12 มันก็แค่จูบ
แพรรดาออกมาจากห้องน้ำก็เจอกับทิวัตถ์ที่เดินลงมาจากชั้นสองพอดี
“บังเอิญจังนะคะท่านรองที่เราเจอกันที่นี่”
“อยู่นอกบริษัทเรียกผมว่าวัตถ์ก็ได้”
“ค่ะคุณวัตถ์”
“แล้วจะกลับหรือยังล่ะ ผมจะไปส่ง”
“รดายังไม่อยากกลับค่ะ กำลังคุยกับหมอวินสนุกอยู่เลย นี่ก็ว่าจะไปหาที่นั่งคุยกันต่อ คุณวัตถ์จะกลับแล้วเหรอคะ”
“ยั่วผมคนเดียวไม่พอหรือไง ถึงได้ยั่วคนอื่นไปทั่ว”
“รดาไม่ได้ยั่วนะคะ เราสองคนก็แค่คุยกันเท่านั้นเอง”
“แล้วคุยกันต้องถึงเนื้อถึงตัวขนาดนั้นเลยหรือไง แล้วที่บอกว่าจะออกไปคุยกันต่อที่อื่นผมว่าก็คงจะเป็นนอนคุยมากกว่าล่ะมั้ง”
“รดาจะทำอะไรมันก็เป็นสิทธิ์ของรดานี่คะ คุณวัตถ์เพิ่งจะบอกเองว่าที่นี่ไม่ใช่บริษัท”
“ถึงไม่ใช่บริษัทก็ถือว่าคุณเป็นคนของผมนะ”
“รดาไม่ได้คิดอย่างนั้นค่ะ เวลางานก็คือเวลางาน เวลาอยู่ข้างนอกทุกคนก็มีอิสระที่จะทำอะไรหรือไปนอนกับใคร รดาขอตัวก่อนนะคะไม่อยากให้เขารอนาน” พูดจบแพรรดาก็หมุนตัวตัวกลัว
“เดี๋ยวสิ” ทิวัตถ์คว้าท่อนแขนเธอไว้แล้วดึงให้หญิงสาวเข้ามาชิดจนความนุ่มหยุ่นปะทะกับแผงอกกว้างและเขายังใช้ท่อนแขนรัดเธอจนดิ้นไม่หลุด
“คุณจะทำอะไรคะ”
“ก็คุณบอกผมเองนี่รดา ว่าอยู่ข้างนอกทุกคนก็มีอิสระที่จะทำอะไรหรือไปนอนกับใคร แล้วทำไมไม่นอนกับผมเลยล่ะ”
“ทำไม่รดาจะต้องนอนกับคุณด้วยล่ะคะ”
“ผมเห็นนะว่าคุณพยายามยั่วผมมาตลอด แล้วทำไมตอนนี้ถึงปฏิเสธล่ะ”
“รดายั่วที่ไหนกันคะ”
“แน่ใจเหรอว่าคุณไม่เคยยั่วผม”
“ถ้าเกิดรดายอมรับล่ะคะ คุณจะทำยังไงกับรดาล่ะ จะไล่ออกเหรอคะ รดาว่ามันไม่ยุติธรรมเลย” แพรรดาทำเสียงอ้อน มือที่พยายามจะดันเขาออกคล้องไปบนไหล่เขา สายตามองเขาอย่างยั่วยวน ท่าทางนี้เธอฝึกทำหน้ากระจกจนมั่นใจแล้วว่ามันเซ็กซี่ชวนหลงใหล
“ผมก็จะทำให้คุณรู้ไงว่าคนอย่างผมไม่ชอบให้ใครมายั่ว”
“คุณวัตถ์...”
