12 มารคอหอย (2)
"ทำไมเรื่องนี้มันจะไม่เกี่ยวกับเธอล่ะ...เรื่องนี้มันเกี่ยวกับเธอโดยตรงต่างหาก"
ท่านประธานพูดน้ำเสียงจริงจัง ส่วนมาเรียได้แต่ตาเบิกกว้างเพราะหญิงสาวกลัวว่าท่านประธานจะบอกความจริงเรื่องที่หญิงสาวได้นอนกับท่านประธานแล้ว...ตอนนี้มาเรียตกใจมากเพราะกลัวโดนไล่ออกจากที่ทำงาน
"ไม่นะท่านประธานอย่าพูดอะไรออกมานะคะมาเรียไม่อยากถูกไล่ออก"
มาเรียได้แต่มองสบตาท่านประธานเพื่อขอร้องอ้อนวอนว่าท่านประธานอย่าบอกเรื่องนี้กับคุณหญิงรัชนีเลย เพราะทุกคนที่เคยผ่านการทำงานเป็นเลขาและเคยนอนกับท่านประธานเพียงแค่ครั้งเดียวคุณหญิงรัชนีไล่ออกทุกคนเพราะกลัวเสียงาน
คุณหญิงรัชนีใส่ใจและฟิกเรื่องนี้มากว่าท่านประธานกับเลขาและพนักงานทุกคนในบริษัทห้ามมีสัมพันธ์ชู้สาวกันเด็ดขาด
มาเรียได้แต่มองสบตา ท่านประธานและวิงวอนว่าอย่าพูดเรื่องของเค้ากับเธอในตอนนี้เลย แต่ดูเหมือนท่านประธานจะไม่สนใจและใส่ใจมาเรียเลยแม้แต่น้อย ท่านประธานยังคงอมยิ้มและอยากแกล้งมาเรีย
"ลูกว่ายังไงนะเรื่องที่ลูกจะบอกกับแม่เกี่ยวข้องกับมาเรียยังไงเอ่ย ?
ผู้เป็นแม่ถามด้วยความฉงนและสงสัย
"อย่านะคะไม่นะคะท่านประธาน"
ตอนนี้มาเรียกรี้ดในใจ
"เรื่องนี้ก็ต้องเกี่ยวกับเลขาผมสิครับคุณแม่ เกี่ยวโดยตรงด้วย เพราะคนที่ดำเนินเรื่องนี้ทั้งหมดก็คือมาเรีย"
ท่านประธานยังพูดชวนให้สงสัย
"ลูกพูดมีลับลมคมในจังเลยนะ...มีอะไรก็บอกแม่มาสิ...แม่อยากรู้แล้ว"
คุณหญิงรัชนีเริ่มหงุดหงิดในใจที่ลูกชายมัวแต่พูดวกไปวนมา
"ก็ในเมื่อเรื่องดอกไม้,เรื่องสร้อยเพชร,มาเรียก็คงจะรายงานคุณแม่ไปเรียบร้อยหมดแล้ว คุณแม่ก็คงไม่ต้องมาถามผมแล้ว และคนที่เป็นคนจัดการจัดแจงเรื่องราวทั้งหมดก็คือเลขาผมคนนี้เพราะ ฉะนั้นเรื่องนี้ก็ต้องเกี่ยวกับมาเรียโดยตรงสิครับ เพราะเธอคือคนจัดการเรื่องราวทั้งหมด"
"โอ้ยเรื่องแค่นี้เอง..แม่ก็คิดว่าเรื่องอะไร ลูกพูดชวนให้แม่สงสัยคิดว่าลูกกับเลขาแอบไปมีความสัมพันธ์ชู้สาวกันอีกเหมือนคนที่แล้ว"
คุณหญิงรัชนีได้แต่ถอนหายใจ
"คุณท่านคะมาเรียรับรองว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นอย่างแน่นอนค่ะ...ถ้ามีก็แสดงว่ามาเรียไม่ได้ตั้งใจนะคะมันต้องเป็นอุบัติเหตุค่ะ มาเรียมาทำงานกับท่านประธานหวังแค่เงินเดือนค่ะไม่ได้หวังไต่เต้าหรือเอาเต้าไต่ นะคะมาเรียเพียงแค่หวังว่าทำงานที่นี่จะได้ประสบการณ์ที่ดีมีอนาคตไกลค่ะไม่ต้องการทำอย่างอื่นค่ะ คุณท่านสบายใจได้นะคะ"
มาเรียพูดพร้อมกับกราบไปที่ตักของคุณหญิงรัชนี คุณหญิงรัชนีได้แต่มองมาเรียแล้วใช้มือของตัวเองรูปที่ศีรษะของมาเรียเบาๆอย่างรักใครเอ็นดู
คุณหญิงรัชนีได้แต่ยิ้มแล้วก็พยักหน้าให้กับมาเรียแล้วหญิงสาวก็เดินออกจากห้องนี้ไปปล่อยให้สองคนแม่ลูกได้คุยกัน
"ตอนนี้เหลือแค่แม่กับลูกแล้ว แม่อยากถามลูกตามตรงว่าเบนล่าใช่ว่าที่เจ้าสาวในอนาคตของลูกหรือเปล่า !?
ผู้เป็นแม่ถามออกไปตามตรงไม่มีอ้อมค้อม
" หืม...คุณแม่ครับเบนล่าหรือว่าดารานักแสดงพวกนั้นไม่มีทางได้เป็นเจ้าสาวของผมแน่นอนครับ อย่างมากก็ได้เป็นแค่คู่นอนหรือคู่ควงเล่นเล่นก็แค่นั้นเอง ไม่มีทางได้เป็นเจ้าสาวของผมอย่างแน่นอน !
"อ้าว...แล้วตะกี้มาเรียบอกว่าลูกใช้ให้เธอ ไปซื้อชุดเครื่องเพชรที่มีราคาถึง 50 ล้านบาทมาให้ดาราสาวที่ชื่อเบนล่าไม่ใช่เหรอลูก...แล้วถ้าลูกไม่ชอบเธอแล้วทำไมลูกถึงเสียเงินตั้งมากมายซื้อของให้เธอได้ถึงขนาดนี้ล่ะ ?
ผู้เป็นแม่สงสัย
"คุณแม่ครับผมให้มาเรียไปซื้อจริงครับ แต่ผมไม่ได้ให้เบนล่า เลขาของผมเค้าเข้าใจผิดผมไปเอง ผมกับเบนล่าเราก็แค่วันไนท์สแตนด์กันครับคุณแม่ ก็แค่คู่นอนคู่ควงกันเหมือนคนอื่นเธอเข้าใจผิดเองทั้งหมดชุดเครื่องเพชรก็ยังอยู่ที่ผม"
เมื่อพูดจบชาคริตก็หยิบชุดเครื่องเพชรทับทิมสยามมาให้ผู้เป็นแม่ได้ดูผู้เป็นแม่หยิบมาดูและเปิดออกตาลุกวาวด้วยความสวยงามจนตะลึง
"โอ้โหสวยงามจริงๆด้วย..หนูมาเรียตาถึงมากเลยนะเนี่ย วันนี้เมื่อตอนบ่ายแม่ก็ไปมาแม่ยังไม่เจอชุดเครื่องเพชรชุดนี้เลย...แล้วสรุปแล้วลูกซื้อไว้ให้ใครกันแน่จ๊ะ...บอกแม่มาเดี๋ยวนี้เลย !
ผู้เป็นแม่พูดพร้อมกับหัวเราะชี้ไปที่ใบหน้าของลูกชายสุดหล่อของตัวเอง
"ถ้าผมหาผู้หญิงที่เหมาะสมและคู่ควรกับชุดเครื่องเพชรชุดนี้ไม่ได้ ผมก็คงต้องยกให้คุณแม่ละครับ"
ชาคริตยิ้มหวานให้แม่
"โอ้ยแม่ไม่เอาหรอก จะเอาไปทำไม ของแม่ก็ตั้งเยอะตั้งแยะแล้ว ลูกเก็บไว้ให้ผู้หญิงที่ลูกรักลูกชอบเถอะ แม่ไม่เอาเครื่องเพชรแม่จะเอาลูกสะใภ้"
ผู้เป็นแม่พูดออกมาอย่างน้อยใจที่ลูกชายไม่หาลูกสะใภ้ให้สักที
"โถ่ ! คุณแม่ครับ คนที่รักเราและเรารักเขาไม่ได้หากันได้ง่ายง่ายนะครับคุณแม่ ถ้าผมโชคดีเหมือนคุณพ่อที่ได้เจอคุณแม่แบบนี้ก็ดีสิครับ แต่ผมยังไม่เจอคุณแม่ก็อย่าบังคับผมเลยนะครับผมขอร้อง"
"แม่ก็ไม่ได้บังคับลูกมาเกือบ 30 กว่าปีแล้วเนี่ย..ตอนนี้แม่อยากบังคับลูกแล้ว ตอนนี้เหลือเวลาอีกสองเดือนครึ่งนะถ้ายังหาลูกสะใภ้ให้แม่ด้วยตัวเองไม่ได้แม่จะเป็นคนหาเอง"
ผู้เป็นแม่บอกอย่างเอาแต่ใจตัวเอง ลูกชายได้แต่ทำหน้าแอบเซ็ง
"นี่ชาคริตไม่ต้องมาทำหน้าแบบนี้เลยนะ ห้ามทำหน้าแบบนี้ใส่แม่เข้าใจไหม !?
