EP.2 ค่ำคืนโรแมนติก (2)
@เส้นชัย
"กูไม่รู้ต้องหอนอีกกี่ครั้งเลยให้คู่ของไอ้วินด์"
คลินต์พูดขึ้น และมองตรงไปยังเพื่อนสนิทอีกคนของเขากับแฟนเก่ารอบที่ร้อยล้านของมัน ที่กำลังยืนกอดกันกลมอยู่เบื้องหน้า
พวกมันทำเหมือนกับว่าโลกใบนี้มีแค่พวกมันสองคน
วินด์เซอร์ทั้งกอดทั้งปลอบขวัญ ยัยไอรีน (แฟนเก่า) อย่างไม่สนใจสายตาคู่อื่น ๆ ที่มองไปทางมันเลยแม้แต่นิดเดียว
"มึงก็รู้ สองคนนี้ไม่มีวันตัดกันขาดหรอก" ไทม์โซนที่ยืนอยู่ก่อนหน้าก็เอ่ยขึ้นและมองทั้งคู่นิ่ง ๆ
"เรียกว่าโง่ซ้ำโง่ซากน่าจะเหมาะกว่า"
"เป็นควายไม่เลิกสักที!" ฟาเรนมองตรงไปที่คู่รักตรงหน้าอย่างไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่
"ไว้มึงมีเมียเมื่อไหร่กูจะคอยดูว่ามึงจะโง่กว่าไอ้วินด์มันไหม?"
ไทม์โซนหันมาแขวะใส่เพื่อนรักหล่อเท่แสนปากดีของเขาทันที
ในความคิดส่วนตัวแบดบอยสุดโหดคนนี้ เขามองว่าวินด์เซอร์กำลังถูกสาวสวยอย่างไอรีนหลอกจูงจมูกเดินไม่ต่างจากควายตัวหนึ่ง
เพราะไอรีนควบคุมชีวิตของเพื่อนรักเขาทุกอย่าง เธอควบคุมวินด์เซอร์ไปหมดทุกเรื่อง และดูเหมือนเพื่อนรักของเขาก็ยอมตกอยู่ใต้อำนาจของผู้หญิงคนนี้
นั่นคือสาเหตุที่ทำให้เขาพาลไม่ชอบไอรีนไปด้วย แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้
และด้วยความที่วินด์เซอร์เองก็คือหนึ่งในเพื่อนรัก ในบางครั้งที่ไอรีนมีปัญหา หรือมีเรื่องกับคนอื่น ๆ ฟาเรนก็จำใจยื่นมือเข้าไปช่วย
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ชอบเธอสักเท่าไหร่ก็ตาม เพราะสุดท้ายแล้ว ถ้าเพื่อนรักใคร เขาก็ทำได้แค่ยอมรับอยู่ดี
"กูไม่โง่ยอมเป็นทาสของผู้หญิงหน้าไหนทั้งนั้น" ใบหน้าหล่อร้ายพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
เพราะสำหรับคนอย่างฟาเรน มีแต่ผู้หญิงสวย ๆ พุ่งเข้าหาและพร้อมจะยอมตกเป็นของเขาอย่างไม่มีเงื่อนไขใด ๆ
เขาไม่เคยต้องยอมให้ใครหน้าไหนทั้งนั้น
ด้านวินด์เซอร์ เขากำลังกอดปลอบใจคนรักของตัวเอง เนื่องจากถูกฟาเรนกับคลินต์ไปจับมาเป็นตัวประกัน ล่อให้ตัวเขายอมกลับมาแข่งรถในค่ำคืนนี้