เขาโน้มใบหน้าเข้ามาแล้วกดริมฝีปากของตนลงบนริมฝีปากสีสวยโดยที่แพรรเดาไม่ทันตั้งตัว
แพรรดานิ่งเพราะไม่คิดว่าเขาจะจูบเธอในที่สาธารณะแบบนี้ บริเวณหน้าห้องน้ำแสงไฟไม่ค่อยสว่างมากเท่าไหร่ ชายหนุ่มจึงไม่เห็นว่าใบหน้าของหญิงสาวนั้นแดงจนลามไปถึงใบหู เธอเคยจูบมาแล้วกับแฟนหนุ่มสมัยที่ยังเรียนอยู่ แต่ความรู้สึกมันต่างกันจนแพรรดาทำอะไรไม่ถูก
พอเห็นเธอนิ่งเขากลับได้ใจ ทิวัตถ์ใช้ความชำนาญหลอกล่อให้แพรรดายอมเปิดปากให้เขาเข้าไปกวาดต้อนความหวาน เพียงปลายลิ้นสัมผัสแพรรดาก็ตัวสั่น สมองมึนงงไปหมดเธอตอบสนองจูบนั้นไปตามสัญชาตญาณที่ซ่อนอยู่ ทิวัตถ์ครางอย่างพอใจกับการตอบสนองที่ดูเหมือนจะอ่อนประสบการณ์แต่กลับทำให้เขาแทบไม่อยากจะหยุด
“แค่จูบคุณก็สั่นแล้วนะรดา แล้วอย่างนี้เวลาขึ้นเตียงไม่เป็นลมไปเลยเหรอ” เขาพูดพลางหัวเราะ
“เขาเรียกสั่นสู้ค่ะคุณวัต์ เรื่องอย่างว่าใครเขาจะเป็นลมกันล่ะคะ นอกเสียจากว่าฝ่ายชายจะแรงดีไม่มีตก”
“เหมือนคุณกำลังท้าทายผมอยู่นะรดา”
“เปล่านะคะ รดาก็แค่พูดความจริง รดาขอตัวก่อนนะคะ ไม่อยากให้หมอรอนาน”
“คุณเพิ่งจูบกับผมแล้วยังจะไปต่อกับคนอื่น ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้”
“มันก็แค่จูบนี่คะ ไม่มีอะไรเสียหายสักหน่อย ใครๆ เขาก็จูบกัน รดาไปอยู่ต่างประเทศมาเกือบสิบปีนะคะ เรื่องแบบนี้มันธรรมดามาก” แพรรดาพยายามเดินออกมาจากเขาทั้งที่ขาตนเองนั้นสั่นจนแทบจะก้าวไม่ออก กว่าจะเดินมาถึงโต๊ะก็แทบแย่
“ไปนานจังเลยนะครับ ผมนึกว่าคุณหนีกลับไปแล้ว”
“พอดีเจอเพื่อนค่ะ ก็เลยคุยกันนิดหน่อย หมอจะกลับหรือยังล่ะคะ”
“ยังครับ แต่ถ้าคุณอยากกลับเราก็กลับเลยก็ได้ รดามายังไงให้ผมไปส่งไหม”
“ไม่ต้องหรอกครับ เดี๋ยวผมไปส่งเธอเอง” ทิวัตถ์ที่เดินตามหญิงสาวมารีบบอก
“รดารู้จักเขาเหรอครับ” คุณหมอหนุ่มถาม
“ไม่ใช่แค่รู้จักธรรมดาหรอกครับ คุณอย่ารู้เลยว่าเราสองคนมีความสัมพันธ์แบบไหน ขอตัวก่อนนะครับ”
“เราไม่ได้เป็นอะไรกันหรอกค่ะ แต่คืนนี้รดาต้องกลับพร้อมเขา เอาไว้เราค่อยนัดเจอกันอีกครั้งนะคะ หมอโทรหารดาได้ตลอด”
“ได้ครับ ว่าแต่รดาจะกลับพร้อมเขาจริงๆ ใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ แล้วค่อยเจอกันนะคะ” เธอยิ้มหวานให้คุณหมอหนุ่มส่งท้ายก่อนที่จะถูกทิวัตถ์จูงมือออกมายังลานจอดรถ
“ถึงรถแล้วปล่อยมือรดาได้แล้วค่ะคุณวัตถ์”