"ครับคุณแม่"
"แม่จะกลับละอย่าลืมนะอีก 75 วันลูกต้องหาลูกสะใภ้ให้แม่ให้ได้ ถ้าหาไม่ได้วันที่ 76 ลูกก็ เตรียมตัวแต่งงานเตรียมตัวใส่ชุดเจ้าบ่าวได้เลยเดี๋ยวแม่จะเป็นคนเนรมิตให้ทั้งหมดเมื่อถึงเวลานั้นลูกอย่าหาว่าแม่ใจร้ายก็แล้วกัน ทั้งชีวิตนี้แม่ไม่เคยบังคับอะไรลูกเลย แม่ปล่อยลูกให้ดำเนินชีวิตด้วยตัวเองมาโดยตลอดแม่ไม่เคยบังคับอะไรลูกเลย ส่วนเรื่องบริษัทอันนั้นพ่อบังคับลูกเองอันนี้แม่ช่วยไม่ได้ แต่แม่อยากได้ลูกสะใภ้ ไม่รู้แหละยังไงภายใน 75 วัน หาลูกสะใภ้ให้แม่ไม่ได้แม่คงต้องหาเองแม่กลับละพรุ่งนี้แม่จะได้เตรียมตัวหาลูกสะใภ้แม่จะได้โทรหาเพื่อนที่มีลูกสาวแล้วนัดทานข้าวกัน และที่สำคัญลูกจะต้องไปด้วย !?"
"แต่ว่าคุณแม่ครับ !?
ลูกชายประท้วง
"ไม่มีแต่..ถ้าพรุ่งนี้ลูกไม่อยากไปทานอาหารกับเพื่อนแม่ลูกก็หาเหตุผลดีดีโทรบอกแม่ก็แล้วกัน แต่ถ้าเหตุผลฟังไม่ขึ้นไม่ดีพอไม่ถูกใจแม่ก็เตรียมตัวได้เลย ต้องไปทานมื้อเที่ยงกับแม่และว่าที่ลูกสะใภ้แม่เข้าใจไหม !?
ลูกชายได้แต่คอตก เมื่อพูดจบคุณหญิงรัชนีก็ลุกขึ้นพร้อมกับกระเป๋าถือเดินออกไปจากเซฟเฮาส์ของลูกชายทันที
"สวัสดีค่ะคุณท่าน !
มาเรียที่ยืนอยู่ประตู ด้านหน้ายกมือไหว้คุณหญิงรัชนี
"มาเรียเธอต้องรีบหาภรรยาให้กับท่านประธานเธอนะ ถ้าไม่อยากให้ท่านประธานของเธอถูกฉันจับคงถุงชนกับลูกสาวของเพื่อนเข้าใจไหม !?
มาเรียกอมยิ้ม
"เข้าใจค่ะคุณท่าน"
"ดีมากฉันรักและเอ็นดูเธอมากนะมาเรีย ฝากเธอด้วยก็แล้วกันเรื่องลูกสะใภ้ฉันน่ะ อย่าทำให้ฉันผิดหวังนะ"
"ค่ะคุณท่าน"
มาเรียยกมือไหว้อีกครั้ง แล้วคุณหญิงรัชนีก็เดินตรงไปที่รถคันงามของตัวเองแล้วคนขับรถก็เปิดประตูให้แล้ววิ่งอ้อมไปอีกด้านเพื่อประจำตำแหน่งของคนขับรถ แล้วรถยนต์คันงามก็ค่อยค่อยขยับตัวออกไปอย่างช้าๆจนลับสายตา
ส่วนท่านประธานก็ได้ยืนกอดอกเพลงอยู่กับประตูห้องรับแขกได้แต่มองมาเรียที่ยืนอยู่ด้านหน้าประตูบานใหญ่อย่างเพลงพินิจและกำลังคิดวางแผนอะไรซักอย่าง อยู่ในใจคนเดียว
เมื่อมาเรียเห็นว่าคุณหญิงรัชนีกลับไปแล้วตอนนี้เธอก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องอยู่บ้านของท่านประธานอีกแล้ว หญิงสาวรีบใส่รองเท้าแล้วเดินตรงไปที่โรงจอดรถเพื่อจะขับรถกลับบ้านทันที แต่หญิงสาวแค่ใส่รองเท้าแล้วเดินไปไม่กี่ก้าวเสียงของท่านประธานก็ดังขึ้น
"มาเรียเธอจะไปไหน ! กลับมาหาฉันที่ห้องเหมือนเดิมและเดี๋ยวนี้ด้วย"
ท่านประธานออกคำสั่งแล้วเดินเชิ่ดเข้าไปในบ้านทันที ส่วนมาเรียได้แต่หน้านิวคิวคิ้วขมวดด้วยความไม่พอใจแต่สุดท้าย เธอก็ต้องเดือนหลังตามหลังท่านประธานเข้าไปในบ้าน.....