และขณะที่เขาเดินประคองแฟน (เก่า) เพื่อพาเดินกลับไปขึ้นรถที่จอดอยู่ไม่ไกล ทั้งฟาเรนกับคลินต์ก็เดินเข้าไปหาพวกเขาทันที แต่ยังไม่ทันจะอ้าปากพูดอะไร
"ถ้าเหี้ยขนาดที่จับไอรีนมาเป็นตัวประกันได้" วินด์เซอร์ที่เดินมาประจันหน้ากับคลินต์และฟาเรน ก็เอ่ยขึ้นทันทีที่อยู่ใกล้กันในระยะประชิดตัว
"กูก็ไม่ขอคบเพื่อนเหี้ย ๆ แบบพวกมึงต่อแล้วเหมือนกัน!" วินด์เซอร์พูดขึ้นด้วยใบหน้าที่จริงจัง และกวาดสายตามองเพื่อนรักของเขาทั้งสองคน
ไทม์โซนเหมือนจะรอดจากสายตาพิฆาตนี้ เพราะมันไม่รู้เรื่อง
ส่วนคนที่วางแผนอย่างฟาเรนก็ถูกพูดกระแทกใส่หน้าแบบเต็ม ๆ
ทุกคนเงียบอย่างรู้ดีว่าตอนนี้วินด์เซอร์กำลังโกรธหนักมาก ๆ คนอย่างวินด์เซอร์เป็นคนพูดน้อยแต่มันต่อยหนัก
"นี่มึง!" แต่แล้วคนที่ใจร้อนอย่างฟาเรนก็อดไม่ได้ที่จะพุ่งเข้าหาวินด์เซอร์หลังจากที่เขาพูดจบ
ทั้งไทม์และคลินต์ก็พร้อมใจกันรั้งแขนของเขาเอาไว้แน่น ขณะที่วินด์เซอร์พาตัวไอรีนขึ้นรถของมันและขับออกไปจากสนามกว้างแห่งนี้ทันที
"ไอ้เหี้ยเอ๊ย!" ฟาเรนสบถออกมาลั่น พร้อมกับสะบัดแขนของคลินต์กับไทม์ออกอย่างแรง
"แค่มึงอกหัก มึงยังจะทิ้งทุกอย่างที่สร้างมาด้วยกันกับกูไปได้เลย" เขาตะโกนไล่หลังรถของวินด์ที่ขับออกไปไกลพอสมควรแล้ว
"แล้วคนแบบมึงกูยังเรียกว่าเพื่อนได้อยู่เหรอวะ!"
"ถ้าไม่เอาไอรีนมาเป็นตัวประกัน คนเหี้ยอย่างมึงจะยอมมาแข่งรถไหม?"
ฟาเรนตะโกนไล่หลังรถสีดำคันหรูของวินด์เซอร์ไป โดยที่ไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายจะได้ยินเสียงของเขาหรือไม่ แต่เขาต้องการพูดไปเพื่อระบายความโกรธภายในใจเพียงเท่านั้น
"เฮ้ย มึงใจเย็นก่อนดิ" ผู้ชายหน้าหวานอย่างไทม์โซนเดินเข้ามาแตะไหล่เพื่อนตัวเองเบา ๆ
"เย็นเหี้ยอะไร?" ฟาเรนหันกลับมาขึ้นเสียงใส่ไทม์อีกครั้ง
"ไอ้วินด์มันก็มีเหตุผลของมันนะเว้ย" หนุ่มหน้าหวานยังคงพูดอย่างใจเย็น ขณะที่อีกฝ่ายกำลังร้อนเป็นไฟ
"เพื่อนแท้มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้านสิวะ" คลินต์เดินมาคล้องคอของฟาเรนด้วยอีกคน
"ตอนนี้มันมีความสุขก็ปล่อยมันไป"
"ไว้มันมีทุกข์เมื่อไหร่ เราก็พร้อมจะอยู่ข้าง ๆ มัน"
ฟุ่บ ฟุ่บ ฟาเรนปัดแขนของเพื่อนรักทั้งสองคนออกจากไหล่กว้าง ๆ ของเขา
