บท
ตั้งค่า

พ่อกับลูกพอ ๆ กัน

ยิ่งห้ามก็ยิ่งรั้น ยิ่งปรามเหมือนยิ่งยุ

“ ปราง คุณไม่น่ารีบทิ้งผมไปเลย มันคงจะดีกว่านี้ถ้า ลูกชายมีแม่คอยดูแล ” เขาเงยหน้ามองฟ้าแล้วพร่ำรำพันถึงภรรยาที่จากไปเมื่อสิบปีก่อนแล้วถอนใจยาว

“ เอาวะ มันยอมกลับมาช่วยงานก็ดีแล้ว เราจะได้วางมือเสียที ไม่อยากกลับไปทำงานอีกแล้ว ไปตีกอล์ฟดีกว่า ”

นายเจนภพว่าก่อนจะผิวปากแล้วเดินสลับกระโดดดึ๋ง ๆ อย่างร่าเริงราวกับเด็กน้อย คนรับใช้ที่ยืนอยู่เบื้องหลังอดที่จะหัวเราะขำเจ้านายกันไม่ได้

บ้านนี้ พ่อกับลูกก็พอ ๆ กันนั่นแหละ…

“ นี่คือคุณอรนภา ตำแหน่งเลขานุการผู้บริหาร ท่านคงจะรู้จักอยู่แล้วเพราะเห็นว่าคุณแม่ของคุณอรเคยอยู่ที่บ้านของท่านมาก่อน ” เสียงกล่าวแนะนำของคุณไตรภพนั้นดึงเจตให้ออกจากภวังค์ได้

“ ใช่ ผมเคยรู้จักเธอ แม่ของเธอเคยเป็น คนรับใช้ที่บ้านของผม ”

คำว่า คนรับใช้ เสมือนชายหนุ่มจะเจาะจงเน้นย้ำให้หญิงสาวตรงหน้าได้ยินชัด ๆ เผื่อหล่อนจะได้เจียมเนื้อเจียมตัว ลดอาการเชิดหน้าเชิดตาและมองเขาอย่างจับผิดและตำหนิติเตียนเช่นนั้น มันทำให้เขาเสียดแปลบในอกและนึกถึงวัยเด็ก

ภาพเด็กสาวตัวเล็กจ้อย อายุน้อยกว่าเขาเพียงหนึ่งปีแว้บเข้ามาในหัว เธอตัวเล็กก็จริงแต่ความสามารถไม่ได้เล็กตาม เรียนก็เป็นที่หนึ่งมาตลอด กิจกรรมก็เก่ง การบ้านการเรือนอะไรก็ไม่มีขาดตกบกพร่อง เก่งไปเสียทุกอย่างด้วยคนเป็นแม่คอยพร่ำสอน อีกทั้งความเป็นเด็กดีน่ารักของเธอก็ทำให้คนรับใช้อื่น ๆ พลอยรักใคร่เอ็นดู ทุกคนก็เลยช่วยดูแลและถ่ายทอดทักษะการทำงานต่าง ๆ ให้จนหมดเปลือก ทั้งงานครัว งานบ้าน

รวมไปถึงคุณมะปราง มารดาของเจตที่มีแต่ลูกชาย เลยเอ็นดูอรนภา หรือน้องอร ของคนในบ้านไปด้วย ท่านชอบให้เธอเข้าไปอ่านหนังสือให้ฟังและสอนมารยาท การเข้าสังคมให้กับเด็กน้อยด้วย และความที่เธอเป็นคนหัวไว พร้อมที่จะ ซึมซับและตั้งอกตั้งใจทุกสิ่งทุกอย่างจึงทำอะไรได้อย่างรวดเร็ว สมอกสมใจคนพร่ำสอน ทำให้เป็นที่เอ็นดูรักใคร่เป็นพิเศษ

แม่อุไร แม่ของอรนภานั้นเป็นแม่ม่ายสามีตายตั้งแต่ลูกยังไม่ถึงขวบ นางรับใช้ครอบครัวของเจตมานานด้วยความภักดี ทำให้เป็นที่รักและเมตตาของเจ้านาย ความเมตตานั้นเลยมาถึงน้องอรผู้เป็นลูกสาว เธอจึงถูกส่งให้เข้าเรียนที่เดียวกับลูกชายของเจ้านาย ท่านรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่าง

และนั่นทำให้เด็กชายผู้ดื้อรั้น ไม่ตั้งใจเรียน ดื้อด้านอย่างเจตจึงถูกตำหนิบ่อยครั้ง แถมยังถูกนำไปเปรียบเทียบกับน้องอรอีกด้วย

“ เจต ลูกเรียนยังไงเนี่ย แทบจะไม่ผ่านอยู่รอมร่อ ขนาดอยู่ประถมหนึ่งยังแย่ขนาดนี้ ตั้งใจเรียนให้มากขึ้นหน่อยสิลูก ” คุณแม่บ่นเมื่อได้รับผลการเรียนประจำเทอมหนึ่ง

“ โธ่ คุณแม่ครับ ก็ผมไม่ชอบนั่งเรียนอยู่ในห้องนี่ น่าเบื่อตายชัก ผมชอบเล่นกีฬา เรียนวิชาพละกับศิลปะพวกวิชาเลข วิชาภาษาไทยมันไม่สนุกนี่นา ”

“ เป็นนักเรียนก็ต้องตั้งใจเรียนมันทุกวิชานั่นแหละจะมาเลือกอยากเรียนบางวิชาได้ยังไงกัน นี่ขนาดมีหน้าที่แค่เรียนกับเล่นอย่างเดียวนะ ดูเจ้าอรซิ ทั้งเรียนทั้งช่วยงานที่บ้าน ยังเรียนได้เต็มร้อยทุกวิชาเลย เราน่ะมันไม่เอาไหน ประเดี๋ยวแม่จะจ้างครูมาสอนพิเศษที่บ้าน ”

“ เฮ้ย ไม่เอา ! เรียนที่โรงเรียนก็ปวดหัวตายชักแล้ว ” เด็กชายปฏิเสธพัลวัน นั่นทำให้คนเป็นแม่ถลึงตาใส่

“ ดูซิดู พูดจาก็กระโชกโฮกฮากหยาบคาย มาฮุ้ยมาโฮ้ยใส่แม่ได้ยังไง ก็เราอยากเรียนแย่เองนี่นา ไม่ได้ ยังไงแม่ก็ไม่ยอมล่ะ ยังไงเจตก็ต้องเรียนพิเศษ ”

“ แต่ผมไม่อยากเรียนนี่นา ผมสัญญานะครับว่าจะตั้งใจเรียนให้มากขึ้น อย่าให้ผมเรียนเลยนะครับแม่ ” เด็กน้อยทำตาอ้อนวอน แต่คนเป็นแม่นั้นไม่เชื่อสักนิด

นางมีลูกชายสองคน เกิดห่างกันห้าปี คนโตคือจอมทัพ ตอนนี้จบประถมหกแล้วและถูกส่งไปเรียนต่อชั้นมัธยมที่อังกฤษ จอมทัพเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน ว่าง่ายสอนง่าย ต่างกันลิบลับกับน้องชายที่ทั้งดื้อรั้นและเอาแต่ใจที่สุด

“ ได้ แม่ไม่จ้างครูข้างนอกมาสอนก็ได้ แต่จะให้คนอื่นสอนแทน ”

“ ใครครับ ”

“ คนที่เจตคุ้นเคย น้องอรไง ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel