21 ลงโทษนภิสด้วยรสสวาท 2
นานเท่านานกับการกระทำสุดเถื่อน แต่ก็เป็นเรื่องแปลกที่เขาเดินหน้าไปนาน ๆ ความเจ็บปวดที่ได้รับในครั้งแรก กลับเปลี่ยนเป็นซาบซ่าน
เธอรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ เมื่อเขาย้ำอยู่กับที่เป็นเวลานาน กลายเป็นความวาบหวามจนเผลอกับความสุขที่ได้รับ กระทั่งไม่อาจทนได้ เธอร้องคราง หลับตา เผลอกอดเขาแน่น
อัคนีเห็นดังนั้นรุดหน้าไปเร็ว ๆ จนตามเธอไปจนทัน ก่อนจะปลดปล่อยความอัดอั้นออกไป แล้วจูบที่แก้มเธอด้วยความลืมตัว
เขารู้ว่าหญิงสาวไม่เคยผ่านมือชายมาก่อน จากที่คิดว่าเธอมั่วผู้ชายเป็นแค่เพียงการเข้าใจผิดไปเอง เขามองหญิงสาวด้วยความเห็นใจ
ทว่าความร้ายกาจของรังรองที่เคยกระทำกับพี่ชาย ทำให้เขาโกรธเธอจนผละออกจากร่างบาง โดยไม่มองเธอแม้แต่หางตา
เมื่ออัคนีอยู่ในห้องทำงานเพียงลำพัง รู้สึกละอายใจที่ทำลายผู้หญิงบริสุทธิ์ที่ไม่เคยผ่านมือผู้ชายมาก่อน สีหน้าเหยเกกับเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด ทำให้เขารู้ว่านภิสทรมานมาก
ไม่รู้ว่าผีห่าซาตานตนไหนเข้าสิง ดลใจให้เขากระทำ แต่ไม่หยุดที่จะข่มเหงเธอ ทั้งที่รู้ว่าเธอสะอาดผุดผ่อง เขาเหมือนซาตานบ้าตัณหา ไม่ควรที่จะได้รับการให้อภัย
“ผมขอโทษครับคุณนภิส ผมไม่ได้ตั้งใจ”
เขาเผลอพูดขอโทษออกมา แต่ไม่กล้าที่จะขอโทษเธอแบบตัวต่อตัว เพราะกลัวสายตาที่มองด้วยความเกลียดชัง
“ผมรู้ว่าคุณเกลียดผมมาก”
ชายหนุ่มเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นจนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรที่จะทดแทนสิ่งที่นภิสสูญเสีย แต่สิ่งหนึ่งที่เขาบอกกับตัวเองคือจะดูแลเธอให้ดีที่สุด
“แม้ว่าเราเกลียดพี่สาวเธอ แต่เราก็ยินดีที่จะดูแลเธอตลอดไป”
อัคนีอ่อนลงมาก จากที่จะกลั่นแกล้งเธอให้เจ็บ และเธอบอกเรื่องดังกล่าวกับรังรอง เผื่อ ว่าจะเจ็บเหมือนที่เคยกระทำกับพี่ชายเขา
กลับกลายเป็นว่าเขากลายเป็นคนเจ็บเสียเองที่ประทับตราบาปแก่ผู้หญิงดี ๆ คนหนึ่งให้หมองมัว
‘ถ้ายายนภิสท้องล่ะ เราจะทำอย่างไร’
เขาสะดุ้งเมื่อนึกขึ้นได้ว่าถ้าเธอท้องขึ้นมาจะทำอย่างไร ผู้หญิงตัวคนเดียว ไม่มีสมบัติพัสถานจะดูแลลูกเพียงลำพังได้หรือ ในเมื่อเด็กนั่นเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา
‘เรายินดีรับดูแลลูก’
คำว่าลูกสร้างความอิ่มเอิบแก่เขาไม่น้อย มีความสุขที่จะได้เห็นหน้าเด็กตัวเล็ก ๆ ช่างพูด โดยเฉพาะคำว่าพ่อ
“คุณไฟครับ คุณไฟเกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ”
อัคนีสะดุ้งจากความคิดทั้งหมดทั้งมวลเมื่อกระจงโทรศัพท์เข้ามาด้วยเสียงร้อนรน ซึ่งเขาคิดว่าคงมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น
“มีอะไรหรือกระจง”
“คุณนภิสครับเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า เธอจะให้ผมไปส่งที่ท่ารถครับ”
“อ้าว เกิดบ้าอะไรขึ้น ยายคนนี้หาเรื่องอยู่เรื่อยเลย”
ชายหนุ่มตกใจเมื่อรู้ว่าผู้หญิงที่เขาเพิ่งขืนใจสด ๆ ร้อน ๆ เธอเก็บเสื้อผ้าจะหนีไปจากไร่ เขายอมให้เธอไปไม่ได้
“ผมไม่รู้หรอกครับว่าเกิดอะไรขึ้น คุณไฟจะให้ผมทำยังไงครับ”
“ไม่ต้องไปส่ง”
“ครับ รอสักครู่ครับ ผมบอกคุณนภิศก่อน....”
กระจงเงียบไปครู่หนึ่ง สักพักก็ละล่ำละลักบอกเขาด้วยเสียงขาด ๆ หาย ๆ
“คะ คุณ คุณไฟครับ คือ ผมบอกคุณนภิสแล้ว เธอบอกผมว่าถ้าไม่ไปส่งก็จะเดินออกไปที่ถนนแล้วโบกรถไปที่ท่ารถเองครับ”
“เฮ้ย ! ทำไมชอบสร้างปัญหานัก”
“คุณนภิสเดินออกจากบ้านไปแล้วครับ เอายังไงดี”
ไม่เพียงแต่กระจงตกใจที่นภิสหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าออกจากบ้านในช่วงกลางวันที่แดดร้อนจัด อัคนีก็นั่งไม่ติดเก้าอี้ ลุกขึ้น คว้าพวงกุญแจถือไว้จนแน่น
“กระจงอยู่บ้าน เดี๋ยวฉันไปตามคุณนภิสเอง”
“ครับ เอ เกิดอะไรขึ้นครับ ทำไมคุณนภิสถึงไม่อยากอยู่ที่นี่”
อัคนีไม่ตอบ กดโทรศัพท์ปิดแล้ววิ่งไปขึ้นรถแล้วขับออกไปด้วยความเร็ว เขาบอกกับตัวเองว่าจะตามหญิงสาวกลับบ้านให้เร็วที่สุด
กระจงที่ยืนมองท้ายรถอัคนีที่หน้าบ้าน เขาแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเจ้านายถึงขับรถออกไปด้วยอาการรีบร้อน
“คงมีเรื่องระหว่างสองคนนี่แน่ ๆ แต่เกิดอะไรขึ้นกันแน่ คนอย่างกระจงจะต้องรู้ให้ได้”
กระจงอยู่หน้าบ้านครู่หนึ่งจึงกลับเข้าบ้าน ป้าเจิมเพิ่งกลับจากพาน้องเกี่ยวก้อยไปเดินเล่นเห็นท่าทางแปลก ๆ ของคนขับรถจึงสอบถาม และรู้เรื่องนภิสที่หิ้วกระเป๋าออกไปจากบ้าน แกจึงคาดเดาไปเองว่า หญิงสาวคงถูกใช้งานหนักจนทนไม่ไหวก็ต้องโบกมือลา
แต่กระจงไม่คิดอย่างนั้น เขาหวั่นใจว่าจะเกิดเหตุร้ายกับโภชนาการสาวจนทนอยู่ที่นี่ไม่ได้