"กูไม่ได้โลกสวยเหมือนพวกมึง!" เขาพูดกระแทกเสียงใส่เพื่อนทั้งสองคน พร้อมกับหยิบซองบุหรี่และไฟแช็กมาจุดสูบ เพื่อระบายความเครียดและอารมณ์ที่เดือดดาลของตัวเองในตอนนี้
เขาลนไฟเข้าที่ปลายบุหรี่และสูบนิโคตินเข้าไปพร้อมกับปล่อยควันออกมาทางจมูกอย่างรู้สึกผ่อนคลายและเย็นวาบขึ้นไปถึงยังขมับ
เมื่อสารนิโคตินเข้มข้นถูกสูบเข้าไปทางปากและปล่อยควันออกมาผ่านทางจมูก ก็ช่วยให้คนหัวร้อนอย่างฟาเรนเย็นขึ้นมาได้บ้างเล็กน้อย เขายื่นซองบุหรี่ส่งไปทางคลินต์ต่อ
"แล้วเพื่อนไอรีนที่มึงจับตัวมาล่ะ?" คลินต์รับบุหรี่มาพร้อมกับเอ่ยถามถึงน้ำขิง เพื่อจงใจเปลี่ยนเรื่องคุยทันที
เพราะรู้ดีว่าฟาเรนยังคงโกรธเคืองกับประโยคที่วินด์เซอร์พูดทิ้งท้ายเอาไว้ และก็ตอนที่พวกเขาไปจับตัวไอรีน เธออยู่กับเพื่อนสนิทอีกคน ฟาเรนเลยจำเป็นต้องโปะยาสลบแล้วลากมาด้วย
"กูก็กำลังจะไปชำระหนี้แค้นกับยัยนั่นอยู่เหมือนกัน" ฟาเรนกำหมัดแน่น พ่นควันบุหรี่ออกมาจากเรียวปาก พร้อมกับแสยะยิ้มเล็กน้อย
คลินต์คาบบุหรี่อยู่ที่ปากและมองสำรวจบาดแผลตามตัวของฟาเรนไปด้วย
"คนที่เตะผ่าหมากมึง จนเกือบจะใช้งานไม่ได้น่ะเหรอ?" ไทม์โซนเอ่ยถามขึ้นแบบไม่ทันได้คิดอะไร
"ไอ้ไทม์ เดี๋ยวนี้มึงปากดีกับกูซะเหลือเกินนะ สงสัยมึงคงอยากโดนกระทืบตรงนี้ใช่ไหม?" ฟาเรนหันไปแยกเขี้ยวใส่เพื่อนตัวเองอย่างหัวร้อนตามสไตล์นั่นแหละ
"กูว่าก่อนมึงจะกระทืบใคร" คลินต์พูดแทรกขึ้นมาพร้อมกับมองใบหน้าของฟาเรนด้วยสายตาเอือมระอา
"มึงไปทำแผลก่อนเถอะ เลือดไหลไม่หยุดเลย" คลินต์จิ้มไปที่บาดแผลตรงศีรษะอย่างจงใจแกล้งฟาเรน
ฟุ่บ! ร่างสูงปัดมือของอีกฝ่ายทิ้งและขึ้นเสียงกลับไป
"ไอ้เพื่อนเวรเอ๊ย!" ฟาเรนรีบยกมือป้องแผลตัวเองทันที
"ทำแผลเสร็จแล้วไปเจอกันผับเดิมนะ พวกกูจะไปจองโต๊ะก่อน"
คลินต์พูดขึ้นพร้อมกับโยนบุหรี่ลงกับพื้นและขยี้ซ้ำจนไฟดับไป
"เออ!" ฟาเรนเอ่ยตอบไป พร้อมกับโยนบุหรี่ทิ้งลงพื้น และเดินข้ามสนามตรงไปยังเต็นท์ปฐมพยาบาลทันที
@เต็นท์ปฐมพยาบาล
"ผู้หญิงที่นั่งรถมากับฉัน...อยู่ไหน?" ฟาเรนขมวดคิ้วเอ่ยถามบุรุษพยาบาลเสียงแข็ง ๆ พร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบ ๆ