ทิวัตถ์รีบปล่อยมือของเธอออก เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าไปจับมือเธอมาตั้งแต่ตอนไหน รู้แต่ไม่ชอบเลยที่เห็นเธอกับผู้ชายคนนั้นอยู่ด้วยกัน
“ขึ้นรถสิ เดี๋ยวผมไปส่ง”
“รดาเรียกรถกลับเองก็ได้”
“จะเรียกรถกลับเองหรือจะโทรให้คุณหมออะไรนั่นมารับล่ะ”
“รดาโทรแน่คะ แต่ไม่ใช่วันนี้” หญิงสาวมองหน้าเขาอย่างท้าทายก่อนจะขึ้นไปนั่งบนรถ เพราะขณะนี้เธอเองก็เริ่มจะง่วง
ทิวัตถ์ขับรถเข้ามาจอดที่หน้าคอนโดมิเนียมของแพรรดาในขณะที่หญิงสาวนั้นหลับลงไปแล้ว เขายังไม่ปลุกเธอในทันทีเพราะอยากจะมองหน้าเธออีกสักพัก ที่ผ่านมาเขาไม่เคยได้มองเธออย่างเต็มตาเลยเพราะเวลามองหน้าหญิงสาวทีไรเขาก็แพ้กับสายตาคู่สวยที่มองกลับมาทุกครั้ง แพรรดาเป็นผู้หญิงที่สวยและเป็นคนแรกที่เขาไม่ค่อยกล้าสบตาด้วย เธอทำให้เขาเสียอาการเกือบจะทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้
“มองรดาแบบใกล้ๆ แบบนี้คิดอะไรอยู่หรือเปล่าคะ”
“เปล่า” เขารีบกลับมานั่งตัวตรงอย่างเดิม
“ถึงนานหรือยังคะ แล้วทำไมไม่ปลุกล่ะ”
“ก็เห็นว่ากำลังหลับสบายไม่อยากจะกวน”
“แล้วถ้ารดาหลับถึงเช้าคุณไม่ต้องนั่งเฝ้าเหรอ”
“ไม่มีใครนั่งหลับได้ถึงเช้าหรอกน่า”
“เหรอคะ รดาก็แค่สมมุติ ขอบคุณนะคะที่มาส่ง” หญิงสาวปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วกำลังจะเปิดประตู
“เดี๋ยวสิรดา”
“อะไรคะ” แพรรดาหันมายิ้มหวาน เธอสังเกตว่าวันนี้แววตาที่เขาใช้มองนั้นไม่เย็นชาอย่างเคย แต่มันมีอะไรบางอย่างอยู่ในนั้น
“รถคุณซ่อมเสร็จหรือยัง”
“ค่ะ พรุ่งนี้เขานัดไปรับ”
“อันที่จริงเราไปทางเดียวกัน ไปพร้อมกันก็ได้ ที่จอดรถยิ่งไม่ค่อยพออยู่”
“รดาเกรงใจค่ะ นี่ก็รบกวนคุณมานานแล้ว รดาขับรถไปเองดีกว่า ขอบคุณนะคะที่ให้รดาติดรถไปทำงานตั้งหลายวัน” หญิงสาวชะโงกใบหน้ามาหวังจะหอมแก้มเขาอย่างเคยแต่วันนี้ทิวัตถ์รู้ทันเขาเลยหันหน้ามาแล้วปากของทั้งสองก็ประกบกันพอดี
แพรรดาไม่ทันได้ถอยฝ่ามือก็ตรึงท้ายทอยของเธอเอาไว้ แต่การจูบครั้งนี้เป็นการจูบที่ต่างฝ่ายต่างเต็มใจที่จะมอบให้แก่กัน มันหวานกว่าครั้งแรกจนแทบไม่อยากจะหยุด
“อื้อ...” หญิงสาวครางประท้วงเมื่อรู้สึกว่าเขากำลังทำให้เธอนั้นขาดอากาศหายใจ
“ผมชักจะติดใจจูบของคุณแล้วสิ” เขายอมถอนจูบออกแล้วพูดออกมาจากความรู้สึก
“รดาก็ชักจะติดใจแล้วเหมือนกันค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาส่ง” หญิงสาวพูดจบก็รีบลงจากรถแล้วเดินเข้าตึกโดยไม่คิดจะหันกลับมามองเพราะกลัวว่าเขาจะเห็นแววตาที่ตื่นเต้นของตนเอง