตุ้นให้เธออยากจะทำตรงกันข้าม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel