11 รังรองนางบำเรอรสแซ่บ 1
“ไปเถอะค่ะ เดี๋ยวมีปัญหา แล้วค่อยนัดกันก็ได้”
รังรองตีบทนางเอกได้แนบเนียน จิมมี่สงสารโน้มตัวลงมาหอมแก้มเบา ๆ
“ขอบคุณครับที่เข้าใจผม”
“ไม่เป็นไรค่ะ รังรองรู้ฐานะตัวเองดีว่าเป็นยังไง ขอให้คุณโชคดีค่ะ”
หลังจากรังรองเรียกน้ำตาให้ตัวด้วยบทนางเอกผู้น่าสงสาร จิมมี่กอดร่างงามไว้แล้วให้เงินสามหมื่นบาทไว้ใช้จ่าย
เสียงประตูปิดเบา ๆ พร้อมกับร่างใหญ่ลับหายไปกับสายตา รังรองกรีดเงินเล่นอย่างมีความสุข เธอลิงโลดกับสิ่งที่ได้รับเต็มที่
เงินคือสิ่งที่ปรารถนา เรื่องตัณหารองลงมา แต่เธอก็จะสนองตอบความต้องการของผู้ชายให้เต็มที่สมกับสิ่งที่เขาปรนเปรอให้แบบไม่อั้นเช่นกัน
บรรยากาศภายในไร่อัคนีเต็มไปด้วยธรรมชาติสวยงาม สร้างความสดชื่นแก่นภิสที่สุด แต่สิ่งเดียวที่บั่นทอนสุขภาพจิตให้อยู่ในระดับต่ำสุดก็คือ เจ้าของไร่ไม่เคยมีท่าทีญาติดีกับเธอเลย
ทุกครั้งที่เจอกัน เธอไม่เคยเห็นว่าอัคนียิ้มจนเธออดคิดไม่ได้ว่า ผู้ชายคนนี้ต่อมยิ้มคงมีปัญหา แม้ว่าเธอจะอึดอัดกับเจ้านาย แต่เธอก็หันไปผูกมิตรกับน้องเกี่ยวก้อย เด็กหญิงผู้อาภัพมีแค่เพียงพ่อ ทว่าไร้แม่เคียงใกล้ แต่เธอไม่กล้าถามว่าแม่ของหนูน้อยไปไหน
จากการที่นภิสช่างเอาใจ ดูแลเอาใจใส่น้องเกี่ยวก้อยเป็นพิเศษ ทำให้เด็กหญิงติดแจร้องหาแต่เธอ แม้แต่เวลานอนก็อยากให้อยู่ด้วย
แต่อัคนีกลับไม่พอใจ ทุกครั้งที่เห็นเธออยู่กับน้องเกี่ยวก้อย เขาจะเข้ามาแทรก และแยกเธอกับเด็กน้อยออกห่างจากกัน
“น้านภิส อุ้ม อุ้ม เกี่ยวก้อยหน่อย”
นภิสหันไปยิ้มกับเด็กหญิงตัวน้อยที่ส่งเสียงแจ้ว ๆ อยู่ข้างหลัง พร้อมกับเอี้ยวตัวไปอุ้มร่างกลมป้อมสวมกระโปรงสีสวยที่เขย่งปลายเท้าขึ้น พร้อมกับชูมือทั้งสองข้าง
“ได้เลยค่ะ อ้าว ฮึบ โอ้โห ตัวหนักไม่ใช่เล่นเลยนะเนี่ย”
หลังจากนภิสอุ้มเด็กหญิงไว้ในอ้อมแขนเรียบร้อยแล้วก็ก้มลงหอมแก้มเบา ๆ เด็กหญิงหัวเราะคิกคัก
“ยายเจิมให้กินน้ำข้าวโพดไปสองแก้วค่ะ”
“โอ กินเยอะไปก็ไม่ดีนะคะเดี๋ยวแน่นท้อง แก้มน้องเกี่ยวก้อยขาวจัง ขอน้านภิสหอมหน่อยนะคะ”
หญิงสาวอดใจไม่ไหวที่จะหอมแก้มป่อง ๆ ของเด็กหญิงที่เอียงให้เธอหอมด้วยความเต็มใจ ก่อนปลายจมูกโด่งจะจดลงบนผิวเนื้ออ่อน อัคนีพาร่างใหญ่เข้ามายืนจ้องด้วยสายตาไม่พอใจ
“คุณจะทำอะไรน่ะ”
เขาถามเสียงห้วนจัด นภิสสะดุ้ง ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก
“อุ๊ย ! คุณอัคนี”
“เกี่ยวก้อย มาหาพ่อ”
เขาเรียกลูกสาวด้วยเสียงอ่อนโยนแล้วกางแขนรับลูกสาวจากนภิสที่ส่งให้ด้วยอาการตื่นตระหนก อาจจะเป็นเพราะกลัวเขาเกินไป เธอเข่าอ่อนเสียหลักร่างเอียงเข้าหาเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว
“อุ๊ย !”
หญิงสาวอุทานด้วยความตกใจเมื่อถูกเขากอดพร้อมกับลูกสาวเต็มอ้อมแขน ซ้ำร้ายกว่านั้นแก้มนวลยังถูกปลายจมูกโด่งประทับรอยจูบไว้เนิ่นนานเพราะเขาก็ตกใจเช่นกัน
“ขะ ขอโทษค่ะ ฉัน ฉัน”
เธอพูดเสียงตะกุกตะกักด้วยความกลัว ก่อนจะขยับตัวออกจากอ้อมแขนแข็งแรง ซึ่งเขายังคงมองด้วยสายตาเย็นชา
“ป้าเจิม ป้าเจิม มารับน้องเกี่ยวก้อยไปที่ห้องนอนด้วย”
“ค่ะ คุณไฟ”
เขาไม่ใส่ใจที่จะสนทนากับเธอ แต่เรียกป้าเจิมให้พาลูกสาวตัวน้อยเข้าไปในห้องนอน และเขามองหญิงสาวด้วยสายตาไม่พอใจ
“คุณนภิส ผมมีเรื่องจะบอกให้คุณเข้าใจ”
“ค่ะ ฉันฟังอยู่ค่ะ”
“ผมจ้างคุณมาเป็นนักโภชนาการนะครับ ไม่ใช่พี่เลี้ยงเด็ก แต่ที่คุณทำตัวเป็นพี่เลี้ยงน้องเกี่ยวก้อย จนลูกสาวผมติดคุณมาก”
“เอ่อ ขอโทษค่ะ นภิสเห็นน้องเกี่ยวก้อยไม่มีเพื่อนก็เลยเข้าไปชวนพูดคุย พาเล่นค่ะ”
“ไม่ต้อง หน้าที่คุณก็คือคิดรายการอาหารกับขนม หลาย ๆ อย่าง ผมจะเอาไปขายที่ร้านริมถนน”
อัคนีพูดโดยไม่มองหน้า ทำราวกับว่าเธอเป็นตัวเชื้อโรคน่ารังเกียจ จนเขาไม่กล้าเข้าใกล้
“ค่ะ ฉันจะคิดรายการอาหารที่อร่อย หน้าตาสวยงามให้เป็นที่เตะตาผู้ซื้อ”
“คุณต้องลงมือทำด้วยแล้วเอามาให้ผมชิม ถ้าไม่ผ่านคุณก็ต้องทำใหม่ทำจนกว่าจะผ่าน และผมขอห้ามคุณ อยู่ห่าง ๆ ลูกสาวผมด้วย”
อัคนีพูด ๆ ต่อไปโดยที่นภิสไม่มีโอกาสได้ตอบโต้ นอกจากฟัง และมองร่างใหญ่ขับรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ออกไป เธอทวนคำพูดเขาอีกครั้งก็อึ้งกับคำห้ามที่เขาบอกให้เธอห่างน้องเกี่ยวก้อย โดยไม่ให้เหตุผลว่าเพราะอะไร